กาตาร์ 25 ม.ค.- ก่อนเกมทีมชาติไทย พบ ซาอุดีอาระเบีย เวลา 22.00 น. คืนนี้ เพื่อแย่งแชมป์กลุ่ม มาดาซาดะ อิชิอิ เตรียมส่ง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ยืนแบ็กขวา และขยับ นิโคลัส มิคเกลสัน เล่นแบ็กซ้ายแทน “กัปตันอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่ติดโทษแบน
ฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ เกมในกลุ่มเอฟ นัดที่ 3 ที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม เวลา 22.00 น.คืนนี้ ซาอุดีอาระเบีย ทีมอันดับ 56 ของโลก พบกับ ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 113 ของโลก
“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ทำผลงานยอดเยี่ยม เอาชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 และเสมอ โอมาน 0-0 เก็บ 4 แต้ม แบบยังไม่เสียประตู เกมนี้จะขาด “กัปตันอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่ติดโทษแบน 2 ใบเหลือง คาด อิชิอิ จะใช้ นิโคลัส มิคเกลสัน โยกไปยืนแบ็กซ้ายแทน ส่วนแบ็กขวาส่ง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ลงตัวจริงนัดแรก ขณะที่ตัวหลักคงยึดชุดเดิม เพื่อไม่ให้เสียระบบทีม
สำหรับ 11 ผู้เล่นทีมชาติไทย ที่คาดจะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 ปฏิวัติ คำไหม ผู้รักษาประตู กองหลัง เอเลียส ดอเลาะ พรรษา เหมวิบูลย์ นิโคลัส มิคเกลสัน และ ศุภนันท์ บุรีรัตน์, แดนกลาง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี วีระเทพ ป้อมพันธุ์ สุภโชค สารชาติ บดินทร์ ผาลา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา โดยมี ศุภชัย ใจเด็ด เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
ด้าน “เศรษฐีน้ำมัน” ที่มี โรแบร์โต มันชินี คุมทีม เก็บชัยชนะมา 2 เกมรวด ชนะ โอมาน 2-1 และชนะคีร์กีซสถาน 2-0 เก็บ 6 แต้มเต็มการันตีเข้ารอบน็อคเอาท์แน่นอนแล้ว นักเตะตัวหลักพร้อมลงสนาม นำโดย ซาเลม อัล ดอว์ซารี โมฮาเหม็ด คานโน ไฟซาล อัล กัมดี้ และ อาลี อัลเบเลฮี
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม เคยพบกันมาทั้งหมด 17 ครั้ง ในเกมอย่างเป็นทางการ ทีมชาติไทย ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 13 ส่วนในศึกเอเชียน คัพ รอบสุดท้าย เคยพบกัน 2 ครั้ง ซาอุดีอาระเบีย ชนะทั้ง 2 นัด โดยเกมที่ ไทย ชนะล่าสุด ต้องย้อนกลับไปในปี 1984 หรือ 40 ปีที่แล้ว นัดนั้นไทย ชนะ 3-1 ในเกมอุ่นเครื่อง
สำหรับเกมสุดท้ายของกลุ่มเอฟ ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ซาอุดีอาระเบีย หาก “ช้างศึก” เอาชนะได้จะเป็นแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้ารอบไปพบทีมอันดับ 2 กลุ่มอี หากเสมอ จบอันดับ 2 ของกลุ่ม จะไปเจอ อุซเบกิสถาน ที่เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 กลุ่มบี แต่หากแพ้ และโอมาน ชนะ คีร์กีซสถาน รวมทั้งไทยผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง จะทำให้ไทยเข้ารอบเป็นหนึ่งในอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ไปเจอกับอิรัก แชมป์กลุ่มดี.–สำนักข่าวไทย