“เศรษฐา” ถกคณะทำงานฯสั่งเดินหน้าซอฟท์เพาเวอร์มวยไทยเต็มรูปแบบ  

8 ธ.ค.66-นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ พร้อมกับร่วมหารือกับ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการด้านกีฬาในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ที่นำทีมซอฟต์เพาเวอร์ด้านกีฬา (มวยไทย) เข้าพบเพื่อหารือ โดยมี นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา รวมทั้ง บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดัง, ผู้แทนสภามวยแห่งเอเชีย (WBC Asia), ผู้แทนวัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และคณะร่วมด้วย ที่ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล


ในโอกาสนี้ ดร.ปรีชาพร สุวัฒโนดม รองประธานสภามวยโลกมวยไทย (WBC MuauyThai) ยังได้มอบ Iconic WBC Bracelet ซึ่งเป็นนาฬิการูปเข็มขัดแชมป์โลกที่มอบให้กับนักมวยระดับแชมป์โลกเท่านั้นให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นที่ระลึกขณะเดียวกัน บัวขาว บัญชาเมฆ ยังถือโอกาสมอบกางเกงมวยไทยสีแดง ที่สกรีนตัวอักษรสีเหลืองเป็นชื่อของตัวเอง “BUAKAW” ให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย 

นาย นายเศรษฐา ทวีสิน เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ คุณ พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งดูแลทางด้านกีฬาอยู่ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานด้านซอฟท์เพาเวอร์ด้านกีฬามวย พร้อมทีมงาน และนักกีฬามวยไทยชื่อดัง อย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ มาร่วมพบปะรวมถึงหารือในแนวทางการทำงานที่จะผลักดันมวยไทยไปสู่การเป็นซอฟท์เพาเวอร์ร่วมกัน ต้องยอมรับว่ากันตรงนี้ว่า มวยไทย ถือเป็นซอฟท์เพาเวอร์อันดับต้นๆของเมืองไทยในเวลานี้ ที่สำคัญเป็นกิจกรรมซึ่งมีคำว่าไทยติดอยู่ด้วย ซึ่งในการหารือครั้งนี้ก็มีการระดมความคิดและแนวทางในการต่อยอดมวยไทย ซึ่งเวลานี้จะบอกได้ว่าเป็นซอฟท์เพาเวอร์อันดับ 1 ที่ถูกส่งออกไปทั่วโลก และสร้างมูลค่าทางการเศรษฐกิจอย่างมหาศาลในปัจจุบันนี้ก็ว่าได้ ซึ่งเราจะขยายความนิยมออกไปให้มากขึ้นกว่านี้อีก 


ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการด้านกีฬาในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ เผยว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลานี้ต่างชาติมีความต้องการนักมวยไทยไปช่วยสอนเทคนิคและทักษะในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่แตกต่างกับกีฬาเทควันโดเลยที่แต่ละชาติก็ต้องการโค้ชและนักกีฬาเทควันโดเกาหลีใต้ไปช่วยสอนเพื่อให้ประเทศของตัวเองนั้นเก่งขึ้น ซึ่งสิ่งที่คณะทำงานฯกำลังทำอยู่ตอนนี้ คือ การหารือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อทำให้เป็นระบบ ระเบียบขั้นตอนที่ถูกต้อง 

“คณะทำงานได้หารือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งก็หารือถึงแนวทางและวิธีการไปแล้ว และตอนนี้กำลังทำหลักสูตร เพื่อเปิดให้โค้ช นักกีฬา หรือผู้ที่สนใจจะทำงานในด้านนี้อย่างจริงจังมาเข้าการอบรม ซึ่งหากผ่านหลักสูตร ก็จะมีประกาศนียบัตร รับรอง ซึ่งใบรับรองนี้ก็จะช่วยในการขอวีซ่า เพื่อไปทำงานในต่างประเทศในฐานะครูสอนมวย ซึ่งแน่นอนว่าหากไม่มีสิ่งนี้ไป ครูมวยก็จะต้องไปในรูปแบบของวีซ่านักท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อไปถึงแล้วไปสอนก็คงจะไม่ถูกนัก ก็ไม่ควรจะทำ แต่ว่าถ้ามีประกาศนีย บัตรนี้ออกไปแล้วไปขอวีซ่า ก็จะทำให้อะไรต่ออะไรนั้นง่ายขึ้นในหลายๆประเทศ” 

“เรายังมีอีกหลายโครงการที่จะพามวยไทยให้ได้รับความนิยมไปอีกระดับนึง เช่น การทำมาสเตอร์คลาส ซึ่งในต่างประเทศ มีความต้องการให้ครูมวยไทยในระดับเทพออกไปสอน ซึ่งผมก็ได้คุยกับ บัวขาว รวมถึงยอดนักมวยไทยอีกหลายๆคน ไปแล้ว โดยอยากจะให้ช่วยมาทำมาสเตอร์คลาสร่วมกัน ซึ่งอย่างบัวขาว ที่เคยเปิดสัมนาในต่างประเทศ ก็ได้รับความสนใจมีคน เข้าร่วมถึงรดับ 800 คน แน่นอนว่าถ้าเราทำเป็นคลาสใหญ่ วางครูสอนหลายๆคน ก็จะช่วยสร้างกระแส สร้างทักษะการเรียนรู้ที่ถูกต้อง เพื่อทำให้เกิดความนิยมมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้คณะทำงานกำลังทำอยู่เช่นกัน และมีอีกหลายๆโครงการที่เราคิดไว้ และ พยายามจะทยอยทำ ซึ่งก็มั่นใจว่าด้วนคณะทำงานที่เรามีอยู่ จะช่วยกันขับเคลื่อนมวยไทยไปได้อีกระดับหนึ่ง” 


ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ยังเผยทิ้งท้ายอีกว่า ยังมีหลายโครงการที่คณะทำงานฯกำลังเดินหน้า อาทิ การให้วีซ่านักท่องเที่ยว ต่างชาติที่อยากจะมาอยู่ในประเทศไทยนานๆ เพราะอยากจะเรียนมวย สิ่งนี้ก็มีแผนจะทำ และกำลังดำเนินงาน รวมไปถึงการนำวิชามวยไทย เข้าไปสอนไปเผยแพร่เป็นวิชาในโรงเรียนต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งท่านนายกได้กำชับว่าสิ่งเหล่านี้ เมื่อลงมือทำ ต้องทำให้สำเร็จ เพราะเป็นซอฟท์เพาเวอร์อันดับ 1 -614

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]