ไทย-ภูฏาน เร่งพัฒนาโครงสร้างการจัดตั้งศูนย์ส่องกล้องโรคทางเดินอาหาร

28 เม.ย. – ราชอาณาจักรไทย ร่วมกับราชอาณาจักรภูฏาน เร่งพัฒนาโครงสร้างการจัดตั้งศูนย์ส่องกล้องโรคทางเดินอาหารในราชอาณาจักรภูฏาน ครอบคลุมการคัดกรองประชาชนทั่วประเทศ


กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลราชวิถี เผยปัญหาสุขภาพโลกมีความซับซ้อนและมีขอบเขตที่กว้างไกล อีกทั้งมีการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากรสู่ประชากรสูงอายุและด้านระบาดวิทยาของโรค ทำให้มีโรคเพิ่มขึ้นจากทั้งโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและโรคติดต่อจากเชื้ออุบัติใหม่ นอกจากนี้การระบาดของโรคโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโลกในหลายมิติ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานด้านสุขภาพโลกของไทยสามารถตอบสนองต่อบริบทดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสุขภาพโลกเชิงรุกให้มากยิ่งขึ้น โดยการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรและขีดความสามารถของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้สุขภาพโลกเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีกลไกขับเคลื่อนประเทศในหลายรูปแบบ รวมทั้งการประชุมในระดับต่างๆ โดยเฉพาะความรู้ทางวิชาการแพทย์ที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาด้านสาธารณสุขภายในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะราชอาณาจักรภูฏานที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทยมานาน ทั้งในระดับราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขของทั้งสองประเทศได้ลงนามความร่วมมือด้านสาธารณสุขในการสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกัน เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ในราชอาณาจักรภูฏานมีความเข้มแข็งทัดเทียมนานาอารยะประเทศ โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับใหม่ได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2561 แทนที่ฉบับเดิมซึ่งได้ลงนามความร่วมมือกันมานานกว่า 30 ปี (ความร่วมมือด้านสาธารณสุขฉบับเก่า พ.ศ.2530) เพื่อกระชับความร่วมมือในสาขาเดิม และขยายสาขาความร่วมมือใหม่ใน 11 สาขา ได้แก่ การควบคุมโรค อาหารปลอดภัยและการทดสอบคุณภาพยา การแพทย์ดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง การรับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการ ทรัพยากรบุคคลด้านสาธารณสุข การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ การให้บริการด้านการบำบัดและรักษายาเสพติด การวิจัยและการศึกษาด้านการแพทย์ ระบบการกำกับดูแลยาของประเทศ และสาขาความร่วมมืออื่นๆ นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือด้านการศึกษาในสาขาการแพทย์และการสาธารณสุขเพื่อสนับสนุนการสร้างศักยภาพในการดำเนินงาน สร้างเสริมความเข้มแข็งของการสร้างหลักประกันสุขภาพของประเทศภูฏาน รวมถึงความร่วมมือในการส่งผู้ป่วยที่มีภาวะซับซ้อนมารักษาต่อที่ประเทศไทย และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทางในสาขาที่ขาดแคลน เช่น แพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ โรคไต และโรคทางเดินอาหาร เป็นต้น


นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลราชวิถี ได้เพิ่มบทบาทในการเป็น National Policy Advocacy โดยเฉพาะกับบทบาทการพัฒนาด้านการดูแลรักษาเฉพาะทาง ที่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยโรคทางเดินอาหารด้วยการส่องกล้องให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ภายในประเทศอย่างต่อเนื่องในทุกเขตสุขภาพ มากกว่า 100 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ทีมบุคลากรทางการแพทย์ภายในประเทศให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถตรวจรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหารได้ในเขตสุขภาพ เพื่อลดการส่งต่อมารักษาในกรุงเทพมหานคร ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างเท่าเทียม และพัฒนากลไกการให้บริการด้านการรักษาประชาชนอย่างมีคุณภาพ ดำเนินการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการแพทย์เพื่อจะได้เกิดเป็นเครือข่ายที่ยั่งยืน สอดคล้องตามภารกิจและยุทธศาสตร์ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการแพทย์และร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ให้กับต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศพม่า ลาว กัมพูชา อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น และราชอาณาจักรภูฏาน ที่ได้ส่งทีมศัลยแพทย์ที่ขาดแคลนในประเทศเข้ารับการศึกษาหลักสูตรเฉพาะทางด้านการผ่าตัด และการส่องกล้องในระบบทางเดินอาหาร เพื่อนำไปพัฒนาประเทศในการป้องกันและยับยั้งโรคระบบทางเดินอาหารซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะราชอาณาจักภูฏานที่ส่งทีมแพทย์เข้ามาศึกษาหลักสูตรเฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหารในโรงพยาบาลราชวิถีในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อนำไปพัฒนาโครงสร้างศูนย์ส่องกล้องโรคทางเดินอาหารในประเทศของตนเองให้มีความเข้มแข็ง โดยโรงพยาบาลราชวิถีมีภารกิจหลักที่ให้การช่วยเหลือในทุกมิติเพื่อให้โครงสร้างด้านสาธารณสุขในราชอาณาจักรภูฏานมีความเข้มแข็งและประชาชนทุกระดับเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างเท่าเทียมกัน

นพ.ทวี รัตนชูเอก ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินอาหาร ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหาร และกลุ่มงานศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ Thai-Bhutan Laparoscopic Endoscopic Surgery มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือราชอาณาจักรภูฏานในการพัฒนาทางโครงสร้างด้านการตรวจคัดกรองและรักษาผู้ป่วยโรคทางเดินอาหารด้วยการส่องกล้อง การผ่าตัด ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านสาธารณสุขของทั้งสองประเทศในการร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของประชาชนในราชอาณาจักรภูฏาน ให้ความรู้ทางวิชาการแพทย์ และเพิ่มบทบาทการพัฒนาแพทย์ส่องกล้องโรคระบบทางเดินอาหาร รวมทั้ง การให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์ความรู้ การพัฒนากำลังคน และเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสุขภาพโลกเชิงรุกได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์โรงพยาบาลราชวิถีในการเป็นสถาบันต้นแบบทางการแพทย์ (Excellent Institute) และสอดคล้องตามแผนปฏิบัติราชการกรมการแพทย์ในการทำงานแบบเปิดกว้างและเชื่อมโยง (Open platform organization) อีกทั้ง เป็นการตอบสนองโครงการความร่วมมือเครือข่ายทางการแพทย์เฉพาะทางภายใต้แฟลตฟอร์มด้านวิชาการ/บริการทางการแพทย์กับต่างประเทศ (Global Health) ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ อีกด้วย. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย