สปสช.เปิดตัวแดชบอร์ดข้อมูลบัตรทอง

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – สปสช.เปิดตัว “แดชบอร์ด” ประชาชน หน่วยบริการ นักวิจัย เข้าถึงข้อมูลระบบบัตรทอง พร้อมจับมือเนคเทค รับแจ้งปัญหาบัตรทองผ่าน “Traffy Fondue”


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า แต่ละปีได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท และมีฐานข้อมูลการให้บริการด้านสุขภาพขนาดใหญ่มาก มีข้อมูลบริการผู้ป่วยนอกกว่า 200 ล้านเรคคอร์ด/ปี ข้อมูลผู้ป่วยในประมาณ 8 ล้านเรคคอร์ด/ปี และถือเป็นหน้าที่ สปสช. ที่จะต้องสร้างความโปร่งใสการจัดสรรและใช้งบประมาณ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแดชบอร์ด สปสช. นอกจากสรุปข้อมูลการบริหารหลักประกันสุขภาพแล้ว ยังเป็นการคืนข้อมูลแก่สังคม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ ทั้งการศึกษาวิจัย กำกับติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยบริการ พัฒนาคุณภาพการบริการ หรือกำหนดนโยบายด้านสุขภาพ

สำหรับแดชบอร์ด สปสช. เป็นการนำข้อมูลบริการที่หน่วยบริการส่งเบิกมาที่ สปสช. บวกกับข้อมูลบางส่วนที่บูรณาการมาจากกระทรวงสาธารณสุข ผ่านกระบวนการ cleansing แล้วสรุปข้อมูลอินโฟกราฟิก โดยมีรายการข้อมูลดังนี้ คือ 1.บริการกรณีโควิด-19 2.บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 3.บริการโรคไตวายเรื้อรัง 4.บริการผู้ป่วยเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง 5.บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 6.บริการ Tele-medicine 7.บริการมะเร็งรักษาทุกที่ และ 8.บริการการเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ แต่ละหัวข้อผู้ใช้งานแดชบอร์ดสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งภาพรวมในระดับประเทศ เขต จังหวัด หรือแม้แต่อำเภอ โดยจะอัปเดตข้อมูลรายวัน


ทั้งนี้ เป้าหมายผู้ใช้แดชบอร์ด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ประชาชนทั่วไป หน่วยบริการ และนักวิจัย ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์หลากหลายรูปแบบ เช่น หน่วยบริการสามารถนำข้อมูลไปพัฒนาระบบบริการ หรือกำกับติดตามคุณภาพบริการ หรือเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายค่าบริการ รวมทั้งสามารถดูการบริการทั้งในพื้นที่เดียวกันและจังหวัดอื่น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นต้น ขณะที่หน่วยงานนโยบาย เช่น กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพ สามารถนำข้อมูลไปกำกับติดตามประเมินผลหน่วยงานในสังกัด ทั้งในภาพรวมทั้งประเทศ หรือรายพื้นที่ก็ได้

ส่วนหน่วยงานวิชาการ เดิมทีนักวิจัยที่ต้องการใช้ข้อมูลของ สปสช. ต้องทำหนังสือขอทุกครั้ง แต่เมื่อมีแดชบอร์ดแล้วก็สามารถเข้าดูและนำข้อมูลไปใช้ได้เลย ส่วนประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่า งบประมาณบัตรทองแต่ละปีถูกนำไปใช้อย่างไร เบิกจ่ายเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ ประชาชนเข้าถึงบริการมากน้อยแค่ไหน แต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร เป็นต้น และยังทราบข้อมูลของพื้นที่ต่างๆ ด้วยว่า มีหน่วยบริการตั้งอยู่ที่ไหน มีบริการอะไรบ้าง เป็นต้น

“ขณะนี้ สปสช.เปิดบริการข้อมูลแดชบอร์ดแล้ว โดยแดชบอร์ดของหน่วยบริการจะดูได้ทุกรายการ เพราะคุ้นเคยกับศัพท์เทคนิคอยู่แล้ว แต่ในส่วนแดชบอร์ดของประชาชนจะทยอยขึ้นข้อมูลในบางรายการก่อน ได้แก่ บริการสร้างเสริมสุขภาพ ไตวายเรื้อรัง การเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ และบริการกรณีโควิด เป็นต้น ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการปรับข้อความเพื่อให้ดูเข้าใจได้ง่าย จะมีแบนเนอร์ติดไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์ สปสช. ผู้ที่ต้องการใช้งานสามารถคลิกที่แบนเนอร์แล้วเข้าสู่ระบบแดชบอร์ดได้ทันที” นพ.จเด็จ กล่าว


นอกจากนี้ ยังร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) นำแพลตฟอร์ม Traffy Fondue มาใช้ในการดำเนินงานรับเรื่องร้องเรียนในระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางรับแจ้งปัญหาการรับบริการในระบบบัตรทอง นอกจากสายด่วน 1330 โดยเปิดรับเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการในวันนี้เช่นกัน

นายวสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยจากเนคเทค กล่าวว่า Traffy Fondue เหมือนกับไลน์ที่ประชาชน Add เป็นเพื่อนได้ เพื่อแจ้งปัญหาของเมือง โดยระบบจะส่งเรื่องที่รับแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบและแก้ไขปัญหา จากที่ กทม.ใช้งานเต็มรูปแบบ มีประชาชนแจ้งเรื่องกว่า 1.2 แสนเรื่อง ได้รับการแก้ปัญหา 6 หมื่นเรื่อง นอกจากนี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 60 จังหวัด ก็ใช้ Traffy Fondue รับแจ้งปัญหาเช่นกัน โดยแยกการรับแจ้ง 14 หัวข้อ ได้แก่ ความสะอาด ขยะ ไฟฟ้า ประปา จุดเสี่ยง ฯลฯ ล่าสุดได้ร่วมมือกับ สปสช. เพิ่มการรับแจ้งเรื่อง “สุขภาพและบัตรทอง” เพื่อให้ผู้มีสิทธิบัตรทองที่ไปรับบริการแล้วติดขัดปัญหา สามารถแจ้งมาที่ไลน์ Traffy Fondue ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ สปสช. ที่คอยรับเรื่องจะแก้ปัญหาให้

ทั้งนี้ จากนำร่องตั้งแต่ 11 ก.ค.65 มีการแจ้งเข้ามา 181 เรื่อง สอบถามสิทธิบัตรทอง 72 เรื่อง ร้องเรียนความไม่สะดวกรับบริการ/ถูกเก็บเงิน 2 เรื่อง ซึ่งแก้ไขแล้ว นอกนั้นเป็นข้อเสนอแนะ 9 เรื่อง และเรื่องหน่วยงานอื่น 97 เรื่อง ซึ่งเรื่องรับแจ้งจะรายงานไปที่ สปสช.ส่วนกลาง ตั้งแต่ 10 ส.ค.65 เป็นต้นไป เมื่อมีการแจ้งเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพและบัตรทองเข้ามาแล้ว ข้อมูลจะส่งต่อไปยังเขตที่ดูแลปัญหานั้นเลย ซึ่งการแก้ปัญหาจะรวดเร็วขึ้นไปอีก

นายวสันต์ กล่าวว่า การใช้งานเพียงพิมพ์ข้อความเหมือนคุยไลน์กับเพื่อน ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม ระบบจะสอบถามข้อมูลเพิ่ม ท่านก็ตอบกลับมา โดยข้อมูลจะถูกส่งต่อไปที่ สปสช. เพื่อแก้ปัญหา และเมื่อมีความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาจนแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งมายังไลน์ของผู้แจ้งทุกครั้ง ถ้าเป็นปัญหาที่พบเจอบ่อย ๆ สปสช.ก็จะนำไปปรับปรุงการเข้าถึงบริการ หรือเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่อไป ทั้งนี้ แจ้งปัญหาผ่านลิงก์นี้ทางโทรศัพท์มือถือ https://landing.traffy.in.th?key=zHdDaLxF.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ฮอกกี้ไทย

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพจีน

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพ “จีน” เย็นนี้ หลังเดินทางถึงนครฮาร์บิน ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9

ระเบิดปัตตานี

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 จ.ปัตตานี ตำรวจเจ็บ 4 นาย

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ชาวบ้านเผยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่เป็นปกติทุกวัน คาดคนร้ายเฝ้าสังเกตพฤติกรรมต่อเนื่อง

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง