จัดงานปั่นเชื่อมโยง 4 จังหวัดเมืองล้านนาตะวันออก ทัวร์ ออฟ ล้านนา ปั่นขึ้นดอย

นายบำรุง สังข์ขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา  พร้อมด้วย นายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่,  นายวิภุช วิเศษสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา ,นางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน  และ นางสาวมุกภารัศมิ์ พรมอะริยะ  ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย และ ว่าที่ร้อยตรีรังสรรค์ จอมนวล นักวิเคราะห์และนโยบายแผนชำนาญการผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ ร่วมแถลงข่าวกิจกรรมปั่นขึ้นดอย กอย 4 เมืองล้านนาตะวันออก  ณ ห้องแคทลียา 2 ชั้น 1 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 


นายบำรุง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 และ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้กิจกรรมนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัย ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.พะเยา จ.แพร่ จ.น่าน จ.เชียงราย ต่างก็ประสบกับอุทกภัยในพื้นที่อย่างมาก ทางกลุ่มจังหวัดก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ และมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น เป็นการช่วยฟื้นฟูหลังอุทกภัยในอีกทางหนึ่ง

สำหรับรูปแบบกิจกรรมจะจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา คือการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา  กิจกรรมปั่นขึ้นดอย กอย 4 เมืองล้านนาตะวันออก ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) วันที่ 23 – 30 ธันวาคม 2567 จำนวน 8 วัน 8  สนาม ซึ่งเป็นการดำเนินการแข่งขันตามกติกามาตรฐานสากลของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI.) รับรองการจัดแข่งขันโดยจากสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การแข่งขันได้มาตรฐานเป็นสากล และจะมีนักปั่นทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมแข่งขัน 
ส่วนรูปแบบการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบเซอร์กิตเรซ เป็นการแข่งขันโดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด ซึ่งมีระยะทางประมาณ  1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ  และประเภทที่ 2 คือการแข่งขันแบบ โรดเรซ เป็นรูปแบบการแข่งขันบนถนน แบบทางไกล ซึ่งใช้เส้นทางแต่ละจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด โดยเริ่มจาก จ.แพร่ ไป จ.น่าน เข้า จ.พะเยา และไปสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย


“ตอนนี้ทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อม ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น สนามแข่งขัน ที่พัก อาหาร ซึ่งด้านมาตรฐานและความปลอดภัย จะมีเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้และประสบการณ์ผ่านการอบรมจากหน่วยงานราชการ นอกจากนี้ได้จัดทำระบบการท่องเที่ยวเสมือนจริง (Virtual Tour) ในลักษณะ Animation หมุนแบบ 360 องศา บนแฟลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งบรรจุฐานข้อมูลการท่องเที่ยวโดยชุมชนในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) จำนวน 40 ชุมชน เพื่อจัดแสดง รองรับการใช้งาน 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน” นายบำรุง กล่าว

สำหรับเส้นทางแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา ทั้ง 8 สเตจ มีดังนี้วันที่ 23 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 1 (Circuit Race) รอบเมืองแพร่ ,วันที่ 24 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 2 (Road Race) แพร่ – น่าน, วันที่ 25 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 3 (Circuit Race) รอบเมืองน่าน, วันที่ 26 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 4 (Road Race) น่าน – พะเยา,วันที่ 27 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 5 (RCircuit Race) รอบเมืองพะเยา, วันที่ 28 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 6 (Road Race) พะเยา – เชียงราย,วันที่ 29 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 7 (Circuit Race) รอบเมืองเชียงราย และ วันที่ 30 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 8 (Road Race) เชียงราย-อำเภอแม่สาย
โดยมีรุ่นการแข่งขันดังนี้ ชาย รุ่น A ชาย open  ,รุ่น B ชาย  (อายุ 30 ปีขึ้นไป +เยาวชน) , รุ่น C ชาย อายุ 40 ปี ขึ้นไป , รุ่น D ชาย อายุ 50 ปี ขึ้นไป หญิงมี 2 รุ่นดังนี้ รุ่น E หญิง A (เยาวชน)  และ รุ่น F หญิง B (ทั่วไป)

นายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดแพร่ เป็นจังหวัดแรกที่เป็นประตูสู่ล้านนาตะวันออก มีการแข่งขันจักรยานทางไกล  ทัวร์ ออฟล้านนา  ในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 1 แข่งรอบเมืองแพร่ เป็นการแข่งขันจักรยานโดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ โดยการแข่งขันจะใช้ระยะทางแข่งขันประมาณ 1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ การแข่งขันจะใช้ระยะทางรวมประมาณ 30 กิโลเมตร สำหรับวันที่ 24 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 2 สตาร์จาก แพร่ เข้าเส้นชัยที่ จังหวัดน่าน ซึ่งจังหวัดแพร่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง อาทิ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแพร่ และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล, วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร, บ้านวงศ์บุรี, อุทยานแห่งชาติแม่ยม, แพะเมืองผี เป็นต้น ยังมีสินค้า OTOP ที่มีความโดดเด่น เป็นที่ต้องการของตลาด คือ เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายพื้นเมือง, และของที่ระลึก


ด้านนางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับจังหวัดน่าน เป็นจังหวัดที่สอง ของการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา  จะมีการแข่งขัน ใน วันที่ 25 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 3 รอบเมืองน่าน โดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน โดยการแข่งขันจะใช้ระยะทางแข่งขันประมาณ 1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ การแข่งขันจะใช้ระยะทางรวมประมาณ 30 กิโลเมตร  สำหรับวันที่ 26 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 4 จาก สตาร์จากน่านและไปเข้าเส้นชัยที่จังหวัด พะเยา  ซึ่งการแข่งขันจะผ่านแหล่งท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว ของทั้งสองจังหวัดอีกด้วย จังหวัดน่าน มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ อาทิ วัดภูมินทร์, วัดพระธาตุแช่แห้ง, จุดชมทะเลหมอกดอยเสมอดาว, วัดถ้ำเชตวัน  ยังมีกิจกรรมงานประเพณีที่น่าสนใจ เช่น งานประเพณีแข่งเรือน่าน, ประเพณีหกเป็งนมัสการพระธาตุแช่แห้ง ของฝากและของที่ระลึก เช่น ข้าวหลาม, เครื่องเงินน่าน, ผ้าทอลายน้ำไหล, กาแฟ, โกโก้, น้ำพริกมะแขว่น  และสุดยอดกิจกรรมท้าทายทั้งกายและใจ กิจกรรมล่องแก่ง, พายซัพบอร์ดแม่น้ำว้า,  พารามอเตอร์ชมทุ่งนาปัว เป็นต้น
นางสาวมุกภารัศมิ์ พรมอะริยะ  ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย  กล่าวว่า สำหรับจังหวัดเชียงราย เป็นสนามสุดท้ายของการแข่งขันในครั้งนี้ โดยจะมีการแข่งขันจักรยานทางไกล (Tour of Lanna) จากจังหวัดพะเยา มายังจังหวัดเชียงราย โดยในวันที่ 29 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 7 (Circuit Race) รอบเมืองเชียงราย เป็นการแข่งขันจักรยาน โดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย โดยการแข่งขันจะใช้ระยะทางแข่งขันประมาณ 1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ การแข่งขันจะใช้ระยะทางรวมประมาณ 30 กิโลเมตร

สำหรับวันที่ 30 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 8 (Road Race) เชียงราย – อำเภอแม่สาย เป็นการแข่งขันไปยัง  อำเภอแม่สาย อำเภอเหนือสุดของประเทศไทย โดยที่ผ่านมาอำเภอแม่สาย เป็นหนึ่งในอำเภอของ  จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวนหลายครั้ง ได้รับผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และหลาย ๆ ด้าน ซึ่งตอนนี้ยังต้องการฟื้นฟูหลังอุทกภัยที่ผ่านไปแล้วให้กลับมาเหมือนเดิม
จังหวัดเชียงราย ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญในภาคเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 ประเทศ คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ  ยังอยู่ใกล้กับพรมแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีนทางตอนใต้ด้วย ในส่วนของกลุ่มชาติพันธุ์ จังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดที่มีชาติพันธุ์ในอดีตถึง 30 ชาติพันธุ์ ซึ่งทำให้เชียงราย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้จังหวัดเชียงราย มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งความงดงามทางธรรมชาติ ความล้ำค่าทางศิลปวัฒนธรรมล้านนา    มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวิถีชีวิต และประเพณีที่ปัจจุบันยังคงปรากฏกลิ่นอายร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวเชียงราย เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนอยู่เสมอ ทำให้จังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก  และจังหวัดเชียงราย เป็น 1 ใน 10 จังหวัด ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองกีฬา (Sports City) และเป็นเมืองแห่งการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sports Tourism) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งนี้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา อาทิเช่น ดอยช้างเทรล 2024, การจัดการแข่งขันกีฬาชาวไทยภูเขาจังหวัดเชียงราย ประจำปี 2567 เป็นต้น

นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ที่ จ.พะเยา ซึ่งจะจัดขึ้นถึง 3 สนาม ตามสโลแกน “พะเยาปั่นฟิตทุกวัย ใส่ใจสุขภาพ” เป็นการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ปั่นไปยังแหล่งท่องเที่ยว ผ่านชุมชนท่องเที่ยว เพื่อให้    นักปั่น ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมภายในจังหวัดพะเยา
สนามที่ 1 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 ตุลาคม 2567 ปั่นรอบกว๊านพะเยา ระะยทาง 33.5 กม.
สนามที่ 2 ปั่นภูกามยาว ระยะทาง 35 กิโลเมตร ระหว่างวันที่   วันที่ 22 – 23 ตุลาคม 2567 
และสนามที่ 3 ปั่น ม.พะเยา ระยะทาง 36 กิโลเมตร ระหว่างวันที่ วันที่ 9 – 10 พฤศจิกายน 2567
สำหรับนักปั่นที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารติดตามรายละเอียดต่างๆที่ได้เพจเฟสบุ๊ค Touroflanna  และเพจเฟสบุ๊ค  พะเยาปั่นฟิตทุกวัย ใส่ใจสุขภาพ  ที่จะเปิดรับสมัครออนไลน์ทั้ง  3 สนาม
FB: Touroflanna
https://www.facebook.com/touroflanna2017?mibextid=ZbWKwL

FB : พะเยาปั่นฟิตทุกวัย ใส่ใจสุขภาพ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61566228356995&mibextid=ZbWKwL

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]