“อันนา-มูนา” ตบชนะดาวรุ่งจีน ลิ่วชิงขนไก่ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส

อาคารนิมิบุตร 4 ก.พ. – “อันนา-มูนา” คู่มืออันดับ 13 โลก ตบชนะดาวรุ่งจีน 2 เกมรวด เข้าชิงชนะเลิศแบดมินตันไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023 พบคู่มืออันดับ 53 ของโลกจากเกาหลีใต้


การแข่งขันแบดมินตันรายการ “ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023” (Princess Sirivannavari Thailand Masters 2023) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทัวร์นาเมนต์ระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 7,240,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. 66 เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ

ประเภทหญิงคู่ รอบรองชนะเลิศ “อันนา” นันทกาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลก ช่วยกันไล่ตบทำคะแนนเอาชนะ ตัน หนิง กับ เซี๊ยะ ยู่ติง คู่มืออันดับ 161 ของโลกจากจีน ไปได้ 2-0 เกม 21-16, 21-18 ใช้เวลาแข่งขัน 46 นาที “อันนา” นันทกาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เบ็ค ฮานา กับ ลี โซฮี คู่มืออันดับ 53 ของโลกเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ หลี่ เหวินเหม่ย กับ หลิว ซวนซวน คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 65 ของโลกจากจีน มาได้ 2-0 เกม 21-16,21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 53 นาที


“อันนา-มูนา” กล่าวหลังจบเกมนี้ว่า “วันนี้เราเล่นฟอร์มที่ดีอยู่ เพราะว่าเราได้ไปศึกษาของคู่นี้มาอย่างดีว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างในสนาม วันนี้อยากจะขอบคุณแฟนแบดมินตันชาวไทยทุกคนที่มาเชียร์ถึงขอบสนาม และผ่านหน้าจอทีวี สำหรับในรอบชิงชนะเลิศ เราจะพบกับคู่เก๋าอย่าง เบ็ค ฮานา กับ ลี โซฮี จากเกาหลีใต้ ก็จะพยายามเค้นฟอร์มที่ดีออกมาให้ดีที่สุดในวันพรุ่งนี้ “

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี เมมเบอร์) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิลยูเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผลงานของหญิงคู่ “อันนา” นันทกาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา ที่ทำผลงานเอาชนะคู่ดาวรุ่งฟอร์มแรงจากจีน ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมมากของทั้งคู่ และทั้งสองคนก็มีรูปแบบเกมการเล่นที่แฟนๆ ชื่นชอบกับการบุกตบที่หนักทั้งสองคน และจะเป็นการลุ้นแชมป์แรกของปี 2023 ของทั้งคู่ ต้องยอมรับว่าอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือเสียงเชียร์ของแฟนๆ กีฬาชาวไทยในสนามที่เร่งเร้าให้ทั้งคู่โชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เชื่อว่าในแมตช์ชิงชนะเลิศที่จะต้องพบกับคู่มือเก๋าจากเกาหลีใต้ถ้าหากทั้งคู่ได้รับเสียงเชียร์เป็นจำนวนมากยิ่งขึ้นก็จะเป็นพลังบวกให้ทำผลงานออกมาได้ดีอย่างแน่นอน”

“ส่วนหญิงเดี่ยว “เมย์” ศุภนิดา และชายคู่ “เอ็ม” สุภัค กับ “สกาย” กิตตินุพงษ์ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้แต่ก็สามารถทำผลงานต่อสู้กับคู่แข่งได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ แต่พลาดท่าพ่ายหวุดหวิด 1 -2 เกมทั้ง 2 ประเภท ก็ทำให้เห็นได้ว่า อนาคตแบดมินตันไทย มีรุ่นใหม่ที่เสริมรุ่นพี่ได้ดี ศึก “ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023” ถือว่าผลงานนักกีฬาคลื่นลูกใหม่ของไทย ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก สามารถผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ได้ถึง 3 ประเภท”


“จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยมาร่วมส่งเสียงเชียร์ในสนามด้วยกัน ทุกเสียงเชียร์จะเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยเพื่อจะได้เห็นนักกีฬาไทยได้ขึ้นยืนบนโพเดียมรับรางวัลในรอบชิงชนะเลิศ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถไปชมการแข่งขันที่สนามได้ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขันผ่านทางโทรทัศน์ badmintontvของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) สตรีมมิ่งสดทุกวันผ่าน BWF live streaming feed รวมทั้งการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของทรูวิชั่นส์ และ True4U ซึ่งจะเริ่มแข่งขันคู่แรกเวลา 12.00 น.” คุณหญิงปัทมากล่าวทิ้งท้าย”

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 25 ของโลก พบกับ จาง ยี่มาน มือวาง 7 ของรายการ มืออันดับ 18 ของโลกจากจีน สำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 3 ครั้ง เป็นทาง จาง ยี่มาน ที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเก็บชัยชนะไปได้ 2 ครั้ง แต่ล่าสุดในศึก ออสเตรเลียน โอเพ่น 2022 ศุภนิดา เอาชนะมาได้ 2-0 เกม ในแมตช์นี้ เมย์ ศุภนิดา พยายามฮึดสู้อย่างเต็มที่แต่มาเล่นพลาดเสียคะแนนในช่วงท้ายเกม พ่ายไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 21-15, 18-21 , 20-22 ใช้เวลาแข่งขัน 71 นาที

เมย์ ศุภนิดา เปิดใจว่า “สำหรับผลงานในรายการ ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023 นี้ ถือว่าทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขอขอบคุณแฟนแบดมินตันไทยที่ส่งเชียร์ มาตลอดตั้งแต่รอบแรก จนถึงรอบนี้ ถึงแม้จะไม่สามารถเข้าชิงชนะเลิศได้ ส่วนรายการต่อไป จะเตรียมตัวไปเล่นในศึกทีมผสมชิงแชมป์เอเชีย 2023 ในวันที่ 14-19 ก.พ.66 นี้ ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งเป้าไว้จะพาทีมคว้าเหรียญทองแดงให้ได้เป็นอย่างน้อย”

ประเภทชายคู่ รอบรอบรองชนะเลิศ “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 33 ของโลก พลาดท่าพ่ายให้กับ ลีโอ โรลลี่ คานานโด้ กับ แดเนียล มาร์ติน คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 21-18,17-21,17-21 ใช้เวลาแข่งขัน 58 นาที

“เอ็ม-สกาย” กล่าวว่า “รู้สึกเสียดายที่เราไม่สามารถเข้าไปชิงชนะเลิศรายการในบ้านได้ ส่วนรูปเกมวันนี้ในเกมแรก เราควบคุมเกมได้ดีกว่าชัดเจน แต่พอในเกมที่ 2 เป็นจุดเปลี่ยนที่คู่ของอินโดนีเซียบีบเกมเราตลอด ทำให้เราเล่นค่อนข้างยาก จนกระทั่งเกมที่ 3 เขาคุมเกมไว้ได้เกือบทั้งหมดเลยทำให้เราได้ผลการแข่งขันที่ไม่ดีในวันนี้”

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆที่น่าสนในรอบรองชนะเลิศมีดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว หาน ยู่ มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 11 ของโลกจากจีน ชนะ ซู เหวินชิ มืออันดับ 16 ของโลกจากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11,21-11 ใช้เวลาแข่งขัน 31 นาที

ประเภทชายคู่ ซุ ชินเฮง กับ ยี่ หงเหว่ย คู่มืออันดับ 42 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ บาร์กัส มัวลาน่า กับ มูฮัมมัด โชฮีบู ฟิครี้ คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 11 ของโลกจากอินโดนีเซีย 2-1 เกม 21-17,13-21,21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 60 นาที

ประเภทชายเดี่ยว ยี่ หลินชุน มืออันดับ 35 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ ฉี ยู่ฉี มืออันดับ 19 ของโลกจากจีน 2-0 เกม 21-15, 21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 44 นาที , อึ้ง กาลอง อังกุส มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 18 ของโลกจากฮ่องกง ชนะ หลี่ ฉีเฟง มือวาง 6 ของรายการ มืออันดับ 23 ของโลกจากจีน 19-21,21-8,21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 64 นาที

ประเภทคู่ผสม เฟิง หยานซี่ กับ หวง ดองปิง คู่มือวาง 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 24 ของโลกจากจีน ชนะ ฮิโรกิ มิโดริคาวะ กับ นัตสุ ซาอิโตะ คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากญี่ปุ่น 2-0 เกม 21-18, 21-11 ใช้เวลาแข่งขัน 39 นาที ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ โซว ซองแจ กับ แช ยูจุง คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ คิม วอนโฮ กับ จอง นาอึน คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากเกาหลีใต้ 2-1 เกม 21-13,15-21,22-20 ใช้เวลาแข่งขัน 56 นาที .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

สหรัฐเรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิงทันที

วอชิงตัน 25 ก.ค. – สหรัฐเรียกร้องไทยและกัมพูชาหยุดยิงทันที หลังความขัดแย้งตามแนวชายแดนทวีความรุนแรง จนเกิดความสูญเสียต่อพลเรือน ส่วนจีนส่งเสริมให้เจรจาสันติภาพ ยันยันวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธมิตรของจีนในอาเซียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขยายวงกว้าง และแสดงความเสียใจต่อรายงานความสูญเสียของพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หยุดยิงทันที พร้อมปกป้องชีวิตพลเรือนและแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน และเป็นสมาชิกที่สำคัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนบ้านและการจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองฝ่าย จีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ จีนจะยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ กรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม เขากล่าวอีกว่า จากมุมมองของผลประโยชน์ร่วมกันและความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จีนยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลาง และยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพในแบบของตนเองต่อไป เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการลดระดับและลดความตึงเครียดลง ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายระมัดระวังต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง รักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง และพยายามลดความตึงเครียดลงโดยเร็ว แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ ไม่ได้มีจุดยืนฝักใฝ่ฝ่ายใดในข้อพิพาทนี้ แต่ขอย้ำถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมแสดงความหวังว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยสันติ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกรอบในการเจรจาและยุติข้อพิพาทด้านสถานทูตต่างชาติหลายแห่ง ออกคำเตือนประชาชนของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น สถานทูตของสหรัฐในประเทศไทย เตือนพลเมืองของตัวเองที่อาจจะทำงานหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดที่ติดกับชายแดน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ขณะที่เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สำนักงานต่างประเทศ […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย