Glacier partially collapsed, creating a huge cloud towards Swiss village

ธารน้ำแข็งถล่มฝังหมู่บ้านในสวิตเซอร์แลนด์

แบลตเทน 29 พ.ค.- ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่บนเทือกเขาแอลป์ในสวิตเซอร์แลนด์แตกและพังถล่มลงมา ทำให้มีน้ำแข็ง ดินโคลน และก้อนหินปริมาณมหาศาลไหลทะลักท่วมหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีการอพยพชาวบ้านออกไปก่อนแล้ว เหตุเกิดที่เทศบาลเมืองแบลตเทน รัฐวาเล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ คลิปที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นช่วงเวลาที่ธารน้ำแข็งบางส่วนพังถล่มลงมาตามเชิงเขาจนเกิดฝุ่นขนาดใหญ่ฟุ้งกระจายที่ด้านล่าง เจ้าหน้าที่เผยว่า หมู่บ้านที่อยู่ด้านล่างถูกฝังเกือบทั้งหมด และมีผู้สูญหายอยู่ 1 คน ทางการได้สั่งอพยพชาวบ้านประมาณ 300 คน และปศุสัตว์ออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม เนื่องจากภูเขาเริ่มสั่นไหว นักธรณีวิทยาเตือนว่า มีความเสี่ยงที่ธารน้ำแข็งและหินจำนวนมากจากด้านบนจะพังถล่มลงมาในเวลาอันใกล้ หลังจากนั้นมีดินและหินหลายล้านลูกบาศก์เมตรพังถล่มลงมาอย่างต่อเนื่อง สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศไม่มีทางออกสู่ทะเลและมีเทือกเขาแอลป์พาดผ่าน โดยมีธารน้ำแข็งมากที่สุดในยุโรป ผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลมาโดยตลอดเรื่องธารน้ำแข็งละลายในช่วงหลายปีมานี้ ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะโลกร้อน โดยเมื่อปี 2565 และ 2566 มีธารน้ำแข็งละลายมากที่สุดถึงร้อยละ 6 และร้อยละ 4 ตามลำดับ.-816(814).-สำนักข่าวไทย

อุณหภูมิโลกสูง

อุณหภูมิโลกที่สูงเป็นสถิติใหม่ปีที่แล้ว เร่งน้ำแข็งละลาย-ระดับน้ำทะเลเพิ่ม

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ ดับเบิลยูเอ็มโอ กล่าววันนี้ว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกที่สูงเป็นประวัติการณ์ทำให้อุณหภูมิของโลกในปี 2024 เพิ่มสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่

ธารน้ำแข็งละลายในไอซ์แลนด์พัดสะพานขาด

เรคยาวิก 29 ก.ค.- ธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์ละลายส่งผลให้เกิดมวลน้ำปริมาณมหาศาลไหลเชี่ยวพัดสะพานทางหลวงแห่งหนึ่งขาด จนต้องปิดใช้งาน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์แจ้งว่า กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวส่งผลให้สะพานบนถนนวงแหวนสายหนึ่งพังเสียหายเป็นบางส่วน เห็นได้ชัดเจนว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มีความรุนแรงมากกว่าปกติ  อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ สถานการณ์น้ำท่วมเส้นทางและสะพานพังถล่มทำให้ต้องปิดการสัญจรอย่างไม่มีกำหนด ทางหลวงสายนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองชายฝั่งทางภาคใต้ไปยังภาคตะวันออก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าระดับน้ำจะเพิ่มจนถึงระดับสูงสุดเมื่อใด.-816(814).-สำนักข่าวไทย

พบศพนักปีนเขาไม่เน่าเปื่อย หลังหายไป 22 ปี

ลิมา 10 ก.ค.- ตำรวจและทีมกู้ภัยของเปรูพบร่างนักปีนเขาชาวอเมริกันจมอยู่ใต้ธารน้ำแข็งบนภูเขาสูงในสภาพศพที่ไม่เน่าเปื่อย หลังจากหายตัวไปเมื่อ 22 ปีก่อน ร่างของนักปีนเขารายดังกล่าวอยู่ในสภาพกลายเป็นมัมมี่ เนื่องจากร่างกายไม่เน่าเปื่อย เพราะจมอยู่ในธารน้ำแข็งมาตลอด สภาพศพยังคงอยู่ในชุดปีนเขาอย่างครบถ้วนมีทั้งเสื้อผ้า รองเท้าบู๊ท และตะขอเหล็กสำหรับเจาะน้ำแข็ง  นอกจากนี้ยังพบเอกสารสำคัญหลายอย่าง ทั้งใบอนุญาตขับขี่และหนังสือเดินทาง ซึ่งระบุชื่อนายวิลเลียม สแตมป์เฟิล เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เขาน่าจะเสียชีวิตจากเหตุการณ์หิมะถล่มเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว จุดที่พบร่างของนายสแตมป์เฟิลอยู่บนภูเขาฮัวซ์การัน ที่ระดับความสูง 5,200 เมตร เป็นภูเขาในเทือกเขาแอนดีสที่มียอดเขาสูงที่สุดในเปรูที่ 6,768 เมตร  ภูเขาลูกนี้มีธารน้ำแข็งปกคลุมตลอดทั้งปี แต่เจ้าหน้าที่อุทยานฮัวซการันเผยว่า ในช่วง 10 ปีมานี้ธารน้ำแข็งเกิดการละลายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ชัวร์ก่อนแชร์: ธารน้ำแข็งโลกไม่เคยลดลงตลอด 100 ปีที่ผ่านมา จริงหรือ?

จำนวนธารน้ำแข็งไม่ใช่สิ่งวัดปริมาณน้ำแข็งของขั้วโลก เพราะในฤดูร้อนที่ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ละลาย จะก่อให้เกิดธารน้ำแข็งขนาดเล็กจำนวนมากเช่นกัน

ชัวร์ก่อนแชร์: “อัล กอร์” เคยทำนายว่าน้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะละลายหมดในปี 2013 จริงหรือ?

แม้น้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะไม่หมดไปในปี 2013 แต่มวลน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือลดลงไปแล้วถึงทศวรรษละ 12.6%

ชัวร์ก่อนแชร์: ขั้วโลกเหนือมีธารน้ำแข็งเพิ่มขึ้น จริงหรือ?

นับตั้งแต่ปี 2002 ขั้วโลกเหนือสูญเสียมวลน้ำแข็งไปแล้ว 5.2 ล้านล้านเมตริกตัน หรือเฉลี่ย 2.7 แสนล้านเมตริกตันต่อปี

ชัวร์ก่อนแชร์: น้ำแข็งไม่ละลายที่ขั้วโลกใต้ เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 0 องศา จริงหรือ?

แม้ตอนในของทวีปแอนตาร์กติกาจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย -60 °C แต่บริเวณชายฝั่งจะมีอุณหภูมิเพียง -10 °C ในช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิบางวันจะสูงกว่าจุดเยือกแข็งซึ่งน้ำแข็งละลายได้

ชัวร์ก่อนแชร์: ภาพดอกไม้บานที่ขั้วโลกใต้ จริงหรือ?

เป็นการนำภาพดอกไม้จากขั้วโลกเหนือ มาประกอบรายงานข่าวเกี่ยวกับขั้วโลกใต้ ผู้วิจัยพบว่า สภาวะโลกร้อนส่งผลให้พันธุ์พืชในขั้วโลกใต้ขยายพันธุ์มากขึ้นในปัจจุบัน

ยุโรปเสี่ยงเกิดภัยแล้งช่วงฤดูร้อนซ้ำอีก

กลุ่มสังเกตการณ์สภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) เตือนว่า ภัยแล้งรุนแรงที่ทำให้ธารน้ำแข็งละลายในช่วงฤดูร้อนปี 2565 ซึ่งเป็นฤดูร้อนที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ของยุโรป อาจเกิดขึ้นซ้ำอีกในปีนี้ เนื่องจากอุณหภูมิของยุโรปสูงขึ้นเร็วกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก

ธารน้ำแข็งเกือบครึ่งโลกจะละลายภายในปี 2643

ทีมนักวิจัยนานาชาติ พบว่าธารน้ำแข็งเกือบครึ่งโลกจะละลายภายในปี 2643 แม้ว่าทั่วโลกจะรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยไม่ให้เกิน 1.5 องศาฯ

ธารน้ำแข็งครึ่งโลกจะหายไปภายในปี 2643

วอชิงตัน 6 ม.ค.- ผลการศึกษาใหม่พบว่า ธารน้ำแข็งครึ่งโลกจะละลายหายไปหมดภายในสิ้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 คือสิ้นปี พ.ศ.2643 อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และหากช่วยกันจำกัดภาวะโลกร้อนก็จะช่วยรักษาธารน้ำแข็งที่เหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่งไว้ได้ ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารไซเอินซ์ฉบับวันที่ 5 มกราคมวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธารน้ำแข็งจากฉากทัศน์ที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้นในองศาเซลเซียสที่แตกต่างกัน 4 ฉากทัศน์ ได้แก่ 1.5, 2, 3 และ 4 องศาเซลเซียส ผลการศึกษาพบว่า ยิ่งองศาเพิ่มขึ้นยิ่งทำให้ธารน้ำแข็งละลายมากขึ้น แม้แต่ฉากทัศน์ที่อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด 1.5 องศาเซลเซียสจากยุคก่อนอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายในข้อตกลงปารีส ปี 2558 ธารน้ำแข็งร้อยละ 49 จากที่มีอยู่ทั้งหมด 215,000 แห่งในเวลานี้จะละลายหายไปภายในปี 2643 คิดเป็นร้อยละ 26 ของปริมาณธารน้ำแข็งทั้งหมด เพราะธารน้ำแข็งขนาดเล็กที่สุดจะละลายก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนใหญ่อยู่ตามเทือกเขาแอลป์และเทือกเขาคอเคซัสในยุโรป เทือกเขาแอนดีสในอเมริกาใต้ แต่หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น 4 องศาเซลเซียส ธารน้ำแข็งทั่วโลกจะละลายหายไปมากถึงร้อยละ 83 ภายในสิ้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นคริสต์ศตวรรษนี้ อย่างไรก็ดี ประเมินกันว่าอุณหภูมิโลกในขณะนี้จะเพิ่มขึ้น 2.7 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้ธารน้ำแข็งในยุโรปกลาง […]

1 2
...