กรุงเทพฯ 15 เม.ย. – ปลัดเกษตรฯ สั่งทุกหน่วยงานเฝ้าระวังโควิด-19 เคร่งครัด โดยให้ข้าราชการปฏิบัติงานจากที่บ้าน แต่ต้องไม่กระทบต่อการบริการประชาชน ผู้เดินทางไปต่างจังหวัดช่วงสงกรานต์ ให้ตรวจหาเชื้อหรือกักตัวสังเกตอาการตามระดับความเสี่ยง พร้อมให้พ่นยาฆ่าเชื้อโรคอาคารก่อนเปิดทำการวันพรุ่งนี้
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ทำหนังสือสั่งทุกหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของศบค. อย่างเคร่งครัด โดยช่วงวันที่ 16 – 30 เม.ย. นี้ ต้องวางแผนการให้บุคลากรปฏิบัติราชการที่บ้าน (Work from Home-WFH) หน่วยงานละไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยต้องไม่กระทบต่อการบริการประชาชน
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2564 เป็นต้นมา มีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในหลายจังหวัดนั้น ผู้ที่เดินทางไปต่างจังหวัดช่วงสงกรานต์ เมื่อกลับมาแล้ว หากพบมีความเสี่ยงสูงทั้งไปในพื้นที่เสี่ยงหรือเสี่ยงจากการสัมผัสโรค ให้รีบไปตรวจหาเชื้อทันที หากเสี่ยงระดับรองลงมาให้พิจารณากักตัวหรือปฏิบัติงานจากที่บ้านอย่างน้อย 14 วัน ทั้งนี้ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเข้าตรวจแล้ว ขอให้เข้าที่พักทันทีเพื่อรอฟังผล โดยไม่แวะสถานที่อื่น
ส่วนบุคลากรที่จำเป็นต้องมาปฏิบัติงานในสำนักงาน ให้ปฏิบัติตามหลัก DMHTT (D : Social Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน อยู่ในพื้นที่สาธารณะ H : Hand ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ T : Testing การตรวจเร็ว รักษาเร็ว ควบคุมโรคได้เร็ว และ T : Thai cha na .ใช้แอฟไทยชนะ) อย่างเคร่งครัด จัดประชุมหรือสัมมนาทางออนไลน์ ลดการเดินทางออกนอกสำนักงานหรือต่างจังหวัด
นายทองเปลวกล่าวต่อว่า ที่สำนักงานปลัดกระทรวงฯ มีการพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วอาคาร ก่อนจะเปิดทำการวันพรุ่งนี้ รวมทั้งกำหนดให้มีจุดคัดกรองก่อนเข้ามา ซึ่งกำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการเช่นเดียวกันด้วย สำหรับบุคลากรของกระทรวงเกษตรฯ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ 4 คนนั้น เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ส่วนผู้มีความเสี่ยง 76 คนได้ตรวจหาเชื้อแล้ว ผลเป็นลบ แต่กักตัว 14 วันเพื่อสังเกตอาการตามขั้นตอนการเฝ้าระวังโรคแล้ว. – สำนักข่าวไทย