สปสช.เปิดตัวแดชบอร์ดข้อมูลบัตรทอง

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – สปสช.เปิดตัว “แดชบอร์ด” ประชาชน หน่วยบริการ นักวิจัย เข้าถึงข้อมูลระบบบัตรทอง พร้อมจับมือเนคเทค รับแจ้งปัญหาบัตรทองผ่าน “Traffy Fondue”


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า แต่ละปีได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท และมีฐานข้อมูลการให้บริการด้านสุขภาพขนาดใหญ่มาก มีข้อมูลบริการผู้ป่วยนอกกว่า 200 ล้านเรคคอร์ด/ปี ข้อมูลผู้ป่วยในประมาณ 8 ล้านเรคคอร์ด/ปี และถือเป็นหน้าที่ สปสช. ที่จะต้องสร้างความโปร่งใสการจัดสรรและใช้งบประมาณ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแดชบอร์ด สปสช. นอกจากสรุปข้อมูลการบริหารหลักประกันสุขภาพแล้ว ยังเป็นการคืนข้อมูลแก่สังคม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ ทั้งการศึกษาวิจัย กำกับติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยบริการ พัฒนาคุณภาพการบริการ หรือกำหนดนโยบายด้านสุขภาพ

สำหรับแดชบอร์ด สปสช. เป็นการนำข้อมูลบริการที่หน่วยบริการส่งเบิกมาที่ สปสช. บวกกับข้อมูลบางส่วนที่บูรณาการมาจากกระทรวงสาธารณสุข ผ่านกระบวนการ cleansing แล้วสรุปข้อมูลอินโฟกราฟิก โดยมีรายการข้อมูลดังนี้ คือ 1.บริการกรณีโควิด-19 2.บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 3.บริการโรคไตวายเรื้อรัง 4.บริการผู้ป่วยเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง 5.บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 6.บริการ Tele-medicine 7.บริการมะเร็งรักษาทุกที่ และ 8.บริการการเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ แต่ละหัวข้อผู้ใช้งานแดชบอร์ดสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งภาพรวมในระดับประเทศ เขต จังหวัด หรือแม้แต่อำเภอ โดยจะอัปเดตข้อมูลรายวัน


ทั้งนี้ เป้าหมายผู้ใช้แดชบอร์ด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ประชาชนทั่วไป หน่วยบริการ และนักวิจัย ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์หลากหลายรูปแบบ เช่น หน่วยบริการสามารถนำข้อมูลไปพัฒนาระบบบริการ หรือกำกับติดตามคุณภาพบริการ หรือเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายค่าบริการ รวมทั้งสามารถดูการบริการทั้งในพื้นที่เดียวกันและจังหวัดอื่น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นต้น ขณะที่หน่วยงานนโยบาย เช่น กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพ สามารถนำข้อมูลไปกำกับติดตามประเมินผลหน่วยงานในสังกัด ทั้งในภาพรวมทั้งประเทศ หรือรายพื้นที่ก็ได้

ส่วนหน่วยงานวิชาการ เดิมทีนักวิจัยที่ต้องการใช้ข้อมูลของ สปสช. ต้องทำหนังสือขอทุกครั้ง แต่เมื่อมีแดชบอร์ดแล้วก็สามารถเข้าดูและนำข้อมูลไปใช้ได้เลย ส่วนประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่า งบประมาณบัตรทองแต่ละปีถูกนำไปใช้อย่างไร เบิกจ่ายเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ ประชาชนเข้าถึงบริการมากน้อยแค่ไหน แต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร เป็นต้น และยังทราบข้อมูลของพื้นที่ต่างๆ ด้วยว่า มีหน่วยบริการตั้งอยู่ที่ไหน มีบริการอะไรบ้าง เป็นต้น

“ขณะนี้ สปสช.เปิดบริการข้อมูลแดชบอร์ดแล้ว โดยแดชบอร์ดของหน่วยบริการจะดูได้ทุกรายการ เพราะคุ้นเคยกับศัพท์เทคนิคอยู่แล้ว แต่ในส่วนแดชบอร์ดของประชาชนจะทยอยขึ้นข้อมูลในบางรายการก่อน ได้แก่ บริการสร้างเสริมสุขภาพ ไตวายเรื้อรัง การเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ และบริการกรณีโควิด เป็นต้น ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการปรับข้อความเพื่อให้ดูเข้าใจได้ง่าย จะมีแบนเนอร์ติดไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์ สปสช. ผู้ที่ต้องการใช้งานสามารถคลิกที่แบนเนอร์แล้วเข้าสู่ระบบแดชบอร์ดได้ทันที” นพ.จเด็จ กล่าว


นอกจากนี้ ยังร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) นำแพลตฟอร์ม Traffy Fondue มาใช้ในการดำเนินงานรับเรื่องร้องเรียนในระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางรับแจ้งปัญหาการรับบริการในระบบบัตรทอง นอกจากสายด่วน 1330 โดยเปิดรับเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการในวันนี้เช่นกัน

นายวสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยจากเนคเทค กล่าวว่า Traffy Fondue เหมือนกับไลน์ที่ประชาชน Add เป็นเพื่อนได้ เพื่อแจ้งปัญหาของเมือง โดยระบบจะส่งเรื่องที่รับแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบและแก้ไขปัญหา จากที่ กทม.ใช้งานเต็มรูปแบบ มีประชาชนแจ้งเรื่องกว่า 1.2 แสนเรื่อง ได้รับการแก้ปัญหา 6 หมื่นเรื่อง นอกจากนี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 60 จังหวัด ก็ใช้ Traffy Fondue รับแจ้งปัญหาเช่นกัน โดยแยกการรับแจ้ง 14 หัวข้อ ได้แก่ ความสะอาด ขยะ ไฟฟ้า ประปา จุดเสี่ยง ฯลฯ ล่าสุดได้ร่วมมือกับ สปสช. เพิ่มการรับแจ้งเรื่อง “สุขภาพและบัตรทอง” เพื่อให้ผู้มีสิทธิบัตรทองที่ไปรับบริการแล้วติดขัดปัญหา สามารถแจ้งมาที่ไลน์ Traffy Fondue ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ สปสช. ที่คอยรับเรื่องจะแก้ปัญหาให้

ทั้งนี้ จากนำร่องตั้งแต่ 11 ก.ค.65 มีการแจ้งเข้ามา 181 เรื่อง สอบถามสิทธิบัตรทอง 72 เรื่อง ร้องเรียนความไม่สะดวกรับบริการ/ถูกเก็บเงิน 2 เรื่อง ซึ่งแก้ไขแล้ว นอกนั้นเป็นข้อเสนอแนะ 9 เรื่อง และเรื่องหน่วยงานอื่น 97 เรื่อง ซึ่งเรื่องรับแจ้งจะรายงานไปที่ สปสช.ส่วนกลาง ตั้งแต่ 10 ส.ค.65 เป็นต้นไป เมื่อมีการแจ้งเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพและบัตรทองเข้ามาแล้ว ข้อมูลจะส่งต่อไปยังเขตที่ดูแลปัญหานั้นเลย ซึ่งการแก้ปัญหาจะรวดเร็วขึ้นไปอีก

นายวสันต์ กล่าวว่า การใช้งานเพียงพิมพ์ข้อความเหมือนคุยไลน์กับเพื่อน ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม ระบบจะสอบถามข้อมูลเพิ่ม ท่านก็ตอบกลับมา โดยข้อมูลจะถูกส่งต่อไปที่ สปสช. เพื่อแก้ปัญหา และเมื่อมีความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาจนแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งมายังไลน์ของผู้แจ้งทุกครั้ง ถ้าเป็นปัญหาที่พบเจอบ่อย ๆ สปสช.ก็จะนำไปปรับปรุงการเข้าถึงบริการ หรือเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่อไป ทั้งนี้ แจ้งปัญหาผ่านลิงก์นี้ทางโทรศัพท์มือถือ https://landing.traffy.in.th?key=zHdDaLxF.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

EOD เร่งตรวจสอบ จยย.ต้องสงสัย ลานจอดรถสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่ EOD เร่งตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย กลางลานจอดรถสนามบินภูเก็ต ด้าน ทภก. แจ้งไม่กระทบเที่ยวบิน แนะผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง วันที่ 25 มิ.ย.68 ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานภูเก็ต ได้รับแจ้ง พบรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ฝั่งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทภก. จำนวน 2 คัน ก่อนจะขับออกไปเพียง 1 คัน และทิ้งรถอีกคันไว้โดยไม่มีการแสดงตัวเป็นเจ้าของ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) กำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด โดย ทภก. ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan : ACP บทที่ 4 การตรวจพบสิ่งของต้องสงสัยหรือวัตถุต้องห้าม กรณี ตรวจพบในพื้นที่ของสนามบิน เมื่อเวลา 16.20 น. […]

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

กัมพูชาเข้มไม่ยอมให้เด็กข้ามมาเรียนในไทย

สุรินทร์ 25 มิ.ย. – ไทยเปิดด่านตามหลักมนุษยธรรม แต่กัมพูชายังเข้ม จุดช่องจอมไม่ยอมให้เด็กข้ามมาเรียนในไทย จุดผ่านแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังจากปิดด่าน ทำให้เกิดผลกระทบชาวกัมพูชากับนักเรียนกัมพูชาที่ต้องข้ามฝั่งมาเรียน โดยชาวกัมพูชาบางคนมารอตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะข้ามฝั่งไปยังกัมพูชา ยืนยันว่าจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทย อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายคุยกันได้ และกลับมาเป็นเช่นเดิม ขณะที่คนขับรถส่งเด็กนักเรียน เล่าว่าตั้งแต่มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ ทำให้ขึ้นมารับนักเรียนฝั่งกัมพูชาไปเรียนที่ฝั่งประเทศไทยไม่ได้ เป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว มีทั้งนักเรียนอนุบาลและมัธยม ฝั่งไทยเปิดด่านตนมารอรับนักเรียนฝั่งกัมพูชา เพื่อมาเรียนที่ประเทศไทยทุกวัน แต่นักเรียนฝั่งกัมพูชาข้ามมาประเทศไทยไม่ได้ เนื่องจากฝั่งกัมพูชาไม่เปิดประตูให้ข้ามด่านมายังไทย แม้ฝั่งไทยจะอนุญาตให้อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ให้นักเรียนสามารถข้ามแดนไป-กลับได้ เพื่อมาโรงเรียน แต่เช้าวันนี้ รถรับ-ส่ง นักเรียน ที่เข้าไปรับนักเรียนชาวกัมพูชาที่หน้าด่าน ต้องตีรถเปล่ากลับ เนื่องจากกัมพูชาไม่เปิดประตูให้นักเรียนกัมพูชาข้ามเข้ามาเรียนในไทย ล่าสุดประตูฝั่งกัมพูชาเปิดเวลา 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่จะให้ชาวกัมพูชาที่ป่วยกลับประเทศกัมพูชา หากเอกสารไม่ครบต้องไปประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการส่งกลับ รวมผู้ป่วยและพ่อค้าแม่ค้าที่ตกค้างมากกว่า 500 คน ส่วนรถตกค้างประมาณ 50 คัน ส่วนใหญ่เป็นของผู้ค้าในตลาดชายแดนช่องจอม ทั้งนี้ ฝั่งกัมพูชาปิดประตูเวลา […]