เอกสารครบจ่ายเงินเยียวยาวัคซีนโควิด-19 ได้ไว

สปสช. 25 พ.ย.-สปสช.แนะผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 เวลายื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น เอกสารต้องครบ มีรายละเอียดถูกต้อง ถึงจะทำให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาได้รวดเร็ว


นางภัทรภร ธนธัญญา ผู้อำนวยการส่วน ฝ่ายกฎหมายพิทักษ์สิทธิ กลุ่มภารกิจสนับสนุนการมีส่วนร่วมและคุ้มครองสิทธิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงภาพรวมการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยากรณีได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. ว่า ขณะนี้ใน กทม.มีการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยารวมทั้งหมด 1,741 คำร้อง พิจารณาไปแล้ว 1,150 คำร้อง ไม่เข้าเกณฑ์พิจารณา 256 คำร้อง รอพิจารณาอีก 335 คำร้อง จ่ายเงินเยียวยาแล้วรวม 92 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการยื่นอุทธรณ์อีก 203 ราย และจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มจากกรณีอุทธรณ์อีก 27 ล้านบาท

นางภัทรภร กล่าวว่า การจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือเบื้องต้นฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าถ้าหากเกิดผลกระทบหรือได้รับความเสียหายจากวัคซีนที่รัฐบาลจัดสรรให้ ประชาชนจะได้รับการคุ้มครองเยียวยา โดยผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาคือคนไทยทุกคน ทุกสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ หรือสิทธิอื่นๆ ส่วนเกณฑ์การเยียวยาแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 1.มีอาการเล็กน้อย แต่ต้องหยุดงาน หรือทำการรักษาต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 100,000 บาท 2.สูญเสียอวัยวะหรือพิการ มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 240,000 บาท และ 3.เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 400,000 บาท ส่วนกรณีมีอาการเล็กน้อย เช่น เป็นไข้ ปวดเมื่อย ท้องเสีย ซึ่งหายเองได้โดยไม่ต้องพบแพทย์ ไม่ถือว่าเข้าข่ายที่จะยื่นขอรับเงินเยียวยาได้


นางภัทรภร กล่าวว่า เพื่อให้การยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ได้รับการพิจารณาเร็ว ขอเน้นย้ำว่าเอกสารที่ยื่นมาต้องมีความถูกต้องครบถ้วนตามที่ สปสช.กำหนด โดยจะเป็นตัวผู้ได้รับความเสียหายมายื่นเอง หรือให้ทายาท ผู้อุปการะ หรือแม้แต่หน่วยบริการยื่นแทนให้ก็ได้ และไม่ต้องรีบร้อน สามารถพบแพทย์เพื่อรักษาผลกระทบที่เกิดขึ้นจนหายดีก่อนแล้วค่อยมายื่นคำร้องก็ได้ เพราะ สปสช. เปิดให้มายื่นได้นานถึง 2 ปีนับจากที่ทราบว่าเกิดผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19

สำหรับขั้นตอนการยื่นคำร้องนั้น อันดับแรกให้เข้าไปดาวน์โหลดแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาได้ที่หน้าหลักของเว็บไซต์ สปสช. www.nhso.go.th จากนั้นกรอกข้อมูลตามที่ระบุในแบบคำร้องให้ละเอียดครบถ้วน อาทิ ชื่อ นามสกุล อายุ เลขประจำตัว 13 หลัก ที่อยู่ หน่วยบริการที่ไปรับการฉีดวัคซีน หมายเลขโทรศัพท์ ฯลฯ จากนั้นเมื่อกรอกแบบคำร้องแล้ว ให้แนบเอกสารสำเนาบัตรประชาชน หรือกรณียื่นแทนต้องมีใบมอบฉันทะด้วย ส่วนกรณีเสียชีวิตต้องมีสำเนาใบมรณะบัตร นอกจากนี้ยังมีใบรับรองแพทย์หรือเอกสารเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอาการไม่พึงประสงค์ สำเนาใบรับการฉีดวัคซีน หรือสำเนาผลการสอบสวนโรค (ถ้ามี) ตลอดจนสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร

“ในส่วนสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ย้ำว่าต้องมีคำนำหน้านาม ชื่อ นามสกุล ตรงกับสำเนาบัตรประชาชนที่ยื่น เคยมีกรณีผู้ยื่นคำร้องรายหนึ่งในสมุดบัญชีธนาคารยังใช้คำนำหน้านามว่า ด.ญ.แต่ในสำเนาบัตรประชาชนใช้คำว่า น.ส.แบบนี้ยังโอนเงินให้ไม่ได้ ต้องไปแก้ไขสมุดบัญชีธนาคารก่อน ดังนั้น อยากเน้นย้ำอีกครั้งเรื่องความถูกต้องของรายละเอียดเหล่านี้ รวมทั้งความครบถ้วนของเอกสาร เพราะถ้าเอกสารไม่ครบก็ต้องมีการขอเอกสารเพิ่มเติม ทำให้กระบวนการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาล่าช้าออกไป” นางภัทรภร กล่าว


นางภัทรภร กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่กรอกคำร้องและรวบรวมเอกสารประกอบครบถ้วนแล้ว ในพื้นที่ สปสช.เขต13 กทม. สามารถยื่นซองเอกสารได้ที่ สปสช.เขต 13 กทม. จ่าหน้าจดหมายถึงผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กทม. วงเล็บมุมซองว่ายื่นคำร้องวัคซีน โดยสามารถยื่นด้วยตัวเองที่อาคาร B ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ หรือกรณีส่งทางไปรษณีย์ให้ส่งเป็นจดหมายลงทะเบียนก็ได้ หรือกรณีต่างจังหวัด ยื่นได้ที่โรงพยาบาลที่รับการฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือ สำนักงาน สปสช.เขตพื้นที่นั้นๆ

