“กกท – กสทช”จับมือยิงสด“โตเกียวเกมส์ 2020”ครบทุกช่องทาง

กกท – กสทช จับมือพันธมิตรภาคเอกชน ประกาศความพร้อม ถ่ายทอดสดศึก “โตเกียวเกมส์ 2020” ครบทุกช่องทางมากที่สุดในประวัติการณ์ พร้อมชวนคนไทยทั่วประเทศ “วิ่ง 1 ล้านกิโลเมตร 1 ล้านบาท” เพื่อมอบเป็นกำลังใจถึงทัพนักกีฬาทีมชาติไทย และร่วมสนุกไปกับกิจกรรมสุดพิเศษมากมายตลอดทัวร์นาเมนท์


การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมพันธมิตรทุกภาคส่วน ประกาศความพร้อมต้อนรับศึกโอลิมปิกและพาราลิมปิก โตเกียว 2020 เตรียมยิงสดทุกช่องทางให้แฟนกีฬารับชมอย่างจุใจ พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษเต็มอิ่ม ชวนคนไทยทั่วประเทศแสดงพลังเชียร์นักกีฬาไทย วิ่งผลัดธง ชาติไทย ทั่วประเทศและร่วมวิ่งสะสมระยะ 1 ล้านกิโลเมตร 1 ล้านบาท มอบเป็นกำลังใจถึงทัพนักกีฬาทีมชาติไทยในการเตรียมตัว เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์โตเกียว 2020 โดยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม พ.ศ 2564 และการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน พ.ศ 2564

ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับ คณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี), คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, คณะกรรมการกีฬาพาราลิมปิก แห่งประเทศไทย , บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และพันธมิตรภาคเอกชน ร่วมแถลงข่าว ประกาศความพร้อมการถ่ายทอดสด “การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก โตเกียว 2020” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THAI TEAM ชนะใจคนไทย” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.ค.64 ถึง 8 ส.ค.64 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกเลื่อนเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้กำหนดวันแข่งขันอย่างเป็นทางการมาแล้ว โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ยืนยันแล้วว่าจะ มีพิธีเปิดในวันที่ 23 ก.ค.64 และพิธีปิดการแข่งขันวันที่ 8 ส.ค.64 โดยคณะกรรมการจัดการแข่งขันเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขันไว้ทุกสถานการณ์ ซึ่งประเทศไทยเองก็พร้อมแล้วเช่นกันที่จะสนับสนุนนักกีฬาไทยในการเดินทางไปแข่งขันและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น การเตรียมความพร้อม ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของนักกีฬา แผนดูแลความปลอดภัยด้านสาธารณสุขให้กับนักกีฬาในการเดินทางไปแข่งขันต่างแดน การถ่ายทอดสดการแข่งขัน การจัดกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนการสนับสนุนต่างๆ จากภาครัฐบาลและเอกชน ขณะที่กองเชียร์ชาวไทยก็สามารถร่วมส่งพลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยได้ด้วยการ ติดแฮชแท็ก #THAITEAM บนโซเชียลมีเดีย เพื่อแสดงพลังให้นักกีฬาได้รับรู้ว่าทุกคนคือฮีโร่ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้การแข่งขัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างไม่หยุดยั้ง นักกีฬาเหล่านี้ก็ได้ชนะใจคนไทยทั้งประเทศแล้ว

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) กล่าวว่า ทุกภาคส่วนในประเทศญี่ปุ่นยืนยันว่าการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ “โตเกียว 2020” ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ประเทศญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าอย่างสุดกำลังกับหลายหลากนวัตกรรมและมาตรการการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ทุกคนทั่วโลกที่จะมาร่วมในมหกรรมกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ในปีหน้านี้ปลอดภัยที่สุด โดย โธมัส บาค ประธานไอโอซี มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เพราะไอโอซีทำงานหนักร่วมกับประเทศเจ้าภาพมาโดยตลอด ขอให้มั่นใจว่าการแข่งขันจะประสบความสำเร็จ ขณะนี้เจ้าภาพกำลังพัฒนา “เครื่องมือในการรับมือกับโควิด” ที่จะทำให้ทุกคนร่วมการแข่งขันอย่างปลอดภัยมากที่สุด “กล่องเครื่องมือ” จะบรรจุเครื่องมือต่างๆ อาทิ สำหรับเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง การกักตัว การตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงและรวดเร็วขึ้น วัคซีน การเว้นระยะทางสังคม เพื่อให้การจัดงานมีความปลอดภัยมากที่สุดทั้งสำหรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้ชม และทุกคนที่มีส่วนร่วมในการแข่งขัน ที่สำคัญการแข่งขันครั้งนี้ยังมีความพิเศษและความน่าสนใจหลายประการ ประเทศญี่ปุ่นเตรียมพร้อมที่จะโชว์นวัตกรรมด้านต่าง ๆ ให้ชาวโลกได้รับรู้ผ่านการเป็นเจ้าภาพมากมาย เช่น สนามแข่งขันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เครื่องนอนในหมู่บ้านนักกีฬาที่ย่อยสลายได้ แสงสว่างในสนามจากพลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ เหรียญรางวัลที่ทำจากขยะอิเล็คทรอนิค 100 เปอร์เซ็นต์ โพเดี้ยมมอบรางวัลสร้างจากขยะพลาสติก ชุดนักวิ่งและคบเพลิงที่ทำจากขวดพลาสติก เทคโนโลยียานพาหนะเพื่อโอลิมปิกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น จะมีกีฬาคาราเต้, กีฬาสเกตบอร์ด, กีฬาโต้คลื่น และกีฬาปีนผา ถูกบรรจุเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันโอลิมปิก การแข่งขัน baseball และ softball ที่เคยถูกยกเลิกที่ Beijing 2008 ได้ถูกนำกลับมาแข่งขันในครั้งนี้

นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 กล่าวว่า ในนามของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เราได้ร่วมประสานงานอย่างต่อเนื่องกับคณะกรรมการโอลิมปิกระหว่างประเทศ (IOC) องค์การอนามัยโลก และคณะกรรมการโอลิมปิกประเทศสมาชิก อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดมาตรการความปลอดภัยอย่างสูงที่สุดต่อนักกีฬาและบุคลากร ขณะที่ความพร้อมของประเทศไทยและนักกีฬาไทย เราได้มีเวลาในการเตรียมความพร้อมกันอย่างเต็มที่ การสนับสนุนการฝึกซ้อม การทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาต่าง ๆ ในการสนับสนุนของการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ทุ่มเททรัพยากรในหลายด้านทั้งการนำวิทยาการความรู้ และวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วงเพิ่มศักยภาพ เพื่อให้นักกีฬาไทยของเราเพิ่มขีดความสามารถสูงขึ้น รวมไปถึงการสร้างมาตรการความปลอดภัย สุขภาพอนามัยของนักกีฬาที่จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด


นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผมขอขอบคุณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่ได้เห็นถึงความสำคัญในกีฬาพาราลิมปิก และได้นำลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาพาราลิมปิกมาถ่ายทอดให้คนไทยได้ชมตลอดช่วงการแข่งขันเป็นครั้งแรก ผ่านทุกช่องทาง ทั้ง ฟรีทีวี อินเตอร์เนต และ โทรทัศน์ดาวเทียมทีสปอร์ต ครั้งนี้พี่น้องคนไทย จะสามารถรับชมและเชียร์นักกีฬาพาราลิมปิก ได้อย่างครบถ้วนผ่านทั้งทางทีวี และ ทางอินเตอร์เนต และขอขอบคุณผู้สนับสนุนและทุกภาคส่วนที่ทำให้มีการถ่ายทอดสดในครั้งนี้

ผศ.ดร. ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติรักษาการเลขาธิการ (กสทช.) กล่าวว่า คณะรัฐบาลและกสทช. มุ่งมั่นที่จะให้คนไทย ได้ดู ได้เชียร์ และได้ลุ้น นักกีฬาไทยที่กำลังแข่งขันในศึกโอลิมปิกเกมส์อย่างเต็มอิ่มและทันท่วงที จึงได้ร่วมสนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันมาให้แฟนกีฬาไทยได้ดูอย่างจุใจทางโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ฟรีทีวี และการรายงานข่าวครบทุกสถานี โดยจะถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี 6 ช่อง ประกอบด้วยช่อง 1) NBT ช่อง 2 2) ThaiPBS ช่อง 3 ) NEW18 ช่อง18 4) ทรูโฟร์ยู ช่อง24 5)ช่อง GMMTV ช่อง25 และ 6)ช่อง PPTV HD ช่อง 36 โดยร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ดาวเทียม T-Sport24s รวมถึงถ่ายทอดสดผ่านทาง Mobile Application ที่ AIS PLAY และ AIS PLAY BOX ครบทุกชนิดกีฬาอีก 12 ช่องรายการ คมชัดระดับ HD ตลอดทั้งวัน และยังสามารถรับชมถ่ายทอดสดพิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขัน เชื่อว่าแฟนกีฬาชาวไทยจะได้รับ ความสุข ความสนุก และร่วมลุ้นนักกีฬาไทย อย่างเต็มอิ่มแน่นอน นอกจากนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย ยัง ได้ถ่ายทอดสดกีฬาพาราลิมปิก โตเกียว 2020 เพื่อให้คนไทยได้ชมและเชียร์อีกด้วย

มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยต้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกได้กำหนดให้จัดขึ้นในปีหน้า เรายังคงยืนหยัดในความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนักกีฬาไทยทุกคนตลอดการเดินทาง รวมถึงการสนับสนุนในการเตรียมตัวก่อนแข่งขัน ร่วมเชียร์นักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกของไทยในระหว่างการแข่งขัน และร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของฮีโร่ไทยเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันยิ่งไปกว่านั้น เราจะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกเพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถร่วมส่งแรงเชียร์นักกีฬาไทยที่ตัวเองชื่นชอบตลอดการแข่งขัน นอกจากนี้พวกเราทุกคนที่โตโยต้าในประเทศไทย รวมทั้งผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จะร่วมมือกันจัดกิจกรรมวิ่งส่งธงชาติไทย “Flag of Nation Run” ในต้นปีหน้า เราจะคอยให้กำลังใจนักกีฬาไทยตลอดไปจนถึงนาทีสุดท้ายทั้งก่อนและระหว่างการแข่งขัน

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถึงวันนี้มีนักกีฬาไทยผ่านการ คัดเลือกเข้าแข่งขันในศึกโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 รวมแล้ว 6 รายการกีฬาแข่งขัน จาก18 นักกีฬาตัวแทนชาติไทย โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย นอกจากจะดูแลและเตรียมความพร้อมนักกีฬาอย่างเต็มที่ก่อนลงแข่งขันแล้ว ยังได้จับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดแคมเปญพิเศษ “THAI TEAM ชนะใจคนไทย” เพื่อให้คนไทย ได้ร่วมส่งพลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไม่ว่าจะเป็น การจัดนิทรรศการและถ่ายถอดสดพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ผ่าน Olympic Live Experience ครั้งแรกในโลกผ่านทางจอดิจิทัลนอกบ้าน ทั่วประเทศกว่า 500 จอ ในวันที่ 23-25 ก.ค. 64 เพื่อให้ได้สัมผัสบรรยากาศของการแข่งขันผ่านนิทรรศการและการจำลองเกมส์กีฬา พร้อมเชิญตำนานฮีโร่ไทยมาร่วมเสวนาสร้างความสนุกสนานและสร้างแรงบันดาลใจแก่เด็กและเยาวชน, กิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย (National Flag Run) เพื่อนำธงไทยผ่านมือคนไทยทั่วประเทศไปโบกสะบัด ณ สนามโอลิมปิก โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งเปิดช่องทางการวิ่งธงชาติไทยแบบ Flag Of Nation: Virtual Run ชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมวิ่งเพื่อสะสมระยะทางร่วมกัน 1 ล้านกิโลเมตร ที่ทุก 1 กิโลเมตร พันธมิตรจะร่วมบริจาค 1 บาท เป้าหมาย 1 ล้านบาท ให้ทัพนักกีฬาไทย และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย “Flag Of Nation: National Flag Run” ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศ ได้มีส่วนร่วมในการวิ่งผลัดธงชาติไทย พร้อมกับเหล่า ศิลปิน ดารา และนักกีฬา ด้วยการร่วมวิ่งคนละ 1 กิโลเมตร เป็นจำนวนรวม 4,606 กิโลเมตร หรือเทียบเท่าระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึง โตเกียว ผ่าน 35 จังหวัด ในเวลา 60 วัน เพื่อแสดงพลัง ของประชาชนชาวไทย ส่งต่อกำลังใจถึงนักกีฬาทีมชาติไทยที่กำลังแข่งขัน ตลอดจนกิจกรรม Olympics Experience Roadshow 5 ภาค และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับ นักกีฬาไทยที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันในศึกโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 แล้ว อย่างเป็นทางการ 18 คน ประกอบด้วย พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด), เศวต เศรษฐาภรณ์ (ยิงเป้าบิน), กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (เรือใบ), ศิริพร แก้วดวงงาม (วินด์เซิร์ฟ), จุฑาธิป มณีพันธุ์ (จักรยาน), อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ (ยิงปืน), ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ (ยิงปืน), ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน), สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน), อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข (ยิงเป้าบิน), อาริย์ณัฎฐา ชวตานนท์ – กรธวัชสำราญ – วีรภัฎ ปิฏกานนท์ – ศุภณัฐ วรรณกุล (ขี่ม้า), ธิติสรรค์ ปั้นโหมด (มวยสากล) สุดาพร สีสอนดี (มวยสากล), ใบสน มณีก้อน (มวยสากล) และ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (มวยสากล)

ร่วมสนับสนุน “การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก โตเกียว 2020” โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, คณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยใน พระบรมราชูปถัมภ์, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ,บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย จำกัด , บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเวปไซต์ www.stadiumth.com และเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/THStadium/

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย