ยธ. 1 มี.ค.- รมว.ยธ.เผยคุมประพฤติติดกำไลอีเอ็มเกินอุปกรณ์ที่มี 3 หมื่นชุดแล้ว โชว์ตัวเลขติดกำไลอีเอ็ม ช่วยลดค่าใช้จ่ายในคุก และสร้างงานได้ไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท ด้วยค่าเช่ากว่า 300 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการคุมประพฤติ ครั้งที่ 1/2564 ว่า ถึงวันนี้มีผู้กระทำผิดใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์คุมประพฤติแทนการกักขัง 31,009 คน ซึ่งมากกว่ากำไลอีเอ็มที่มีอยู่ 30,000 ชุดแล้ว ซึ่งใช้วิธีหมุนเวียนใช้ และผลของการติดกำไลอีเอ็ม ทำให้เกิดการจ้างงานก่อนการพ้นโทษ ขณะนี้มีบริษัทห้างร้านที่ต้องการแรงงานรับเข้าทำงาน ทั้งที่ติดกำไลอีเอ็ม ได้แก่ บริษัท แก๊สพนมสารคาม จ้างแรงงานติดกำไลอีเอ็ม 1 ราย โรงงานซอสพริกศรีราชา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ขาดแรงงาน ได้ติดต่อขอจ้างงานผู้ติดกำไลอีเอ็ม จำนวน 50 คน โดยให้ค่าจ้างขั้นต่ำ 325 บาท รวมเป็นค่าจ้างประมาณ 472,500 บาท/เดือน ซึ่งเดิมจะไม่ค่อยมีการจ้างงานผู้ต้องขังพ้นโทษ แต่เมื่อติดกำไลอีเอ็มก็อยากจ้างงานเพิ่มขึ้น และยังพบว่า ผู้ติดกำไลอีเอ็มมีความประพฤติที่ดีขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกำไลอีเอ็มถูกใช้ทั้งตามคำสั่งศาลและผู้ต้องราชทัณฑ์ ทั้งคดียาเสพติดและการพักการลงโทษ นอกจากนี้ยังเตรียมขยายความร่วมมือกับศาลทหารที่ต้องการใช้กำไลอีเอ็ม โดยหากคิดในเชิงเศรษฐศาสตร์ กำไลอีเอ็มที่เช่ามาจำนวน 30,000 ชุด ด้วยค่าเช่า 332.8 ล้านบาท แต่ถ้าเกิดการจ้างงาน 25,000 คน ค่าแรงขั้นต่ำ 325 บาท/วัน จะได้ค่าแรงขั้นต่ำ 2,965 ล้านบาท/ปี และยังลดค่าใช้จ่ายในเรือนจำ ทั้งค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า และอื่นๆ 21,200 บาท/คน/ปี รวมแล้วการติดกำไลอีเอ็มจะลดค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับค่าเช่า จึงอยากให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ดูถึงผลการใช้กำไลอีเอ็ม อย่างไรก็ตาม ตนจะยังไม่จัดซื้อกำไลอีเอ็มเพิ่ม.-สำนักข่าวไทย