“เมื่อได้รับเอกสารแล้ว สปสช.จะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทันที โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาเงินเยียวยาฯระดับเขต จะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด และเมื่อมีมติจ่ายเงินเยียวยาแล้ว สปสช.จะโอนเงินเข้าไปที่บัญชีธนาคารภายใน 5 วัน พร้อมมี SMS แจ้งให้ทราบว่าได้โอนเงินแล้ว หรือหากผู้ร้องยังไม่พึงพอใจผลการพิจารณา สามารถยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันหลังได้รับหนังสือแจ้งจาก สปสช. ทั้งนี้ กรณีมีข้อสงสัยในการกรอกข้อมูลหรือการยื่นคำร้อง สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือ Line official @ucbkk สร้างสุข”นางภัทรภร กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด เร่งอพยพประชาชน

9 ก.ย. – โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบแล้วศพหนุ่มพิมายขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำป่าซัดตกท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ก.ย.) ขณะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมถนนในพื้นที่บ้านรังกาใหญ่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากไปบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ แม้ชาวบ้านจะเตือนและพยายามตะโกนห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายถูกน้ำป่าซัดทั้งรถและคนลอยหายไปกับกระแสน้ำ กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันนี้ (9 ก.ย.) ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง มีกุญแจเสียบคาอยู่ พร้อมกับถังน้ำมัน ลอยมาติดกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ชื่อนายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต นาทีน้ำป่าไหลซัดคนลอยออกจากบ้านคลิปนาทีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.) โดยจะเห็นว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.ห้วยแถลง หลังจากมีฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน […]

“แพทองธาร” เปิดใจหลังศาลพิพากษาคดีชั้น 14

ศาลฎีกา สนามหลวง 9 ก.ย.- “แพทองธาร” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ลดโทษ “ทักษิณ” เหลือ 1 ปี ครอบครัวยังห่วง-ภูมิใจในผลงานประวัติศาสตร์ รับเป็นนายกฯ คนแรกที่ต้องติดคุก แต่กำลังใจดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าฟังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ทางครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อภัยโทษและลดโทษให้คุณพ่อ ซึ่งพวกเราทั้งครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ เรารู้สึกเรื่องนี้ในทุกๆวัน และขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจห่วงใยให้คุณพ่อและครอบครัวของเรา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณเป็นผู้นำจิตวิญญาณในเรื่องการเมือง ที่ผ่านมาผลงานต่างๆที่ทำเพื่อบ้านเมืองท่านยังเป็นคนที่นึกถึงบ้านเมืองเสมอ ในการหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดี ตัวดิฉันเอง และครอบครัวมีความเป็นห่วงคุณพ่อ และภูมิใจที่คุณพ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้ประเทศไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนในประเทศ วันนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องจำคุกเรื่องนี้ก็อาจจะค่อนข้างหนักนิดหนึ่ง แต่กำลังใจดีทั้งคุณพ่อและครอบครัว ส่วนตัวดิฉันและพรรคเพื่อไทยยังมุ่งหน้าทำงานต่อเป็นฝ่ายค้านและทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนตรวจสอบรัฐบาลต่อไปในส่วนของพรรคทุกคนมีกำลังใจดี ขอบคุณทุกภาคส่วนประชาชนทุกคนที่ให้ให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดที่ผ่านมา.-315 -สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – “ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกคงเหลือเวลา 1 ปี พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุน ทักษิณโพสต์ X ระบุ “พี่น้องประชาชนที่เคารพด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกแก่ผมคงเหลือเวลา 1 ปี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ต่อทั้งตัวผม และครอบครัว ผมขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาในวันนี้ ตลอดระยะเวลาของการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2544-2549 ผมพยายามผลักดันทุกนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทย ให้พรรคการเมืองแข่งขันกันด้วยนโยบาย สร้างประชาธิปไตยที่กินได้จากผลงานของรัฐบาลที่ทำได้จริง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดในฐานะนักการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้ว่าทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารรัฐบาลของผมเมื่อปี 2549 แต่วันนี้ผมขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับตัวผม ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนตลอดมา ขอบคุณนักการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนมิตรทั้งหลายที่เคียงข้างกันทั้งในยามสุขและยามยาก ผมตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่เรามีร่วมกันมา จนกว่าจะถึงวันที่เราได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง จากวันนี้แม้ผมจะไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ผมจะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชนคนไทย […]

ศาลฎีกาฯ สั่ง “ทักษิณ” รับโทษ 1 ปี ชี้กระบวนการชั้น 14 มิชอบ

ศาลฎีกา 9 ก.ย.- ศาลฎีกานักการเมือง สั่ง “ทักษิณ” รับโทษ 1 ปี ชี้กระบวนการส่งรักษาตัวชั้น 14 มิชอบด้วย กม. – ไม่ได้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน-เพียงกล่าวอ้าง และเป็นโรคเรื้อรัง รักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ เจ้าตัวได้รับประโยชน์ไม่ต้องเข้าเรือนจำ เวลา 10.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ บค 1/2568 กรณีศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนว่า การบังคับโทษพันตำรวจโทหรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในคดีหมายเลขแดงที่ อม 4/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม 5/2551 และคดีหมายเลขแดงที่ อม 10/2552 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือไม่ โดยให้โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ยื่นคำชี้แจงข้อเท็จจริง โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทยใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ยืนคำชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลพร้อมเอกสารประกอบ ศาลไต่สวนพยานรวม 31 ปาก […]