ศึกแบดมินตันโลกคุมเข้มมาตรการ สธ. จัด 3 รายการใหญ่ในไทย ม.ค.นี้

14 ธันวาคม-ฝ่ายจัดการแข่งขันแบดมินตัน บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ คุมเข้มตามมาตรการทางสาธารณสุขรองรับการจัดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ 3 รายการใหญ่ในประเทศไทย ที่จะมีขึ้น ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในเดือนมกราคมนี้

ตามที่ประเทศไทยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ระดับโลก ได้แก่ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น เงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 12-17 มกราคม 2564, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 19-24 มกราคม 2564 และเอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัล 2020 ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 27-31 มกราคม 2564 โดยจัดภายใต้มาตรการของสาธารณสุขไทยและ บีดับเบิ้ลยูเอฟ อย่างเคร่งครัด


ล่าสุด คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก เปิดเผยว่า “ฝ่ายจัดการแข่งขันแบดมินตัน บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ จึงค่อนข้างมีความเข้มงวดอย่างมาก โดยจะตรวจหาเชื้อนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้องทุกคนหลายครั้งมาก ตั้งแต่ก่อนการกักตัวและหลังการกักตัวในรูปแบบ บับเบิ้ล ควอรันทีน คือการให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากประเทศเดียวกันอยู่ด้วยกันทั้งในสถานที่พักและสนามฝึกซ้อม

ทั้งนี้ใน บับเบิ้ล ควอรันทีน จะมีชาวต่างชาติซึ่งเป็นนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และบุคลากรจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิ้ลยูเอฟ) รวมทั้งทีมงานถ่ายทอดสด ผู้สื่อข่าวต่างชาติ และบุคลากรชาวไทย ก็จะต้องเสียสละเข้าไปอยู่ในบับเบิ้ลด้วย และจะมีการตรวจเชื้อเป็นระยะ โดยจะมีการกักตัว 14 วัน แต่แบ่งเป็น 7 วันแรกให้นักกีฬาสามารถฝึกซ้อม และแข่งขันรายการแรกได้ตั้งแต่ครบกักตัววันที่ 8 เป็นต้นไป”


นอกจากนี้ จะมีการแบ่งโซนสีในการกักตัวตามการระบาดของแต่ละประเทศคือ สีแดง, สีเหลือง และสีเขียว ขณะที่สนามฝึกซ้อมจะลดลงจาก 8 สนาม เหลือ 6 สนาม ที่มีระยะห่างกันมาก และมีผนังกั้น ส่วนสนามแข่งขันจะลดลงจากเดิม 4 สนาม เหลือ 3 สนาม และเว้นระยะห่างให้มากขึ้น พร้อมถ่ายทอดสดการแข่งขัน 2 คอร์ต ตั้งแต่การแข่งขันรอบแรก จนถึงรอบชิงชนะเลิศ

การแข่งขันครั้งนี้นับเป็นรายการประวัติศาสตร์ของวงการแบดมินตันโลก ที่จัดการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมโลก ระดับสูงที่สุด 3 รายการติดต่อกัน ใน 3 สัปดาห์ ที่ประเทศเดียว โดยประเทศไทยได้รับเกียรติ และความไว้วางใจอย่างสูงให้จัดการแข่งขันในครั้งนี่ ซึ่งจะมีมือท็อปจากทุกประเทศที่มียอดฝีมือของโลกเดินทางมาแข่งขันโดยพร้อมเพรียงครบถ้วน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย นำมาสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย” คุณหญิงปัทมากล่าวทิ้งท้าย

สำหรับมาตรการทางสาธารณสุขรองรับการจัดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ เริ่มจาก นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตามขั้นตอนการเข้าประเทศไทยตามมาตรการของรัฐบาลไทยทุกคน ได้แก่ การดำเนินการขอ COE การตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง การขอ Fit to Fly เป็นต้น
เมื่อนักกีฬาเดินทางมาถึง จะขึ้นรถแยกประเทศและระบุที่นั่ง มุ่งตรงสู่โรงแรมที่พัก โดยมีระบบการแทรคกิ้งเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทุกคนตั้งแต่การเดินทางกระทั่งเช็คอินเข้าพักโรงแรม และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ก่อนเข้าที่พัก หลังจากนั้นต้องอยู่ในห้องพักจนกว่าจะทราบผลการตรวจหาเชื้อ ทั้งนี้นักกีฬาจะได้รับอนุญาตให้เริ่มการฝึกซ้อมเมื่อผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ หลังจากนั้นจะมีการตรวจหาเชื้อต่อเนื่องตั้งแต่ วันที่ 0, วันที่ 4, วันที่ 9, วันที่ 13, วันที่ 18, วันที่ 22, วันที่ 26 และก่อนเดินทางกลับประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่ามีการตรวจหาเชื้ออย่างต่อเนื่องและถี่มาก


ในส่วนของสถานที่ฝึกซ้อมของนักกีฬาจะมีการเว้นระยะห่าง มีการกั้นพาร์ติชันระหว่างสนามซ้อม และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณดังกล่าว สำหรับการฝึกซ้อมของนักกีฬาจะเป็นการฝึกซ้อมครั้งละประเทศ และเมื่อเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเข้าทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ สถานที่ทันที ขณะที่การเดินทางของนักกีฬาใช้รถประจำทีมและระบุที่นั่ง โดยจะมีการทำความสะอาดรถทุกรอบที่ให้บริการและพ่นฆ่าเชื้อทุกวัน
ทางด้านบริเวณสนามแข่งขันจะมีการแบ่งโซนอย่างเคร่งครัด โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่อยู่ใน บับเบิ้ล ควอรันทีน เดินทางออกนอกเส้นทางระหว่างที่พัก สนามแข่งขัน และสนามฝึกซ้อม การเดินเข้าออกในสนามแข่งขันจะมีการแบ่งแยกเส้นทางการเข้าออกอย่างชัดเจน นอกจากนี้การรับส่งลูกขนไก่ นักกีฬาจะไม่สัมผัสลูกขนไก่จากผู้ตัดสิน แต่จะเป็นการรับจากเครื่องปล่อยลูกขนไก่ ส่วนการสัมภาษณ์นักกีฬาจะเป็นการสัมภาษณ์ผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ทั้งนี้ทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขไทยและ บีดับเบิ้ลยูเอฟ อย่างเคร่งครัด
ข้อมูลเพิ่มเติมของการแข่งขันได้ที่เว็บไซต์ www.bwfbadminton.com หรือ www.badmintonthai.or.th -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]