ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ปัจจัยเสี่ยงโรคพาร์กินสัน

โรคพาร์กินสันเกิดจากสาเหตุใด ปัจจัยเสี่ยงคืออะไร การเกิดโรคมีอะไรบ้าง


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

กลไกการเกิดโรคของร่างกายในทุก ๆ โรค มีทั้งปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกัน


เมื่อเกิดโรคได้เพราะปัจจัยต่าง ๆ เสียสมดุล โดยที่ปัจจัยเสี่ยงมากกว่า

สำหรับโรคพาร์กินสันเวลามองปัจจัยเสี่ยง จะต้องมองอย่างรอบด้านว่าอะไรคือปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขได้ และอะไรคือปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขไม่ได้

ปัจจัยเสี่ยง “แก้ไขไม่ได้”


ปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขไม่ได้ คือ อายุที่เพิ่มมากขึ้น

ตามสถิติข้อมูลผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่เก็บในประเทศไทย

อายุเกิน 60 ปี 1 เปอร์เซ็นต์

อายุเกิน 80 ปี 3 เปอร์เซ็นต์

อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 63 ปี

นี่คือสิ่งที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

ปัจจัยเสี่ยง “แก้ไขได้”

สำหรับปัจจัยเสี่ยงโรคพาร์กินสันที่แก้ไขได้ ยกตัวอย่างที่เห็นชัด ๆ ก็คือ

1. เรื่องของสารพิษฆ่าแมลง (ยาฆ่าแมลง) และสารพิษปราบศัตรูพืช (ยาปราบศัตรูพืช) เป็นปัจจัยภายนอก ปัจจัยของสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เป็นสิ่งที่ป้องกันและแก้ไขได้

2. การกระทบกระเทือนทางศีรษะอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยเฉพาะบางอาชีพ เช่น นักมวยไทยมีความเสี่ยงของกลุ่มโรคนี้ค่อนข้างมาก จากการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ ส่วนกลไกการแก้ไขจะเป็นเรื่องการใช้อุปกรณ์ป้องกันหรืออะไรต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงเล็ก ๆ อีกมาก เช่น มลภาวะที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน และเริ่มมีงานวิจัยบอกมากขึ้นในเรื่องของอากาศ การดื่มน้ำบาดาล หรืออะไรต่าง ๆ แต่เป็นปัจจัยที่เล็ก ๆ การศึกษาค่อนข้างน้อย ซึ่งทำให้เห็นว่าปัจจัยเหล่านี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคน แต่เป็นปัจจัยเสริมที่ปัจจุบันข้อมูลยังไม่ค่อยชัดเจน

สารพิษ (ยา) ฆ่าแมลง หรือสารพิษ (ยา) ปราบศัตรูพืช ก่อให้เกิดโรคพาร์กินสันได้อย่างไร

หลัก ๆ สารพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์ที่ผลิตสารโดพามีนเสื่อมลงหรือตาย โดยกลไกสารพิษเหล่านี้จะไปทำให้เซลล์ทำงานไม่ดี มีการเสื่อมของระบบประสาท

เมื่อสารโดพามีนลดลง ผู้ป่วยพาร์กินสันก็จะมีปัญหา 4 อาการหลักทางการเคลื่อนไหว ดังนี้

1. อาการสั่น (Tremor) เป็นอาการเด่นที่พบบ่อยสุด คือจะเริ่มเห็นที่มือ โดยเป็นที่ข้างใดข้างหนึ่งก่อน และเกิดขณะที่อยู่เฉย ๆ อาการสั่นจะลดลงเมื่อใช้มือนั้นทำงาน

2. อาการแข็งเกร็ง (Rigidity) เกิดที่แขนหรือขาข้างเดียวกับที่มีอาการสั่น ทำให้เกิดความลำบากต่อผู้ป่วยมากที่สุด เคลื่อนไหวได้ช้าลง นอกจากนี้ ตัวหนังสือที่ผู้ป่วยเขียนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยตัวหนังสือจะเล็กลงและชิดติดกัน

3. อาการเคลื่อนไหวช้า (Bradykinesia) และเคลื่อนไหวน้อยน้อย (Hypokinesia) ต้องใช้ระยะเวลานานในการเริ่มเคลื่อนไหวร่างกาย

4. อาการทรงตัวไม่สม่ำเสมอ (Postural instability) ผู้ป่วยมักจะเดินซอยเท้าถี่และเล็ก ในลักษณะโน้มตัวไปข้างหน้า และเดินไม่แกว่งแขน

นอกจากนี้ ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันว่าอาการของโรคพาร์กินสันยังรวมไปถึงอาการที่นอกเหนือจากอาการเด่นในการเคลื่อนไหวที่ช้า (Non-motor manifestations) ดังเช่น อาการหลงลืม ซึมเศร้า ท้องผูก รวมไปถึงอาการเสื่อมสมรรถนะทางเพศ

สารพิษหลายตัวสามารถทำให้ผู้ป่วยหรือสัตว์ทดลองมีอาการของพาร์กินโซนิซึม (Parkinsonism) ได้ เช่น MPTP, Paraquat, Organochlorines และ Rotenone ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมของสารพิษกำจัดศัตรูพืช และพิษจากแมงกานีส เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้ทำให้เกิดอาการพาร์กินโซนิซึมได้ ซึ่งอาจจะแยกแยะได้ยากจากผู้ป่วยพาร์กินสันทั่วไป

นอกจากได้รับสารพิษฆ่าแมลงผ่านการหายใจแล้ว ยังมีซึมผ่านทางผิวหนังด้วย ดังนั้น กลไกการป้องกันจึงไม่ใช่เฉพาะเรื่องการใส่หน้ากากแต่เพียงอย่างเดียว

สิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงตลอดคือสิ่งที่กินเข้าไป การกินผักหรืออาหารต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสะสมของสารพิษฆ่าแมลง สารพิษปราบศัตรูพืช ซึ่งเป็นการรับเข้าไปโดยตรง

ปัจจัยเสี่ยงภายนอกกับพันธุกรรมพาร์กินสัน

ในคนที่ได้รับปัจจัยเสี่ยงภายนอก (สารพิษฆ่าแมลง สารพิษปราบศัตรูพืช) และมีพันธุกรรมพาร์กินสันด้วย ก็ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะต้องป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน

คนที่มีพันธุกรรมพาร์กินสันอยู่แล้วจะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น เช่น ถ้าได้รับสารพิษฆ่าแมลงหรือสารพิษปราบศัตรูพืช จะมีผลต่อเซลล์ที่ผลิตสารโดพามีนเพิ่มเป็นทวีคูณ

ในขณะที่คนไม่มีพันธุกรรมพาร์กินสัน ผลกระทบต่อเซลล์ต่าง ๆ จะน้อยกว่า

ดังนั้น จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงสารพิษฆ่าแมลงหรือสารพิษปราบศัตรูพืชจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคพาร์กินสันได้

ปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก (WHO) มีการให้ข้อมูลเรื่องสารพิษที่มีความเสี่ยงต่อระบบประสาท สามารถดูเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงบางปัจจัย อาจเป็นส่วนสำคัญของการป้องกันการเกิดโรคได้

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมสธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ปัจจัยเสี่ยงโรคพาร์กินสัน

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : การป้องกันปัจจัยเสี่ยงโรคพาร์กินสัน

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]