สธ.ขอประชาชนอยู่บ้านหยุดเชื้ออีก 2 สัปดาห์หลังขยายล็อกดาวน์

กรุงเทพฯ 6 ส.ค.- สธ.เผยสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ใกล้เคียงตัวเลขคาดการณ์ล็อกดาวน์ประสิทธิภาพ 20% ขอความร่วมมืออยู่บ้านอีก 2 สัปดาห์ หลัง ศบค. ขยายล็อกดาวน์ 29 จังหวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ถึง 25% พร้อมเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง จะช่วยลดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลงได้


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 และผลจากการล็อกดาวน์ โดยนพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สถานการณ์โควิดขณะนี้ใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ ประสิทธิภาพการล็อกดาวน์ 20% ใน 14 วันที่ผ่านมา หากเพิ่มประสิทธิภาพการล็อกดาวน์เป็น 25% โดยล็อกดาวน์เพิ่มเป็น 29 จังหวัด ต่ออีก 14 วัน ร่วมกับการฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง จะส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอีกค่อนข้างมาก และในภาวะวิกฤต ความร่วมมือของทุกภาคส่วนมีค่ามากที่สุดในการลดการติดเชื้อ ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ช่วยกันลดการเดินทางดูแลตนเองเข้มขึ้น โดย กทม.จะเริ่มดีขึ้นใน 2-4 สัปดาห์ถัดไป และตามด้วยจังหวัดต่างๆ ขอให้กลับไปนึกถึงเมื่อเดือนเมษายน 2563 ที่ช่วยกันอยู่บ้านหยุดเชื้อ ไม่แพร่กระจายโรคต่อ

นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวเพิ่มเติม สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้น ใน กทม.และปริมณฑล ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนมากเพียงพอ ช่วงเดือนสิงหาคมนี้จะเร่งฉีดให้แก่กลุ่มเสี่ยงในต่างจังหวัดมากขึ้นคือ ผู้สูงอายุ และ 7 โรคเรื้อรัง เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งการจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้คำแนะนำจากคณะทำงานด้านวิชาการ ซึ่งประกอบด้วย อาจารย์จากโรงเรียนแพทย์ คณะทำงานด้านวัคซีน และนักวิชาการต้องขอบคุณคณาจารย์ต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือ ให้ข้อแนะนำที่ดีในการใช้วัคซีนที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทน เนื่องจากท่านมีความเป็นครูและผู้ให้ อยากทำสิ่งดีๆ ให้ประเทศและประชาชน


“สำหรับปี 2565 รัฐบาลอนุมัติกรอบการจัดหาวัคซีนเพิ่มเป็น 120 ล้านโดส โดยจะจัดหาวัคซีนทุกชนิด ทั้งเชื้อตาย ไวรัลเวกเตอร์ mRNA และโปรตีนซับยูนิต ที่เป็นวัคซีนรุ่นใหม่จะป้องกันเชื้อในช่วงเวลานั้นได้ วัคซีนที่ออกมาก่อนหน้านี้ ก็ป้องกันสายพันธุ์อู่ฮั่นและอัลฟาได้ แต่เมื่อกลายพันธุ์เป็นเดลตาประสิทธิภาพก็อ่อนลง โดยปัจจุบันบริษัทต่างๆ กำลังพัฒนาวัคซีนรูปแบบใหม่ อาจเป็นวัคซีนหลักที่ต้องฉีด 2 เข็ม หรืออาจเป็นวัคซีนบูสเตอร์” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าข้อมูลการติดตามการเคลื่อนย้ายของคน ทั้งทางรถและการเดินเท้า หลังประกาศลดการเดินทางตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่แล้ว พบว่าแนวโน้มลดลงแต่น้อยกว่าปีที่แล้ว เช่น กทม.และชลบุรี ปีที่แล้วลดลงได้กว่า 80% ส่วนปีนี้ได้เพียงกว่า 70% จึงต้องขอความร่วมมือเพื่อช่วยกันลดลงความเสี่ยง ตามประกาศ ศบค. ที่ปรับเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จาก 13 จังหวัดเป็น 29 จังหวัด, พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีเหลือง) 11 จังหวัด เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 3 ส.ค. 2564 ดังนั้น 2 สัปดาห์จากนี้ถือเป็นเวลาทองที่เราต้องร่วมมือกันทำให้การแพร่เชื้อน้อยลงมากที่สุด โดยออกจากบ้านให้น้อยที่สุด ทำงานที่บ้านให้มากที่สุด เน้นกิจกรรมที่ทำทางออนไลน์ เพิ่มความเข้มงวดขณะอยู่บ้านป้องกันการติดเชื้อในครอบครัว โดยเฉพาะที่มีผู้สูงอายุและโรคประจำตัว  

นายแพทย์โสภณกล่าวอีกว่าในช่วงเดือนสิงหาคม คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญมีคำแนะนำให้กระจายวัคซีนไปพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งในเดือนนี้มีวัคซีนประมาณ 10 ล้านโดสขึ้นไป ทั้งแอสตราเซเนกา ซิโนแวค และไฟเซอร์อีก 1.5 ล้านโดส โดยหลายจังหวัดที่มีการระบาดมากจะได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น เช่น นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สมุทรปราการ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ส่วน กทม.ยังมีการฉีดวัคซีนต่อเนื่อง


สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ส่งมาในภาวะแช่แข็งในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส บรรจุในถาดขนส่งวัคซีน 1,170 โดสต่อถาด รวมแล้วคือจำนวน 1,503,450 โดส ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนที่ปรากฎบนเว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐฯ จะจัดสรรให้กับ 

  1. บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 7 แสนโดส ตามความสมัครใจ 

2. ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 7 กลุ่มโรคเรื้อรังอายุ 12 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์อายุ 12 สัปดาห์ขึ้น ไปในพื้นที่ 13 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวม 645,000 โดส 

3. ชาวต่างชาติกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยในประเทศไทย และคนไทยที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ 150,000 โดส ซึ่งกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศทำระบบลงทะเบียนไว้       

4. สำหรับวิจัย 5,000 โดส ในการศึกษาการฉีดสลับ ศึกษาภูมิคุ้มกัน ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน 

5. สำรองไว้ 3 พันกว่าโดสสำหรับพื้นที่ระบาดใหม่ เช่น พื้นที่พบสายพันธุ์เบตา  

“วัคซีนไฟเซอร์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์จะทยอยส่งไปทุกจังหวัดทั่วประเทศตั้งวันที่ 3 สิงหาคมนี้ ตามที่จังหวัดได้สำรวจและรวบรวมรายชื่อส่งมา จัดส่งในภาชนะบรรจุที่รักษาอุณหภูมิแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพวัคซีน ส่วนของ กทม. กรมควบคุมโรคได้ประสานสำนักอนามัย จัดส่งวัคซีนไปที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่กำหนดและที่ประชุมคณะทำงานด้านบริหารการจัดการวัคซีนไฟเซอร์ มีข้อเสนอให้โรงพยาบาลแต่ละแห่งแสดงจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ต่อสาธารณชน เพื่อความโปร่งใสและสร้างความมั่นใจให้บุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า” นายแพทย์โสภณกล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน