นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ประจำปีงบประมาณ 2565 ที่บริเวณโถงชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา กกท. พร้อมด้วย ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กกท. รวมถึงผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และพนักงานของกกท. และบุคคลในวงการมวยไทย ร่วมด้วย
นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เผยว่า “มวยไทย” ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ซึ่งการผลักดันกีฬามวยไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นเรื่องท้าทายของประเทศไทย ในฐานะประเทศต้นแบบ ซึ่งรัฐบาลโดย ฯพณฯ ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยไปสู่โอลิมปิก ได้ให้แนวทางสำคัญในการส่งเสริมสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมที่เป็น “ซอฟท์เพาเวอร์” ของไทย โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการกีฬามวย ร่วมกับภาครัฐและเอกชน พัฒนามวยไทยให้มีมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับในระดับการจัดการแข่งขันกีฬานานาชาติ
“การพัฒนาและความสำเร็จของวงการกีฬามวยไทยในแต่ละมิติจะเกิดขึ้นได้เลย หากปราศจากบุคลากรผู้ทรงเกียรติในการนำพา “มวยไทย” ไปสู่เป้าหมายดังกล่าว และเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรผู้อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังของวงการกีฬามวยไทย ตลอดจนกีฬามวยสากลของประเทศไทยนี้ ซึ่งในปีนี้จะมีการมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ครั้งที่ 10 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ขึ้นมา ซึ่งปีนี้กิจกรรมจะมีขึ้นในวันอังคาร ที่ 27 ก.ย. 2565 ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กกท.นั้น ก็เพื่อยกย่องบุคลากรในวงการกีฬามวยของประเทศไทยที่สร้างคุณประโยชน์แก่กีฬามวยไทย โดยจะมอบรางวัลให้แก่บุคลากรในช่วงปี พ.ศ.2563 และปี พ.ศ. 2564 ทั้งสิ้น 67 รางวัล
ดร.สุปรานี คุปตาสา เผยว่า ในนามกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กกท. ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มา ร่วมงานแถลงข่าวการจัดงานงานยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ครั้งที่ 10 โดยประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดวิสัยทัศน์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในการเป็น “แหล่งทุนที่ใช้ในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการกีฬาของชาติ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านกีฬาในระดับนานาชาติ ซึ่งก็ครอบคลุมพันธกิจทั้งกีฬาเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ และกีฬาเพื่อมุ่งสู่การสร้างอาชีพ และปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันได้กลายเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังและทรงอิทธิพลทางความคิดไปไกลในระดับโลก ครอบคลุมทั้งทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย ไปจนถึงออสเตรเลีย ซึ่งก็นับถือเป็นเกียรติภูมิ และความภาคภูมิใจของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง