7 ธ.ค.67-ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) และนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ (AMTAT) พร้อมด้วยนายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย (PAT) และรองประธาน IFMA ให้การต้อนรับ ดร.ทิน อ่อง ลวิน ประธานสมาคมเลธเวยแห่งเมียนมา, จ่อ วิน ตุน รองประธาน, วานา ทัน โซ อ่อง สมาชิกคณะกรรมการบริหาร และทันต์ ซิน อู ตัวแทนเลธเวยในประเทศไทย โดยมี สเตฟาน ฟ็อกซ์ ประธาน AIMS และเลขาธิการ IFMA เข้าร่วมด้วย ระหว่างการแข่งขันเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา
การหารือร่วมกันครั้งนี้เป็นการรับสมาคมเลธเวย (มวยพม่า) แห่งชาติเมียนมา เข้าเป็นสมาชิกเต็มตัวของสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ภายใต้ชื่อสมาคมมวยไทย IFMA แห่งเมียนมา ซึ่งก่อนหน้านี้ IFMA มีการประชุมเบื้องต้นร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติเมียนมา และกระทรวงกีฬาของเมียนมาโดยเน้นถึงความสาคัญของการส่งเสริมความร่วมมือทางวัฒนธรรมและกีฬาระหว่างเมียนมา และประเทศไทย
ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธาน IFMA เปิดเผยว่า ยินดีต้อนรับเมียนมาเข้าเป็นสมาชิกของ IFMA ลำดับที่ 156 ถือความสำเร็จวงการมวยไทยอีกครั้งที่เป็นโอกาสสาคัญที่ประเทศเมียนมาตัดสินใจในการร่วมผลักดันกีฬามวยไทยตามขบวนการโอลิมปิกผ่านการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ IFMA ซึ่งการเข้าร่วมเป็นสมาชิกดังกล่าว ทำให้เมียนมาจะได้สิทธิ์ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หรือซีเกมส์ 2025 โดยจัดระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568 / ค.ศ. 2025, การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก, การแข่งขันเวิลด์คอมแบทเกมส์, การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกและอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งส่งเสริมคุณค่าของขบวนการโอลิมปิกได้อย่างเป็นรูปธรรม
“ชาติซ้าย” นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย (PAT) และรองประธาน IFMA กล่าวว่า ที่ผ่านมา IFMA ผลักดันกีฬามวยไทยซึ่งถือเป็นศิลปะประจำชาติของประเทศไทยไปสู่การเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” เรื่องของกีฬามวยไทยตามนโยบายของรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด และครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสาคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของครอบครัวมวยไทยระดับโลก พร้อมทั้งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และการพัฒนาร่วมกันโดยใช้กีฬาเป็นสื่อกลาง ความร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้ IFMA มีความแข็งแกร่งในระดับนานาชาติเพิ่มมากยิ่งขึ้นในการขับเคลื่อนนโยบายมวยไทยไปทั่วโลก