อาคารนิมิบุตร 4 ก.พ. – “อันนา-มูนา” คู่มืออันดับ 13 โลก ตบชนะดาวรุ่งจีน 2 เกมรวด เข้าชิงชนะเลิศแบดมินตันไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023 พบคู่มืออันดับ 53 ของโลกจากเกาหลีใต้
การแข่งขันแบดมินตันรายการ “ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023” (Princess Sirivannavari Thailand Masters 2023) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทัวร์นาเมนต์ระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 7,240,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. 66 เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ
ประเภทหญิงคู่ รอบรองชนะเลิศ “อันนา” นันทกาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลก ช่วยกันไล่ตบทำคะแนนเอาชนะ ตัน หนิง กับ เซี๊ยะ ยู่ติง คู่มืออันดับ 161 ของโลกจากจีน ไปได้ 2-0 เกม 21-16, 21-18 ใช้เวลาแข่งขัน 46 นาที “อันนา” นันทกาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เบ็ค ฮานา กับ ลี โซฮี คู่มืออันดับ 53 ของโลกเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ หลี่ เหวินเหม่ย กับ หลิว ซวนซวน คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 65 ของโลกจากจีน มาได้ 2-0 เกม 21-16,21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 53 นาที
“อันนา-มูนา” กล่าวหลังจบเกมนี้ว่า “วันนี้เราเล่นฟอร์มที่ดีอยู่ เพราะว่าเราได้ไปศึกษาของคู่นี้มาอย่างดีว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างในสนาม วันนี้อยากจะขอบคุณแฟนแบดมินตันชาวไทยทุกคนที่มาเชียร์ถึงขอบสนาม และผ่านหน้าจอทีวี สำหรับในรอบชิงชนะเลิศ เราจะพบกับคู่เก๋าอย่าง เบ็ค ฮานา กับ ลี โซฮี จากเกาหลีใต้ ก็จะพยายามเค้นฟอร์มที่ดีออกมาให้ดีที่สุดในวันพรุ่งนี้ “
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี เมมเบอร์) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิลยูเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผลงานของหญิงคู่ “อันนา” นันทกาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา ที่ทำผลงานเอาชนะคู่ดาวรุ่งฟอร์มแรงจากจีน ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมมากของทั้งคู่ และทั้งสองคนก็มีรูปแบบเกมการเล่นที่แฟนๆ ชื่นชอบกับการบุกตบที่หนักทั้งสองคน และจะเป็นการลุ้นแชมป์แรกของปี 2023 ของทั้งคู่ ต้องยอมรับว่าอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือเสียงเชียร์ของแฟนๆ กีฬาชาวไทยในสนามที่เร่งเร้าให้ทั้งคู่โชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เชื่อว่าในแมตช์ชิงชนะเลิศที่จะต้องพบกับคู่มือเก๋าจากเกาหลีใต้ถ้าหากทั้งคู่ได้รับเสียงเชียร์เป็นจำนวนมากยิ่งขึ้นก็จะเป็นพลังบวกให้ทำผลงานออกมาได้ดีอย่างแน่นอน”
“ส่วนหญิงเดี่ยว “เมย์” ศุภนิดา และชายคู่ “เอ็ม” สุภัค กับ “สกาย” กิตตินุพงษ์ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้แต่ก็สามารถทำผลงานต่อสู้กับคู่แข่งได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ แต่พลาดท่าพ่ายหวุดหวิด 1 -2 เกมทั้ง 2 ประเภท ก็ทำให้เห็นได้ว่า อนาคตแบดมินตันไทย มีรุ่นใหม่ที่เสริมรุ่นพี่ได้ดี ศึก “ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023” ถือว่าผลงานนักกีฬาคลื่นลูกใหม่ของไทย ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก สามารถผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ได้ถึง 3 ประเภท”
“จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยมาร่วมส่งเสียงเชียร์ในสนามด้วยกัน ทุกเสียงเชียร์จะเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยเพื่อจะได้เห็นนักกีฬาไทยได้ขึ้นยืนบนโพเดียมรับรางวัลในรอบชิงชนะเลิศ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถไปชมการแข่งขันที่สนามได้ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขันผ่านทางโทรทัศน์ badmintontvของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) สตรีมมิ่งสดทุกวันผ่าน BWF live streaming feed รวมทั้งการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของทรูวิชั่นส์ และ True4U ซึ่งจะเริ่มแข่งขันคู่แรกเวลา 12.00 น.” คุณหญิงปัทมากล่าวทิ้งท้าย”
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 25 ของโลก พบกับ จาง ยี่มาน มือวาง 7 ของรายการ มืออันดับ 18 ของโลกจากจีน สำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 3 ครั้ง เป็นทาง จาง ยี่มาน ที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเก็บชัยชนะไปได้ 2 ครั้ง แต่ล่าสุดในศึก ออสเตรเลียน โอเพ่น 2022 ศุภนิดา เอาชนะมาได้ 2-0 เกม ในแมตช์นี้ เมย์ ศุภนิดา พยายามฮึดสู้อย่างเต็มที่แต่มาเล่นพลาดเสียคะแนนในช่วงท้ายเกม พ่ายไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 21-15, 18-21 , 20-22 ใช้เวลาแข่งขัน 71 นาที
เมย์ ศุภนิดา เปิดใจว่า “สำหรับผลงานในรายการ ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023 นี้ ถือว่าทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขอขอบคุณแฟนแบดมินตันไทยที่ส่งเชียร์ มาตลอดตั้งแต่รอบแรก จนถึงรอบนี้ ถึงแม้จะไม่สามารถเข้าชิงชนะเลิศได้ ส่วนรายการต่อไป จะเตรียมตัวไปเล่นในศึกทีมผสมชิงแชมป์เอเชีย 2023 ในวันที่ 14-19 ก.พ.66 นี้ ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งเป้าไว้จะพาทีมคว้าเหรียญทองแดงให้ได้เป็นอย่างน้อย”
ประเภทชายคู่ รอบรอบรองชนะเลิศ “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 33 ของโลก พลาดท่าพ่ายให้กับ ลีโอ โรลลี่ คานานโด้ กับ แดเนียล มาร์ติน คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 21-18,17-21,17-21 ใช้เวลาแข่งขัน 58 นาที
“เอ็ม-สกาย” กล่าวว่า “รู้สึกเสียดายที่เราไม่สามารถเข้าไปชิงชนะเลิศรายการในบ้านได้ ส่วนรูปเกมวันนี้ในเกมแรก เราควบคุมเกมได้ดีกว่าชัดเจน แต่พอในเกมที่ 2 เป็นจุดเปลี่ยนที่คู่ของอินโดนีเซียบีบเกมเราตลอด ทำให้เราเล่นค่อนข้างยาก จนกระทั่งเกมที่ 3 เขาคุมเกมไว้ได้เกือบทั้งหมดเลยทำให้เราได้ผลการแข่งขันที่ไม่ดีในวันนี้”
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆที่น่าสนในรอบรองชนะเลิศมีดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว หาน ยู่ มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 11 ของโลกจากจีน ชนะ ซู เหวินชิ มืออันดับ 16 ของโลกจากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11,21-11 ใช้เวลาแข่งขัน 31 นาที
ประเภทชายคู่ ซุ ชินเฮง กับ ยี่ หงเหว่ย คู่มืออันดับ 42 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ บาร์กัส มัวลาน่า กับ มูฮัมมัด โชฮีบู ฟิครี้ คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 11 ของโลกจากอินโดนีเซีย 2-1 เกม 21-17,13-21,21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 60 นาที
ประเภทชายเดี่ยว ยี่ หลินชุน มืออันดับ 35 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ ฉี ยู่ฉี มืออันดับ 19 ของโลกจากจีน 2-0 เกม 21-15, 21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 44 นาที , อึ้ง กาลอง อังกุส มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 18 ของโลกจากฮ่องกง ชนะ หลี่ ฉีเฟง มือวาง 6 ของรายการ มืออันดับ 23 ของโลกจากจีน 19-21,21-8,21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 64 นาที
ประเภทคู่ผสม เฟิง หยานซี่ กับ หวง ดองปิง คู่มือวาง 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 24 ของโลกจากจีน ชนะ ฮิโรกิ มิโดริคาวะ กับ นัตสุ ซาอิโตะ คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากญี่ปุ่น 2-0 เกม 21-18, 21-11 ใช้เวลาแข่งขัน 39 นาที ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ โซว ซองแจ กับ แช ยูจุง คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ คิม วอนโฮ กับ จอง นาอึน คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากเกาหลีใต้ 2-1 เกม 21-13,15-21,22-20 ใช้เวลาแข่งขัน 56 นาที .-สำนักข่าวไทย