สคอ.รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2564

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค..- สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เตือนขับขี่ปลอดภัย ลดความเร็ว ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564


นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด- 19 ที่เกิดขึ้นขณะนี้ส่งผลให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยว การเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ของประชาชนเริ่มมีความวิตกกังวล ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นทั้งการดูแลตนเองและป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต้องทำควบคู่กันไปอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะช่วงหยุดยาวปีใหม่ปัญหาการขับรถเร็วและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ส่งผลกระทบรุนแรงสร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินไม่น้อยไปกว่าโควิดเช่นเดียวกัน

นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กำหนดให้เทศกาลปีใหม่ 7 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.63-4 ม.ค.64 เป็นช่วงเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ซึ่งสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่ผ่านมา พบมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3,421 ครั้ง บาดเจ็บ 3,499 คน และเสียชีวิต 373 ราย สาเหตุเสียชีวิตสูงสุดคือ ขับเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 30.23 โดยอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลมักเกิดในถนนสายรอง หมู่บ้าน ชุมชน ที่มาจาก “รถจักรยานยนต์” ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุร้อยละ 80 และ 2 ใน 3 ของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมีสาเหตุมาจาก “การขับรถเร็ว” การขับด้วยความเร็วสูงคนขับจะควบคุมรถหรือหลบหลีกอุบัติเหตุได้ยากขึ้น และเพิ่มความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จึงควรเว้นระยะห่างจากคันหน้าไม่ต่ำกว่า 60 เมตร เพื่อระยะการหยุดรถที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้ความเร็วของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นสาเหตุทำให้เกิดความรุนแรงของอุบัติเหตุ โดยพบว่าเมื่อรถจักรยานยนต์ใช้ความเร็วขณะขับขี่สูงกว่า 80 กม.ต่อชม. โอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 42 และเมื่อขับเร็วสูงกว่า 100 กม.ต่อชม. มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 80 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายิ่งขับรถด้วยความเร็วสูงมากขึ้นเท่าไร เมื่อเกิดอุบัติเหตุโอกาสเสียชีวิตจะสูงมากขึ้น
สิ่งสำคัญในการเดินทางปลอดภัย คือ การเตรียมความพร้อม ตรวจเช็คสภาพรถ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ หรือยาที่มีผลข้างเคียงทำให้ง่วง ศึกษาเส้นทาง พักเป็นระยะลดความเมื่อยล้าป้องกันวูบหลับ ขณะเดียวกันเมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วมีการเฉลิมฉลองดื่มสังสรรค์ข้ามคืนและขับขี่รถไปซื้อของมาเพิ่ม ขับไปในพื้นที่ที่ตนเองไม่ชำนาญเส้นทางมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง


ดังนั้นเพื่อสร้างความปลอดภัย ควรลดเร็ว ลดเสี่ยง ดื่มไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย และใส่แมสปิดปาก ปิดจมูก พกเจลล้างมือ ขับขี่อย่างปลอดภัย ก้าวสู่ปีใหม่อย่างมีความสุข .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5