นศ.รามฯ ทวงถามความเป็นธรรมให้เพื่อนถูกทำร้าย

หัวหมาก 27 ต.ค.-นักศึกษา ม.ราม ทวงถามความคืบหน้า ดำเนินการจากผู้บริหาร กรณีคนใส่เสื้อเหลือง เจ้าหน้าที่ ม.ราม ทำร้ายนักศึกษา 21 ต.ค. ด้านรองอธิการ บอกเป็นคนรุ่นเก่า ยังไม่ได้ดูคลิป


บ่ายวันนี้ (27ต.ค.) ที่หน้าสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก) นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า มารวมตัวกันยื่นหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยซึ่งได้ก่อเหตุในการใส่เสื้อเหลืองแล้วไล่เตะต่อยทำร้ายร่างกาย เด็กนักเรียนมัธยมต้นและทำร้ายร่างกายนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมาเกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ไล่ออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยด้วย

นอกจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้ว(7ก.พ.62)ที่ขณะนั้นเป็นเจ้าหน้าที่กองกิจการนักศึกษา ม.รามคำแหง และก่อเหตุตบตีนักศึกษา ม.รามคำแหง จนเป็นข่าวดังมาครั้งหนึ่งแล้ว


แต่ก็ยังไม่ได้รับการลงโทษใดๆ พอเรื่องเงียบ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็ย้ายให้ไปสังกัด สำนักกีฬา ม.รามคำแหง จนกระทั่งได้ก่อเหตุอีกครั้ง ในการใส่เสื้อเหลือง แล้วไล่เตะต่อย ทำร้ายร่างกาย เด็กนักเรียน มัธยมต้น และทำร้ายร่างกายนักศึกษามหาลัยรามคำแหง อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

น้องแบม (คนที่ถูกทำร้าย) กล่าวว่า การที่ตำรวจบอกว่าหลักฐานไม่พอตนในฐานะคนโดนทำร้ายรู้สึกโกรธ โมโห และสิ้นหวังอย่างมาก และคนที่โดนไม่มีแค่ตนเองคนเดียว ขนาดตัวเองคนที่โดนหนักสุดยังไม่สามารถดำเนิน การอะไรได้ ไม่ต้องพูดถึงคนที่บาดเจ็บเล็กน้อย สิ่งที่เกิดขึ้น ยังไม่เคยเห็นอธิการบดี อาจารย์ หรือมหาวิทยาลัย ออกมาแสดงการปกป้องนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตัวเอง หรือออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ ตนเองรู้สึกไม่มีความหวังในความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยเลย ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นหัวนักศึกษาบ้าง เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน

ทั้งนี้ เหตุการณ์วันนั้น กลุ่มคนใส่เสื้อสีเหลือง มาทำร้ายนักศึกษา ม.ราม อยากจะรู้ว่านักศึกษาที่อยู่ในพื้นที่จะอยู่ใช้ชีวิตได้อย่างไร ไม่รู้ว่าจะโดนคนนอกมาไล่ทำร้ายเมื่อไหร่ ยิ่งคนที่ทำร้ายในวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา คนคนนั้นทุกคนก็รู้ว่าเป็นใคร แต่ทำไมไม่ทำอะไร อยากจะขอประณามทั้งคนที่มาทำร้าย และคนไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งตำรวจหัวหมาก และอธิการบดี แต่กลับปกป้องคนมาทำร้ายนักศึกษา ม.ราม แทน


นอกจากนี้ได้อ่านแถลงการณ์ 3 ข้อ กับมหาวิทยาลัยรามคำแหง
1.ขอให้มหาวิทยาลัยออกจากเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเพราะเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมีส่วนร่วมในการทำร้ายนักเรียนนักศึกษาประชาชนและการใช้ความรุนแรงหลายกรณีภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง

2.ขอทวงถามไปยังหมาวิทยาลัยว่าได้ดำเนินการตามกฏหมายอย่างไรบ้างกับคนที่มาทำร้าย นักศึกษา นักเรียนและประชาชนภายในมหาวิทยาลัย หรือผู้บริหาร มีความเกรงกลัวต่อบุคคลดังกล่าวที่มีความเชื่อมโยงกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางคน

3.ผู้บาดเจ็บจะไม่รับการช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยเรื่องค่ารักษาพยาบาลจนกว่าการการของมหาวิทยาลัยจะเป็นรูปธรรมและเป็นที่พอใจเพราะไม่ต้องการเป็นข้อกล่าวอ้างสร้างความชอบธรรมให้กับผู้บริหารมหาวิทยาลัย

หลังจากนั้น มีตัวแทนผู้บริหารออกมารับหนังสือจากนักศึกษา คือ รศ.อดุลย์ ตะพัง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ฝ่ายกิจการนักศึกษา และ นายเริงรณ ล้อมลาย รองอธิการบดีฯ ฝ่ายธุรการ

ในช่วงหนึ่ง รศ.อดุลย์ ได้ตอบคำถามจากนักศึกษาที่มาร่วมยื่นหนังสือในครั้งนี้ว่า ได้ดูภาพหลักฐานการทำร้ายนักศึกษาของตัวเองแล้วหรือยัง รศ.อดุลย์ ตอบกลับไปว่า ตนเองเป็นคนรุ่นเก่า เรื่องคลิปอะไรจึงยังไม่ได้ดู แต่ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้วตอนนี้ยังไม่สามารถตอบคำถามใดใดกับนักศึกษาหรือประชาชนในสังคมได้ ขอให้ทางคณะกรรมการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ยืนยันว่าภายในสัปดาห์นี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา

ส่วนเรื่องอื่นๆรวมถึงการลงโทษนั้น ต้องขอให้เป็นหน้าที่ของทางคณะกรรมการดำเนินการ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการหาพยานหลักฐานและยังตอบไม่ได้ ว่าพฤติกรรมเป็นการกระทำที่ร้ายแรงหรือไม่

ส่วนอีกข้อสอบถามของนักศึกษาที่ไปทวงถาม ตำรวจ สน.หัวหมาก เรื่องการดำเนินคดี ไม่มีหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดีเนื่องจากทางตำรวจขอกล้องวิดีโอภายในมหาวิทยาลัย แต่มหาวิทยาลัยยังไม่ส่งหลักฐานเข้ามาให้ นักศึกษาจึงขอถามผู้บริหารว่า ทำไมจึงไม่ส่ง และตามปกติกล้องวงจรปิด จะอยู่ได้ 7 วัน ซึ่งนับจากวันที่ 21 ตุลาคม จนถึงวันนี้เข้าสู่วันที่ 7 แล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินการการอย่างไร ทางผู้บริหารกลับบ่ายเบี่ยงตอบไมได้ ก่อนจบการแถลง และเรียกนักศึกษามาสอบถามหาหลักฐานเพิ่มเติม

โดยกลุ่มนักศึกษาให้เวลา 7 วันนับจากวันนี้ หากยังไม่มีความคืบหน้า จะมารวมตัวประท้วงขับไล่อธิการบดีอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ นครพนม จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 […]

หยุดยิง! ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น.

29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค. วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ […]

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]