กรุงเทพฯ 13 ก.ค. – รมช.สาธารณสุข สั่งการให้ช่วยเหลือผู้ป่วยน้ำหนัก 300 กก. เข้ารักษา รพ.ราชวิถี กรมการแพทย์ ทันทีวันนี้
วันนี้ (13 กรกฎาคม 2565) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือผู้ป่วยชายรายหนึ่งที่มีน้ำหนักตัวกว่า 300 กิโลกรัม อายุ 23 ปี อาศัยอยู่ที่ซอยสุเหร่าเก่า ถนนเทอดไทยมุสลิม ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุกิจ บรรจงกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยอง ได้นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดระยอง ลงพื้นที่ทันที เพื่อประเมินอาการเบื้องต้นของผู้ป่วย พร้อมทั้งประสานงานและสั่งการให้กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลราชวิถี รับช่วยเหลือผู้ป่วยให้เร็วที่สุด ซึ่งผู้ป่วยได้รับการส่งต่อทันทีมายังโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ จากการสอบถามมารดา ทราบว่า ผู้ป่วยไม่สามารถเดินได้ ต้องนอนคว่ำอยู่กับพื้นบ้านเพียงท่าเดียว ไม่สามารถพลิกตัวได้ด้วยตัวเอง ทำได้เพียงยกคอขึ้นมาได้เท่านั้น มีแผลตามตัวหลายจุด โดยเฉพาะที่ต้นคอด้านหลังมีแผลจากการกดทับจนเน่าและมีน้ำหนอง ซึ่งผู้ป่วยเริ่มอาการหนักเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยก่อนที่จะอาการหนักจนเดินไม่ได้ ผู้ป่วยยังสามารถขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนหนังสือได้ด้วยตัวเอง และยังเดินได้ มีน้ำหนักตัวประมาณ 150 กิโลกรัม เคยตรวจร่างกายพบว่าร่างกายปกติ ไม่พบโรคอะไร แต่หลังจากที่ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากรักษาหาย เริ่มมีอาการขาสั่น เดินแล้วเหนื่อยง่าย ปวดตามขาและตามร่างกาย อาการเริ่มหนักขึ้น และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม และหลังจากนั้นก็เดินไม่ได้
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง มีแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญหลายด้าน จึงมีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยรายดังกล่าว โดยได้วางแผนการรักษาในเบื้องต้น คือ ช่วงสัปดาห์แรกเป็นการตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยละเอียด เพื่อวางแผนควบคุมน้ำหนักโดยการจัดการโภชนาการ รวมถึงรักษาภาวะอาการที่ผิดปกติ หลังจากนั้นทีมสหสาขาวิชาชีพจะพิจารณาการรักษาเพิ่มเติม เช่น การผ่าตัด พร้อมทั้งกายภาพบำบัดและโภชนาการ ซึ่งจะต้องประเมินความจำเป็นและความพร้อมของผู้ป่วยอีกครั้งหนึ่ง. – สำนักข่าวไทย