กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- 14.00 น.วันนี้ รมว.ยุติธรรม จะแถลงมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำ รายละเอียดตัวเลขการติดเชื้อ รวมถึงการเพิ่มโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เตรียมแถลงข่าวเรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำ รายละเอียดตัวเลขการติดเชื้อ รวมถึงการเพิ่มโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ หลังเกิดกรณีพบผู้ต้องขังในทัณฑสถานหญิงกลาง 1,040 คน และผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 1,795 คน ติดโควิด แม้เมื่อวานนี้กรมราชทัณฑ์ออกหนังสือชี้แจงว่าการตรวจพบเป็นการตรวจเชิงรุก 100% จากผู้ต้องขังเกือบ 8,000 คน และขณะนี้ผู้ติดเชื้อทุกคนกำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ พร้อมยืนยันการรักษา และให้ยาเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงหากพบผู้ติดเชื้อบางคนมีอาการหนักจะย้ายไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอก และมีแผนฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขัง
ขณะที่มาตรการดูแลผู้ต้องขัง ให้ข้อมูลว่า เรือนจำทุกแห่งมีการควบคุมแบบบับเบิลแอนด์ซีล มีมาตรการแยกกักผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างน้อย 21 วัน และตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งก่อนผู้ต้องขังพ้นระยะแยกกักโรค และการตรวจพบติดเชื้อของผู้ต้องขังครั้งนี้ ถือว่าเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ ทำให้มั่นใจว่าสามารถคุมการระบาดในเรือนจำได้ โดยยกตัวอย่างเรือนจำนราธิวาส ที่ผู้ต้องขังติดเชื้อ แต่เรือนจำสามารถดูแลจนหาย และไม่พบการติดเชื้อเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวด้วยว่า ตัวเลขผู้ต้องขังติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพราะที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ พยายามขอตรวจ 100% แต่มีผู้ต้องขังที่เข้าออกไปศาลอ้างสิทธิไม่ยอมให้ตรวจ ทำให้เมื่อมีผู้ติดเชื้อเพียง 1 คนก็เกิดระบาดได้เช่นเดียวกับนอกเรือนจำ และที่ผ่านมาเป็นการพบผู้ต้องขังติดเชื้อเฉพาะแดนแรกรับ กับแดนกักโรค 14 วัน ไม่ได้พบในแดนอื่น
ไทม์ไลน์ “รุ้ง ปนัสยา” ติดโควิด-พี่สาวติดเพิ่มอีก 1
ด้าน รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิระวัฒนากุล แกนนำราษฎร ที่ออกมาปูดว่าในเรือนจำมีผู้ติดเชื้ออยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางมากกว่า 50 คน และคาดว่าทั้งในทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจำอื่นยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาล ขอให้ภาครัฐและราชทัณฑ์เปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อในเรือนจำอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้เธอรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วพร้อมเปิดเผยไทม์ไลน์การติดเชื้อผ่านโซเชียล เริ่มตั้งแต่วันที่ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำ คือวันที่ 6 พฤษภาคม อยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางไปศาลอาญารัชดา โรงพยาบาลพระราม 9 และกลับบ้าน, 7 – 9 พฤษภาคม อยู่บ้าน, 10 พฤษภาคมไป swab drive thru, 11 พฤษภาคม เวลา 18.30-20.30 น. ไปหน้าเรือนจำ และรู้ผลว่าติดโควิดเวลา 20.30 น.
รุ้ง ปนัสยา ย้ำไม่คิดว่าตัวเองจะติดโควิด เพราะตรวจครั้งล่าสุดวันที่ 22 เมษายน ไม่มีอาการใดๆ ที่บ่งบอกว่าติดเชื้อ และวันที่ออกจากเรือนจำได้พยายามไปตรวจหาเชื้อแต่โรงพยาบาลไม่ให้ตรวจ เพราะไม่มีอาการและไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง
ขณะที่ เมย์ เมธาวี สิทธิจิรวัฒนกุล พี่สาวของรุ้ง ปนัสยา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ติดโควิด-19 โดยคาดว่าได้รับเชื้อมาจากรุ้ง ส่วนไทม์ไลน์จะรีบแจ้งให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้ ได้ทยอยแจ้งคนที่สัมผัสใกล้ชิดแล้ว และทุกคนกำลังไปตรวจหาเชื้อแล้ว
“ไมค์ ระยอง” ติดโควิดในเรือนจำ แม่ห่วงใจจะขาด
ขณะที่ นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊ก ขึ้นข้อความบรรทัดแรกว่า “ไมค์ ระยอง ติดโควิดในเรือนจำ” และอธิบายต่อว่า วันที่ 11 พฤษภาคม ได้ขอให้ศาลไต่สวนไมค์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือไต่สวนในห้องอื่นที่ไม่ได้อยู่ในห้องพิจารณาคดี ศาลแจ้งทำนองว่าไต่สวนไม่ได้ จึงส่งไมค์กลับเรือนจำ
วันนี้ได้ทราบว่า ไมค์ติดโควิดในเรือนจำ ไม่รู้ว่าอาการป่วยเป็นอย่างไร ทีมทนายจะไปยื่นคำร้องอีกครั้ง หากศาลอนุญาตให้ไต่สวน และมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัว ไมค์ก็คงได้มีโอกาสออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลข้างนอก แต่ถ้าไม่อนุญาต ไมค์คงต้องกลับไปเผชิญกับชะตากรรมในเรือนจำที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ซึ่งไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สำคัญคือ “ไมค์เป็นโรคหอบมา 6-7 ปี” อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน แม่ไมค์ก็เป็นห่วงไมค์ใจจะขาด นอกจากลูกต้องถูกจองจำแล้ว ยังต้องมาติดโควิดในเรือนจำอีก มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและหดหู่มาก ชีวิตและชะตากรรมของไมค์ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลในวันนี้.-สำนักข่าวไทย