ชัวร์ก่อนแชร์: น้ำแข็งไม่ละลายที่ขั้วโลกใต้ เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 0 องศา จริงหรือ?

21 พฤศจิกายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีคลิปวิดีโอข้อมูลเท็จเผยแพร่ทาง Instagram ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าสภาวะเรื่องโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเป็นเรื่องลวงโลก เพราะภูมิอากาศเฉลี่ยของทวีปแอนตาร์กติกาต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นไปไม่ได้ที่น้ำแข็งจะละลาย นอกจากนี้ยังพบหลักฐานว่าขั้วโลกใต้มีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนมวลน้ำแข็งบริเวณธารน้ำแข็งขั้วโลกใต้ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน กลายเป็นคลิปที่ทำยอดไลก์กว่า 40,000 ครั้งในช่วงสองสัปดาห์


บทสรุป :

  1. แม้ตอนในของทวีปแอนตาร์กติกาจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีที่ -60 °C แต่บริเวณชายฝั่งจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีเหลือเพียง -10 °C
  2. ในช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิบริเวณชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกาจะมีอุณหภูมิสูงกว่าจุดเยือกแข็ง ซึ่งน้ำแข็งสามารถละลายได้
  3. บริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติก เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในโลก โดยพบว่าช่วง 50 ปีที่ผ่านมามีอุณหภูมิสูงขึ้นเกือบ 3 °C

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

คลิปวิดีโอที่ถูกแชร์นำเนื้อหาส่วนหนึ่งมาจากภาพยนตร์สารคดีปี 2016 เรื่อง Climate Hustle ซึ่งผลิตออกมาโดยกลุ่มคนที่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Denialist)


ทวีปแอนตาร์กติกาไม่ได้มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสตลอดเวลา

มีการอ้างความเห็นของ ดอน อิสเทอร์บรูก ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ที่อ้างว่า ครอบน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ (Ice Cap : มวลน้ำแข็งที่ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า 50,000 ตร.กม.) ไม่ละลายอย่างที่มีการกล่าวอ้าง เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยที่ทวีปแอนตาร์กติกาอยู่ที่ -58 องศาเซลเซียส น้ำแข็งจึงไม่มีทางละลาย นอกจากนี้อุณหภูมิเฉลี่ยที่แอนตาร์กติกามีแต่จะลดลงอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจจากศูนย์วิจัย British Antarctic Survey พบว่า ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยที่ทวีปแอนตาร์กติกาแทบไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ อุณหภูมิในแต่ละพื้นที่ของแอนตาร์กติกายังมีความแตกต่างกันอย่างมาก ข้อมูลปี 2022 จากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า พื้นที่ตอนในของแอนตาร์กติกามีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีที่ -60 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณชายฝั่งที่อยู่ติดกับทะเลจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีที่ -10 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนของขั้วโลกใต้ (ตุลาคม-กุมภาพันธ์) พบว่าอุณหภูมิบางวันสูงกว่า 0 องศาเซลเซียส ซึ่งน้ำแข็งสามารถละลายได้

คาบสมุทรแอนตาร์กติกช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว
ตอนบนคาบสมุทรแอนตาร์กติกช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ปัจจัยที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย นอกจากอุณหภูมิในบรรยากาศแล้ว ยังมาจากอุณหภูมิในน้ำทะเลเช่นกัน

แคเธอรีน วอล์คเกอร์ นักธรณีวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็งจากศูนย์วิจัยด้านสมุทรศาสตร์ สถาบัน Woods Hole Oceanographic Institution ชี้แจงว่า การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกใต้ที่วงการวิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญ คือบริเวณที่ติดกับชายฝั่งทะเล ไม่ใช่พื้นที่ตอนในของทวีป ในช่วงฤดูร้อนของแอนตาร์กติกาซึ่งอุณหภูมิสูงกว่าจุดเยือกแข็ง การสัมผัสน้ำทะเลที่อุณหภูมิอุ่นกว่าส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกใต้เกิดการละลาย

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลให้มหาสมุทรใต้หรือมหาสมุทรแอนตาร์กติกมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติก (Antarctic Peninsula) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของขั้วโลกใต้ หนึ่งในสถานที่ที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในโลก ผลสำรวจขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) พบว่าในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา คาบสมุทรแอนตาร์กติกมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส หรือเพิ่มขึ้น 0.5 องศาเซลเซียสทุก ๆ ทศวรรษ

ปริมาณน้ำแข็งบริเวณธารน้ำแข็งขั้วโลกใต้ลดลงอีกครั้ง

จูดิธ เคอร์รี อดีตนักอุตุนิยมวิทยาจากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย เทค กล่าวในคลิปที่ถูกแชร์ว่า เครื่องมือพยากรณ์สภาพภูมิอากาศทำนายว่าปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาจะลดลง แต่ความเป็นจริงแล้วตรง
กันข้าม เพราะปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์

การสำรวจปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาทำด้วยการเปรียบเทียบภาพถ่ายจากดาวเทียม โดยจะสำรวจในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่ปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกใต้เปลี่ยนแปลงมากที่สุด

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกาหรือ NASA ได้สำรวจปริมาณนำแข็งขั้วโลกใต้ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 พบว่าในช่วงปี 2014 ปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ปริมาณน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกากลับลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

มอลน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกในเดือนกุมภาพันธ์(หน้าร้อน) 1980-2023

NASA ได้สำรวจปริมาณน้ำแข็งของธารน้ำแข็งภาคพื้นทวีปหรือพืดน้ำแข็ง (Ice Sheet : มวลน้ำแข็งที่ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า 50,000 ตร.กม.) ของทวีปแอนตาร์กติกานับตั้งแต่ปี 2002 ผลสำรวจพบว่าแต่ละปีปริมาณน้ำแข็งของพืดน้ำแข็งขั้วโลกใต้ลดลงถึงประมาณปีละ 1.5 แสนล้านเมตริกตันต่อปี หรือสูญเสียน้ำแข็งตั้งแต่การสำรวจเมื่อปี 2002 ไปแล้ว 3 ล้านล้านเมตริกตัน

จูดิธ เคอร์รี เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาโลกและบรรยากาศศาสตร์ของจอร์เจีย เทค แต่ลาออกจากตำแหน่งในปี 2017 เนื่องจากมีความเห็นขัดแย้งกับวงการวิทยาศาสตร์ แม้เธอจะยอมรับว่าโลกกำลังเผชิญกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่เธอไม่เชื่อว่ากิจกรรมของมนุษย์มีอิทธิพลสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

ส่วน ดอน อิสเทอร์บรูก นักธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นวอชิงตัน มีความเชื่อว่า สภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว และไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะมีความสำคัญอย่างที่วงการวิทยาศาสตร์รณรงค์กันอยู่ในปัจจุบัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://climatefeedback.org/claimreview/antarctic-ice-coverage-not-increasing-record-levels-nor-continent-getting-colder-contrary-to-curry-easterbrook-cfact-movie/
https://www.usatoday.com/story/news/factcheck/2023/04/28/fact-check-antarctic-ice-melting-sea-ice-set-record-low/11744244002/
https://www.politifact.com/factchecks/2023/apr/25/instagram-posts/yes-the-antarctic-ice-sheets-are-melting-scientist/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย