จัดงานปั่นเชื่อมโยง 4 จังหวัดเมืองล้านนาตะวันออก ทัวร์ ออฟ ล้านนา ปั่นขึ้นดอย

นายบำรุง สังข์ขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา  พร้อมด้วย นายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่,  นายวิภุช วิเศษสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา ,นางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน  และ นางสาวมุกภารัศมิ์ พรมอะริยะ  ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย และ ว่าที่ร้อยตรีรังสรรค์ จอมนวล นักวิเคราะห์และนโยบายแผนชำนาญการผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ ร่วมแถลงข่าวกิจกรรมปั่นขึ้นดอย กอย 4 เมืองล้านนาตะวันออก  ณ ห้องแคทลียา 2 ชั้น 1 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 


นายบำรุง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 และ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้กิจกรรมนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัย ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.พะเยา จ.แพร่ จ.น่าน จ.เชียงราย ต่างก็ประสบกับอุทกภัยในพื้นที่อย่างมาก ทางกลุ่มจังหวัดก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ และมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น เป็นการช่วยฟื้นฟูหลังอุทกภัยในอีกทางหนึ่ง

สำหรับรูปแบบกิจกรรมจะจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา คือการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา  กิจกรรมปั่นขึ้นดอย กอย 4 เมืองล้านนาตะวันออก ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) วันที่ 23 – 30 ธันวาคม 2567 จำนวน 8 วัน 8  สนาม ซึ่งเป็นการดำเนินการแข่งขันตามกติกามาตรฐานสากลของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI.) รับรองการจัดแข่งขันโดยจากสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การแข่งขันได้มาตรฐานเป็นสากล และจะมีนักปั่นทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมแข่งขัน 
ส่วนรูปแบบการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบเซอร์กิตเรซ เป็นการแข่งขันโดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด ซึ่งมีระยะทางประมาณ  1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ  และประเภทที่ 2 คือการแข่งขันแบบ โรดเรซ เป็นรูปแบบการแข่งขันบนถนน แบบทางไกล ซึ่งใช้เส้นทางแต่ละจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด โดยเริ่มจาก จ.แพร่ ไป จ.น่าน เข้า จ.พะเยา และไปสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย


“ตอนนี้ทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อม ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น สนามแข่งขัน ที่พัก อาหาร ซึ่งด้านมาตรฐานและความปลอดภัย จะมีเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้และประสบการณ์ผ่านการอบรมจากหน่วยงานราชการ นอกจากนี้ได้จัดทำระบบการท่องเที่ยวเสมือนจริง (Virtual Tour) ในลักษณะ Animation หมุนแบบ 360 องศา บนแฟลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งบรรจุฐานข้อมูลการท่องเที่ยวโดยชุมชนในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) จำนวน 40 ชุมชน เพื่อจัดแสดง รองรับการใช้งาน 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน” นายบำรุง กล่าว

สำหรับเส้นทางแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา ทั้ง 8 สเตจ มีดังนี้วันที่ 23 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 1 (Circuit Race) รอบเมืองแพร่ ,วันที่ 24 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 2 (Road Race) แพร่ – น่าน, วันที่ 25 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 3 (Circuit Race) รอบเมืองน่าน, วันที่ 26 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 4 (Road Race) น่าน – พะเยา,วันที่ 27 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 5 (RCircuit Race) รอบเมืองพะเยา, วันที่ 28 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 6 (Road Race) พะเยา – เชียงราย,วันที่ 29 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 7 (Circuit Race) รอบเมืองเชียงราย และ วันที่ 30 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 8 (Road Race) เชียงราย-อำเภอแม่สาย
โดยมีรุ่นการแข่งขันดังนี้ ชาย รุ่น A ชาย open  ,รุ่น B ชาย  (อายุ 30 ปีขึ้นไป +เยาวชน) , รุ่น C ชาย อายุ 40 ปี ขึ้นไป , รุ่น D ชาย อายุ 50 ปี ขึ้นไป หญิงมี 2 รุ่นดังนี้ รุ่น E หญิง A (เยาวชน)  และ รุ่น F หญิง B (ทั่วไป)

นายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดแพร่ เป็นจังหวัดแรกที่เป็นประตูสู่ล้านนาตะวันออก มีการแข่งขันจักรยานทางไกล  ทัวร์ ออฟล้านนา  ในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 1 แข่งรอบเมืองแพร่ เป็นการแข่งขันจักรยานโดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ โดยการแข่งขันจะใช้ระยะทางแข่งขันประมาณ 1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ การแข่งขันจะใช้ระยะทางรวมประมาณ 30 กิโลเมตร สำหรับวันที่ 24 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 2 สตาร์จาก แพร่ เข้าเส้นชัยที่ จังหวัดน่าน ซึ่งจังหวัดแพร่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง อาทิ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแพร่ และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล, วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร, บ้านวงศ์บุรี, อุทยานแห่งชาติแม่ยม, แพะเมืองผี เป็นต้น ยังมีสินค้า OTOP ที่มีความโดดเด่น เป็นที่ต้องการของตลาด คือ เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายพื้นเมือง, และของที่ระลึก


