คกก.โรคติดต่อฯ เห็นชอบแนวทางคุมโรคตับอักเสบจากไวรัส

สธ. 24 ธ.ค.-คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบแนวทางควบคุมโรคตับอักเสบจากไวรัส-เพิ่มฝ่ายเทศกิจ กทม. ร่วมควบคุมโรค

คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบแนวทางการควบคุมโรคตับอักเสบจากไวรัส เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี และเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ กทม. เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ พร้อมหารือการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 3 หลังมีผลการศึกษาช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอไมครอนได้ ก่อนเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคพิจารณา ย้ำทุกจังหวัดเดินหน้าฉีดวัคซีน-ใช้มาตรการ VUCA รับเทศกาลปีใหม่


วันนี้ (24 ธันวาคม 2564) ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 12/2564 โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลาโหม มหาดไทย แรงงาน ศึกษาธิการ การต่างประเทศ การท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ UHOSNET โรงพยาบาลเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชาชีพและองค์กรอิสระ ร่วมการประชุม

นายอนุทินกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบ 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1) แนวทางการควบคุมโรคตับอักเสบจากไวรัส เนื่องจากประเทศไทยมีผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี เรื้อรัง 2.2 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี 7.5 แสนคน และส่วนใหญ่ผู้ป่วยมะเร็งตับมักพบในผู้ที่มีอายุระหว่าง 50 – 70 ปี หลังจากที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี หรือ ซี เรื้อรัง ซึ่งแนวทางการควบคุมโรคตับอักเสบจากไวรัส จะช่วยลดช่องว่างและอุปสรรคในการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหา และมีทิศทางการดำเนินงานที่นำไปสู่เป้าหมายการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ต่อไป และ 2) เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 (ฉบับ ..) พ.ศ. …. โดยพิจารณาแต่งตั้งหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สังกัดสำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ให้ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาดในพื้นที่


นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อกระตุ้นในเข็มที่ 3 หลังจากมีผลการศึกษา และมีการรับรองจากบริษัทผู้ผลิตว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยกระตุ้นระดับแอนติบอดีต่อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์เดลตา ซึ่งจะมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคพิจารณาต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการใช้วัคซีน โดยบริษัทแอสตราเซเนกายืนยันว่าจะส่งวัคซีนได้ครบทั้ง 61 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ส่วนวัคซีน อีก 60 ล้านโดส ที่ได้จัดหาไว้สำหรับในปี 2565 จะเป็นวัคซีนเจนเนอเรชันใหม่ รวมถึงมีการนำแนวทางการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 4 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่มีความเสี่ยง หรือผู้ที่มีความจำเป็น เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อที่ประชุม แสดงให้เห็นว่าไทยได้เตรียมการรับมือกับสถานการณ์โควิด 19 ในปี 2565 อย่างเต็มที่

นายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์โรคโควิด 19 แม้ว่าขณะนี้ไทยจะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิต ลดนายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์โรคโควิด 19 แม้ว่าขณะนี้ไทยจะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิต ลดลงกว่าที่คาดการณ์ แต่เรายังจับตาการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนอย่างใกล้ชิด ยกระดับการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งการตรวจคัดกรอง เฝ้าระวัง ตรวจวินิจฉัยและรักษา เตียง เวชภัณฑ์ และยาต้านไวรัส เข้มมาตรการตรวจคัดกรองโรคในผู้เดินทางเข้าประเทศรูปแบบ Test & Go ที่ได้รับอนุญาตก่อนหน้านี้ รวมถึงคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จะติดตามตรวจสอบทุกราย และให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาพิจารณาการจัดงานรื่นเริง และยึดทุกอย่างตามระเบียบ กฎหมาย มาตรการที่รัฐบาลกำหนด ประเมินอย่างเต็มที่ก่อนอนุมัติ รวมถึงมีการกำกับติดตามอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันได้ให้ทุกจังหวัดเดินหน้าฉีดวัคซีนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อรักษาระดับภูมิคุ้มกันให้สูงในระดับที่ต่อสู้กับสายพันธุ์โอไมครอนได้ และเคร่งครัดทุกพื้นที่ใช้มาตรการ VUCA เข้มงวดสวมหน้ากาก 100% เพื่อเตรียมพร้อมรับเทศกาลปีใหม่ และเน้นสถานที่จัดงานเป็นที่โล่ง ระบายอากาศได้ดี เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคโควิด 19 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