กรม สบส. เผย 5 พฤติกรรมเสี่ยงโควิดช่วงตรุษจีน

สธ. 29 ม.ค.- ​กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผย 5 พฤติกรรมเสี่ยงโควิดช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งการจับจ่ายสินค้า มอบอั่งเปาเงินสด และไร้การตรวจคัดกรองเชื้อก่อนพบปะญาติพี่น้อง ฯลฯ แนะประชาชนให้ลดสัมผัสปรับเปลี่ยนไปใช้ช่องทางออนไลน์ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ขจัดความเสี่ยงการแพร่กระจายโรคโควิดสู่บุคคลใกล้ชิด

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่พี่น้องชาวไทย เชื้อสายจีน มักจะมีการรวมกลุ่มพบปะญาติ-พี่น้อง ไหว้ตรุษจีน หรือรับประทานอาหารร่วมกัน แต่ด้วยสถานการณ์การการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังพบการกลายพันธุ์ของเชื้อโรคโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่แม้อาการไม่รุนแรง แต่ก็ติดต่อได้ง่าย ในเทศกาลตรุษจีนนี้ ประชาชนจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้เหมาะสม เพื่อป้องกัน มิให้ตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดเกิดความสุ่มเสี่ยงที่จะแพร่ระบาดหรือติดโรคโควิด 19 ได้ โดยผลสำรวจการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงโรคโควิด 19 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ของกองสุขศึกษา กรม สบส. ซึ่งมีผู้ตอบแบบสำรวจ จำนวน 1,289 คน พบว่า ประชาชนยังมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคโควิด 19 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 5 อันดับ ดังนี้ 1)ประชาชนซื้อของเซ่นไหว้บรรพบุรุษในตลาดแทน ร้อยละ 61.4 2) ประชาชนนิยมให้อั่งเปาเป็นเงินสด ร้อยละ 54.4 3)ประชาชนไม่มีการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ก่อนในการพบปะสังสรรค์กับญาติ ร้อยละ 29.5 4)ประชาชนยังคงมีการรวมกลุ่มกินอาหารกับญาติพี่น้อง ร้อยละ 27.6 และ 5)ประชาชนไม่มีการสแกนไทยชนะหรือลงทะเบียนก่อนเข้าออกสถานที่ต่าง ๆ ร้อยละ 24.2 ดังนั้น เพื่อป้องกันการติดโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีการแพร่กระจายได้รวดเร็ว กรม สบส.ขอให้พี่น้อง ลดการสัมผัสปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจารกการจับจ่ายในตลาดให้เป็นการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ การมอบอั่งเปาเงินสดก็เปลี่ยนเป็นการโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แทน ก่อนไปพบญาติพี่น้อง หรือญาติผู้ใหญ่ควรมีการคัดกรอง ATK ด้วยตนเอง และเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา


ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ประชาชนมีการเดินทางไปมาหาสู่จับจ่ายใช้สอยและทำกิจกรรมกับครอบครัวอาจเกิดการแพร่กระจายของโรคได้มากขึ้น จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ที่มีอาการสงสัยว่าติดเชื้อโควิด 19 ให้รีบตรวจคัดกรองด้วย ATK เพราะปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อที่สำคัญ มาจากการสัมผัสกันภายในครอบครัว หรือการรับประทานอาหารร่วมกันที่บ้าน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ลูกหลานกลับมากราบไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งผู้ติดเชื้ออาจได้รับเชื้อมาจากสถานที่ระบาดและแพร่กระจายเชื้อสู่คนใกล้ตัว หรือผู้สูงอายุ จึงต้องระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) และยึดหลัก D-M-H-T-T คือ เว้นระยะห่าง-สวมหน้ากากทุกครั้ง-ล้างมือบ่อยๆ-ตรวจเร็วควบคุมไว-ไปไหนสแกนไทยชนะ อย่างเคร่งครัด​ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