ด้านนางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับจังหวัดน่าน เป็นจังหวัดที่สอง ของการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา  จะมีการแข่งขัน ใน วันที่ 25 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 3 รอบเมืองน่าน โดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน โดยการแข่งขันจะใช้ระยะทางแข่งขันประมาณ 1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ การแข่งขันจะใช้ระยะทางรวมประมาณ 30 กิโลเมตร  สำหรับวันที่ 26 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 4 จาก สตาร์จากน่านและไปเข้าเส้นชัยที่จังหวัด พะเยา  ซึ่งการแข่งขันจะผ่านแหล่งท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว ของทั้งสองจังหวัดอีกด้วย จังหวัดน่าน มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ อาทิ วัดภูมินทร์, วัดพระธาตุแช่แห้ง, จุดชมทะเลหมอกดอยเสมอดาว, วัดถ้ำเชตวัน  ยังมีกิจกรรมงานประเพณีที่น่าสนใจ เช่น งานประเพณีแข่งเรือน่าน, ประเพณีหกเป็งนมัสการพระธาตุแช่แห้ง ของฝากและของที่ระลึก เช่น ข้าวหลาม, เครื่องเงินน่าน, ผ้าทอลายน้ำไหล, กาแฟ, โกโก้, น้ำพริกมะแขว่น  และสุดยอดกิจกรรมท้าทายทั้งกายและใจ กิจกรรมล่องแก่ง, พายซัพบอร์ดแม่น้ำว้า,  พารามอเตอร์ชมทุ่งนาปัว เป็นต้น
นางสาวมุกภารัศมิ์ พรมอะริยะ  ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย  กล่าวว่า สำหรับจังหวัดเชียงราย เป็นสนามสุดท้ายของการแข่งขันในครั้งนี้ โดยจะมีการแข่งขันจักรยานทางไกล (Tour of Lanna) จากจังหวัดพะเยา มายังจังหวัดเชียงราย โดยในวันที่ 29 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 7 (Circuit Race) รอบเมืองเชียงราย เป็นการแข่งขันจักรยาน โดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย โดยการแข่งขันจะใช้ระยะทางแข่งขันประมาณ 1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ การแข่งขันจะใช้ระยะทางรวมประมาณ 30 กิโลเมตร

สำหรับวันที่ 30 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 8 (Road Race) เชียงราย – อำเภอแม่สาย เป็นการแข่งขันไปยัง  อำเภอแม่สาย อำเภอเหนือสุดของประเทศไทย โดยที่ผ่านมาอำเภอแม่สาย เป็นหนึ่งในอำเภอของ  จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวนหลายครั้ง ได้รับผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และหลาย ๆ ด้าน ซึ่งตอนนี้ยังต้องการฟื้นฟูหลังอุทกภัยที่ผ่านไปแล้วให้กลับมาเหมือนเดิม
จังหวัดเชียงราย ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญในภาคเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 ประเทศ คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ  ยังอยู่ใกล้กับพรมแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีนทางตอนใต้ด้วย ในส่วนของกลุ่มชาติพันธุ์ จังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดที่มีชาติพันธุ์ในอดีตถึง 30 ชาติพันธุ์ ซึ่งทำให้เชียงราย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้จังหวัดเชียงราย มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งความงดงามทางธรรมชาติ ความล้ำค่าทางศิลปวัฒนธรรมล้านนา    มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวิถีชีวิต และประเพณีที่ปัจจุบันยังคงปรากฏกลิ่นอายร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวเชียงราย เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนอยู่เสมอ ทำให้จังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก  และจังหวัดเชียงราย เป็น 1 ใน 10 จังหวัด ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองกีฬา (Sports City) และเป็นเมืองแห่งการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sports Tourism) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งนี้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา อาทิเช่น ดอยช้างเทรล 2024, การจัดการแข่งขันกีฬาชาวไทยภูเขาจังหวัดเชียงราย ประจำปี 2567 เป็นต้น

นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ที่ จ.พะเยา ซึ่งจะจัดขึ้นถึง 3 สนาม ตามสโลแกน “พะเยาปั่นฟิตทุกวัย ใส่ใจสุขภาพ” เป็นการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ปั่นไปยังแหล่งท่องเที่ยว ผ่านชุมชนท่องเที่ยว เพื่อให้    นักปั่น ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมภายในจังหวัดพะเยา
สนามที่ 1 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 ตุลาคม 2567 ปั่นรอบกว๊านพะเยา ระะยทาง 33.5 กม.
สนามที่ 2 ปั่นภูกามยาว ระยะทาง 35 กิโลเมตร ระหว่างวันที่   วันที่ 22 – 23 ตุลาคม 2567 
และสนามที่ 3 ปั่น ม.พะเยา ระยะทาง 36 กิโลเมตร ระหว่างวันที่ วันที่ 9 – 10 พฤศจิกายน 2567
สำหรับนักปั่นที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารติดตามรายละเอียดต่างๆที่ได้เพจเฟสบุ๊ค Touroflanna  และเพจเฟสบุ๊ค  พะเยาปั่นฟิตทุกวัย ใส่ใจสุขภาพ  ที่จะเปิดรับสมัครออนไลน์ทั้ง  3 สนาม
FB: Touroflanna
https://www.facebook.com/touroflanna2017?mibextid=ZbWKwL

FB : พะเยาปั่นฟิตทุกวัย ใส่ใจสุขภาพ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61566228356995&mibextid=ZbWKwL

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย