พม.ตั้งทีม “เรามีเรา” ช่วยกลุ่มเปราะบาง

พม.5 พ.ค.-พม.จัดตั้งทีม “เรามีเรา” โทร.สายด่วน 1300 และ 1479 เร่งช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่ติดเชื้อหรือเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งไม่มีผู้ดูแล


นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานการประชุมแนวทางขับเคลื่อนโครงการให้บริการเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการที่เดือดร้อน ขาดผู้ดูแล จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมีคณะผู้บริหาร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และหัวหน้าหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ เข้าร่วม

นางพัชรี กล่าวว่า แนวทางการขับเคลื่อนโครงการให้บริการเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่เดือดร้อน ขาดผู้ดูแล จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงฯ มีการบูรณาการความร่วมมือกับสํานักนายกรัฐมนตรี (นร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงกลาโหม (กห.) กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ในการเตรียมสถานรองรับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล


สำหรับกลุ่มเปราะบาง 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1) เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีผู้ดูแล เนื่องจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19
2) เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่รักษาหายจากโรคโควิด-19 แล้ว และกลับมาอยู่ในครอบครัว แต่มีความเครียดวิตกกังวล
3) เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่ถูกทิ้งไว้ลำพัง ไม่มีผู้ดูแล และ
4) เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 แต่ผู้ป่วยติดเชื้อเป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดู ด้านการบริการ ได้แก่
4.1) จัดที่พักอาศัย
4.2) จัดอาหาร 3 มื้อ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
4.3) ให้คำแนะนำปรึกษา จัดกิจกรรมนันทนาการตามความเหมาะสม โดยนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา หรือผ่านระบบออนไลน์โดยผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น และ
4.4) กรณีที่มีอาการเจ็บป่วย จะประสานส่งต่อโรงพยาบาล

สำหรับสถานที่รองรับกลุ่มเปราะบางนั้น กระทรวง พม. สามารถรองรับได้ประมาณ 400 คน มีดังนี้
1) กรณีเด็ก (แยกชาย-หญิง) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้แก่ 1.1) สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี กรุงเทพฯ (เฉพาะเด็กหญิง) 1.2) สถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช จ.ปทุมธานี (เฉพาะเด็กชาย) 1.3) สถาบันพระประชาบดี จ.ปทุมธานี
1.4) สถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด จ.นนทบุรี (เฉพาะเด็กชาย) และ
1.5) สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านบางละมุง จ.ชลบุรี (รับเด็กชาย-หญิง)

2) กรณีผู้สูงอายุ (แยกชาย-หญิง) โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้แก่
2.1) ที่พักคนเดินทางดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
2.2) บ้านสร้างโอกาส อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ
2.3) ศูนย์ฝึกอบรมผู้สูงอายุบางละมุง จ.ชลบุรี


และ 3) กรณีคนพิการ โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้แก่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการพระประแดง จ.สมุทรปราการ

นางพัชรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ พม.ได้จัดตั้งทีม “เรามีเรา” เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 และกำลังประสบปัญหาความยากลำบาก ประกอบด้วย นักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาสังคม และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านคนพิการ จำนวน 15 ทีม ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาค โดยประสานศูนย์บริการคนพิการประจำจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ดังนี้
1) ด้านการรับเรื่อง สายด่วน 1300 และ 1479 ได้แก่
1.1) รับแจ้งข้อมูลผู้รับบริการ (มีเอกสารรับรองทางการแพทย์จากหน่วยงานสาธารณสุข) แผนการรักษา สภาพปัญหา และความต้องการความช่วยเหลือ เป็นต้น
1.2) แจ้งรายละเอียดการเตรียมความพร้อมของผู้รับบริการก่อนเข้าสถานรองรับของกระทรวง พม. และ
1.3) ประสานส่งต่อไปยังทีมประสานงานกลาง

2) ด้านการประสานส่งต่อ ประสานงานกลาง ได้แก่
2.1) เจ้าหน้าที่ทีมประสานงานกลางรับการประสานข้อมูลจากสายด่วน 1300 และ 1479
2.2) วิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงของผู้รับบริการ เพื่อเข้าสถานรองรับฯ
2.3) ตรวจสอบสถานะความพร้อมของสถานรองรับฯ และ
2.4) นำส่งผู้รับบริการจากหน่วยงานสาธารณสุข หรือที่พักอาศัย เพื่อเข้ารับการดูแลในสถานรองรับฯ

และ 3) ด้านการช่วยเหลือดูแล ได้แก่
3.1) แนะนำการปฏิบัติตนในสถานรองรับและข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน 3.2) คัดกรองเบื้องต้น และให้ผู้รับบริการชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าอาคารพัก
3.3) กรณีก่อนกลับบ้าน จะมีการประเมินสุขภาพร่างกายและจิตใจ และ 3.4) การติดตามผลการช่วยเหลือผู้รับบริการ ภายหลังออกจากสถานรองรับฯ

สำหรับกลุ่มเปราะบางที่เป็นเด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี) ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่ยังมีความวิตกกังวลภายหลังการรักษา และยังไม่สามารถกลับไปอยู่ในครอบครัวได้ ทางกระทรวง พม. มีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านสถานที่รองรับ และทีมเจ้าหน้าที่สำหรับดูแล หากครอบครัวไหนที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 และบุคคลในครอบครัวต้องกักตัว 14 วัน ไม่สามารถออกไปนอกบ้านได้ ทาง พม.จะประสานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ เพื่อช่วยบริการส่งอาหารให้ถึงบ้าน รวมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และข้าวสารอาหารแห้ง

ทั้งนี้ ขอให้ อพม.ในแต่ละพื้นที่สำรวจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ สำหรับกรณีต่างจังหวัดได้ประสานผู้ว่าฯ จังหวัด และ พมจ.ทั่วประเทศ เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลในพื้นที่

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการลงพื้นที่ ณ ศูนย์พักคอยนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 พื้นที่คลองเตย (วัดสะพาน) เพื่อมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จำนวน 200 ชุด พร้อมด้วยเจลแอลกอฮอล์ล้างมือและหน้ากากอนามัย และพบปะให้กำลังใจเครือข่ายกระทรวง พม. อีกทั้งจะมีการจัดส่งข้าวกล่องพร้อมรับประทานให้ทุกวัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพจะนำปัญหาเข้าสู่ที่ประชุม JBC เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ก่อนที่ช่วงบ่าย คณะเสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ร่วมกับคณะ […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]