เอกสารครบจ่ายเงินเยียวยาวัคซีนโควิด-19 ได้ไว

สปสช. 25 พ.ย.-สปสช.แนะผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 เวลายื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น เอกสารต้องครบ มีรายละเอียดถูกต้อง ถึงจะทำให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาได้รวดเร็ว


นางภัทรภร ธนธัญญา ผู้อำนวยการส่วน ฝ่ายกฎหมายพิทักษ์สิทธิ กลุ่มภารกิจสนับสนุนการมีส่วนร่วมและคุ้มครองสิทธิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงภาพรวมการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยากรณีได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. ว่า ขณะนี้ใน กทม.มีการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยารวมทั้งหมด 1,741 คำร้อง พิจารณาไปแล้ว 1,150 คำร้อง ไม่เข้าเกณฑ์พิจารณา 256 คำร้อง รอพิจารณาอีก 335 คำร้อง จ่ายเงินเยียวยาแล้วรวม 92 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการยื่นอุทธรณ์อีก 203 ราย และจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มจากกรณีอุทธรณ์อีก 27 ล้านบาท

นางภัทรภร กล่าวว่า การจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือเบื้องต้นฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าถ้าหากเกิดผลกระทบหรือได้รับความเสียหายจากวัคซีนที่รัฐบาลจัดสรรให้ ประชาชนจะได้รับการคุ้มครองเยียวยา โดยผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาคือคนไทยทุกคน ทุกสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ หรือสิทธิอื่นๆ ส่วนเกณฑ์การเยียวยาแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 1.มีอาการเล็กน้อย แต่ต้องหยุดงาน หรือทำการรักษาต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 100,000 บาท 2.สูญเสียอวัยวะหรือพิการ มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 240,000 บาท และ 3.เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 400,000 บาท ส่วนกรณีมีอาการเล็กน้อย เช่น เป็นไข้ ปวดเมื่อย ท้องเสีย ซึ่งหายเองได้โดยไม่ต้องพบแพทย์ ไม่ถือว่าเข้าข่ายที่จะยื่นขอรับเงินเยียวยาได้


นางภัทรภร กล่าวว่า เพื่อให้การยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ได้รับการพิจารณาเร็ว ขอเน้นย้ำว่าเอกสารที่ยื่นมาต้องมีความถูกต้องครบถ้วนตามที่ สปสช.กำหนด โดยจะเป็นตัวผู้ได้รับความเสียหายมายื่นเอง หรือให้ทายาท ผู้อุปการะ หรือแม้แต่หน่วยบริการยื่นแทนให้ก็ได้ และไม่ต้องรีบร้อน สามารถพบแพทย์เพื่อรักษาผลกระทบที่เกิดขึ้นจนหายดีก่อนแล้วค่อยมายื่นคำร้องก็ได้ เพราะ สปสช. เปิดให้มายื่นได้นานถึง 2 ปีนับจากที่ทราบว่าเกิดผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19

สำหรับขั้นตอนการยื่นคำร้องนั้น อันดับแรกให้เข้าไปดาวน์โหลดแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาได้ที่หน้าหลักของเว็บไซต์ สปสช. www.nhso.go.th จากนั้นกรอกข้อมูลตามที่ระบุในแบบคำร้องให้ละเอียดครบถ้วน อาทิ ชื่อ นามสกุล อายุ เลขประจำตัว 13 หลัก ที่อยู่ หน่วยบริการที่ไปรับการฉีดวัคซีน หมายเลขโทรศัพท์ ฯลฯ จากนั้นเมื่อกรอกแบบคำร้องแล้ว ให้แนบเอกสารสำเนาบัตรประชาชน หรือกรณียื่นแทนต้องมีใบมอบฉันทะด้วย ส่วนกรณีเสียชีวิตต้องมีสำเนาใบมรณะบัตร นอกจากนี้ยังมีใบรับรองแพทย์หรือเอกสารเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอาการไม่พึงประสงค์ สำเนาใบรับการฉีดวัคซีน หรือสำเนาผลการสอบสวนโรค (ถ้ามี) ตลอดจนสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร

“ในส่วนสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ย้ำว่าต้องมีคำนำหน้านาม ชื่อ นามสกุล ตรงกับสำเนาบัตรประชาชนที่ยื่น เคยมีกรณีผู้ยื่นคำร้องรายหนึ่งในสมุดบัญชีธนาคารยังใช้คำนำหน้านามว่า ด.ญ.แต่ในสำเนาบัตรประชาชนใช้คำว่า น.ส.แบบนี้ยังโอนเงินให้ไม่ได้ ต้องไปแก้ไขสมุดบัญชีธนาคารก่อน ดังนั้น อยากเน้นย้ำอีกครั้งเรื่องความถูกต้องของรายละเอียดเหล่านี้ รวมทั้งความครบถ้วนของเอกสาร เพราะถ้าเอกสารไม่ครบก็ต้องมีการขอเอกสารเพิ่มเติม ทำให้กระบวนการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาล่าช้าออกไป” นางภัทรภร กล่าว


นางภัทรภร กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่กรอกคำร้องและรวบรวมเอกสารประกอบครบถ้วนแล้ว ในพื้นที่ สปสช.เขต13 กทม. สามารถยื่นซองเอกสารได้ที่ สปสช.เขต 13 กทม. จ่าหน้าจดหมายถึงผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กทม. วงเล็บมุมซองว่ายื่นคำร้องวัคซีน โดยสามารถยื่นด้วยตัวเองที่อาคาร B ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ หรือกรณีส่งทางไปรษณีย์ให้ส่งเป็นจดหมายลงทะเบียนก็ได้ หรือกรณีต่างจังหวัด ยื่นได้ที่โรงพยาบาลที่รับการฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือ สำนักงาน สปสช.เขตพื้นที่นั้นๆ

“เมื่อได้รับเอกสารแล้ว สปสช.จะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทันที โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาเงินเยียวยาฯระดับเขต จะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด และเมื่อมีมติจ่ายเงินเยียวยาแล้ว สปสช.จะโอนเงินเข้าไปที่บัญชีธนาคารภายใน 5 วัน พร้อมมี SMS แจ้งให้ทราบว่าได้โอนเงินแล้ว หรือหากผู้ร้องยังไม่พึงพอใจผลการพิจารณา สามารถยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันหลังได้รับหนังสือแจ้งจาก สปสช. ทั้งนี้ กรณีมีข้อสงสัยในการกรอกข้อมูลหรือการยื่นคำร้อง สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือ Line official @ucbkk สร้างสุข”นางภัทรภร กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย