ชัวร์ก่อนแชร์: น้ำแข็งไม่ละลายที่ขั้วโลกใต้ เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 0 องศา จริงหรือ?

21 พฤศจิกายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีคลิปวิดีโอข้อมูลเท็จเผยแพร่ทาง Instagram ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าสภาวะเรื่องโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเป็นเรื่องลวงโลก เพราะภูมิอากาศเฉลี่ยของทวีปแอนตาร์กติกาต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นไปไม่ได้ที่น้ำแข็งจะละลาย นอกจากนี้ยังพบหลักฐานว่าขั้วโลกใต้มีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนมวลน้ำแข็งบริเวณธารน้ำแข็งขั้วโลกใต้ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน กลายเป็นคลิปที่ทำยอดไลก์กว่า 40,000 ครั้งในช่วงสองสัปดาห์


บทสรุป :

  1. แม้ตอนในของทวีปแอนตาร์กติกาจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีที่ -60 °C แต่บริเวณชายฝั่งจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีเหลือเพียง -10 °C
  2. ในช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิบริเวณชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกาจะมีอุณหภูมิสูงกว่าจุดเยือกแข็ง ซึ่งน้ำแข็งสามารถละลายได้
  3. บริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติก เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในโลก โดยพบว่าช่วง 50 ปีที่ผ่านมามีอุณหภูมิสูงขึ้นเกือบ 3 °C

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

คลิปวิดีโอที่ถูกแชร์นำเนื้อหาส่วนหนึ่งมาจากภาพยนตร์สารคดีปี 2016 เรื่อง Climate Hustle ซึ่งผลิตออกมาโดยกลุ่มคนที่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Denialist)


ทวีปแอนตาร์กติกาไม่ได้มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสตลอดเวลา

มีการอ้างความเห็นของ ดอน อิสเทอร์บรูก ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ที่อ้างว่า ครอบน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ (Ice Cap : มวลน้ำแข็งที่ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า 50,000 ตร.กม.) ไม่ละลายอย่างที่มีการกล่าวอ้าง เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยที่ทวีปแอนตาร์กติกาอยู่ที่ -58 องศาเซลเซียส น้ำแข็งจึงไม่มีทางละลาย นอกจากนี้อุณหภูมิเฉลี่ยที่แอนตาร์กติกามีแต่จะลดลงอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจจากศูนย์วิจัย British Antarctic Survey พบว่า ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยที่ทวีปแอนตาร์กติกาแทบไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ อุณหภูมิในแต่ละพื้นที่ของแอนตาร์กติกายังมีความแตกต่างกันอย่างมาก ข้อมูลปี 2022 จากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า พื้นที่ตอนในของแอนตาร์กติกามีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีที่ -60 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณชายฝั่งที่อยู่ติดกับทะเลจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีที่ -10 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนของขั้วโลกใต้ (ตุลาคม-กุมภาพันธ์) พบว่าอุณหภูมิบางวันสูงกว่า 0 องศาเซลเซียส ซึ่งน้ำแข็งสามารถละลายได้

คาบสมุทรแอนตาร์กติกช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว
ตอนบนคาบสมุทรแอนตาร์กติกช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ปัจจัยที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย นอกจากอุณหภูมิในบรรยากาศแล้ว ยังมาจากอุณหภูมิในน้ำทะเลเช่นกัน

แคเธอรีน วอล์คเกอร์ นักธรณีวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็งจากศูนย์วิจัยด้านสมุทรศาสตร์ สถาบัน Woods Hole Oceanographic Institution ชี้แจงว่า การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกใต้ที่วงการวิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญ คือบริเวณที่ติดกับชายฝั่งทะเล ไม่ใช่พื้นที่ตอนในของทวีป ในช่วงฤดูร้อนของแอนตาร์กติกาซึ่งอุณหภูมิสูงกว่าจุดเยือกแข็ง การสัมผัสน้ำทะเลที่อุณหภูมิอุ่นกว่าส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกใต้เกิดการละลาย

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลให้มหาสมุทรใต้หรือมหาสมุทรแอนตาร์กติกมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติก (Antarctic Peninsula) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของขั้วโลกใต้ หนึ่งในสถานที่ที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในโลก ผลสำรวจขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) พบว่าในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา คาบสมุทรแอนตาร์กติกมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส หรือเพิ่มขึ้น 0.5 องศาเซลเซียสทุก ๆ ทศวรรษ

ปริมาณน้ำแข็งบริเวณธารน้ำแข็งขั้วโลกใต้ลดลงอีกครั้ง

จูดิธ เคอร์รี อดีตนักอุตุนิยมวิทยาจากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย เทค กล่าวในคลิปที่ถูกแชร์ว่า เครื่องมือพยากรณ์สภาพภูมิอากาศทำนายว่าปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาจะลดลง แต่ความเป็นจริงแล้วตรง
กันข้าม เพราะปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์

การสำรวจปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาทำด้วยการเปรียบเทียบภาพถ่ายจากดาวเทียม โดยจะสำรวจในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่ปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกใต้เปลี่ยนแปลงมากที่สุด

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกาหรือ NASA ได้สำรวจปริมาณนำแข็งขั้วโลกใต้ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 พบว่าในช่วงปี 2014 ปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกากลับลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

มอลน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกในเดือนกุมภาพันธ์(หน้าร้อน) 1980-2023

NASA ได้สำรวจปริมาณน้ำแข็งของธารน้ำแข็งภาคพื้นทวีปหรือพืดน้ำแข็ง (Ice Sheet : มวลน้ำแข็งที่ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า 50,000 ตร.กม.) ของทวีปแอนตาร์กติกานับตั้งแต่ปี 2002 ผลสำรวจพบว่าแต่ละปีปริมาณน้ำแข็งของพืดน้ำแข็งขั้วโลกใต้ลดลงถึงประมาณปีละ 1.5 แสนล้านเมตริกตันต่อปี หรือสูญเสียน้ำแข็งตั้งแต่การสำรวจเมื่อปี 2002 ไปแล้ว 3 ล้านล้านเมตริกตัน

จูดิธ เคอร์รี เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาโลกและบรรยากาศศาสตร์ของจอร์เจีย เทค แต่ลาออกจากตำแหน่งในปี 2017 เนื่องจากมีความเห็นขัดแย้งกับวงการวิทยาศาสตร์ แม้เธอจะยอมรับว่าโลกกำลังเผชิญกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่เธอไม่เชื่อว่ากิจกรรมของมนุษย์มีอิทธิพลสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

ส่วน ดอน อิสเทอร์บรูก นักธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นวอชิงตัน มีความเชื่อว่า สภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว และไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะมีความสำคัญอย่างที่วงการวิทยาศาสตร์รณรงค์กันอยู่ในปัจจุบัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://climatefeedback.org/claimreview/antarctic-ice-coverage-not-increasing-record-levels-nor-continent-getting-colder-contrary-to-curry-easterbrook-cfact-movie/
https://www.usatoday.com/story/news/factcheck/2023/04/28/fact-check-antarctic-ice-melting-sea-ice-set-record-low/11744244002/
https://www.politifact.com/factchecks/2023/apr/25/instagram-posts/yes-the-antarctic-ice-sheets-are-melting-scientist/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย