โครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ พ.ศ.2562

17 ต.ค. – วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2563 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จฯ มาทรงร่วมงานโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ณ อาคารภูมิสุวรรณ เขื่อนวชิราลงกรณ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีข้าราชการ คณะครู เยาวชน และผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เฝ้ารับเสด็จ


โครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ได้รับโครงการดังกล่าวมาดำเนินงานภายใต้มูลนิธิฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและให้ความรู้พื้นฐาน เพื่อให้เยาวชนร่วมกันอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรน้ำอย่างจริงจังและเกิดความยั่งยืน โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปปรับใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำของพื้นที่กลุ่มเยาวชน ในปี พ.ศ.2562 มีกลุ่มเยาวชนจากทั่วประเทศส่งโครงการเข้าร่วมการประกวดพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ จำนวน 38 กลุ่ม และผ่านการคัดเลือกจำนวน 27 กลุ่ม เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมค่ายรอบประเมิน จากนั้นคณะกรรมการตัดสินได้พิจารณาคัดเลือกกลุ่มเยาวชนผ่านการประเมินเข้าสู่รอบตัดสินจำนวน 11 กลุ่ม ได้แก่

• กลุ่มจิตอาสา ตั้งตามพ่อ จังหวัดเชียงราย
• โรงเรียนทุ่งกว๋าววิทยาคม จังหวัดลำปาง
• บ้านผึ้งร้อยรัง ชุมชนบ้านสายตรีพัฒนา-โรงเรียนบ้านกรวดวิทยาคาร จังหวัดบุรีรัมย์
• ชุมชนคลองบางจาก-มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร
• โรงเรียนท่าเรือ “นิตยนุกูล” จังหวัดอยุธยา
• โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดอยุธยา
• โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวัดเพชรบุรี
• กลุ่มจิตอาสาภูมิปัญญาซั้ง รักษาสายน้ำ ตำบลท่าข้าม จังหวัดสงขลา
• โรงเรียนเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
• วิทยาลัยชุมชนปัตตานี จังหวัดปัตตานี
• เยาวชนพนาดร-กลุ่มบริหารจัดการน้ำชุมชนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช


ทั้งนี้ คณะกรรมการตัดสินได้ลงพื้นที่เพื่อพิจารณาการดำเนินงานและให้ข้อเสนอแนะแก่กลุ่มเยาวชนทั้ง 11 แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้นำกลุ่มเยาวชนทั้ง 11 กลุ่ม และกลุ่มเยาวชนที่ได้รับรางวัลปีที่ผ่านมา 2 กลุ่ม มาเข้าร่วมค่ายรอบตัดสินและพิธีประกาศผล การจัดกิจกรรมค่ายรอบตัดสินในระหว่างวันที่ 14 -17 ตุลาคม 2563 ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน

ผลการตัดสิน มีดังนี้
รางวัลชมเชย จำนวน 7 รางวัล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 5,000 บาท และเกียรติบัตร ได้แก่

  1. วิทยาลัยชุมชนปัตตานี จังหวัดปัตตานี ชื่อโครงการ ซั้งปลาภูมิปัญญาเพื่อการอนุรักษ์ป่าและน้ำ
  2. กลุ่มจิตอาสาภูมิปัญญาซั้ง รักษาสายน้ำ ตำบลท่าข้าม จังหวัดสงขลา ชื่อโครงการเด็กและเยาวชนรักษ์น้ำ สืบสานภูมิปัญญา “ซั้ง”
  3. บ้านผึ้งร้อยรัง ชุมชนบ้านสายตรีพัฒนา-โรงเรียนบ้านกรวดวิทยาคาร จังหวัดบุรีรัมย์ ชื่อโครงการ ร้อยรักษ์ รักษ์แหล่งน้ำ เพื่อสร้างแหล่งอาหารผึ้งป่า บ้านผึ้งร้อยรัง
  4. กลุ่มจิตอาสา ตั้งตามพ่อ จังหวัดเชียงราย ชื่อโครงการ ทำตามพ่อ พี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ
  5. โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดอยุธยา ชื่อโครงการ โครงการถังดักไขมันเตือนให้ตักรักษ์น้ำ
  6. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวัดเพชรบุรี ชื่อโครงการ พัฒนาแหล่งบำบัดน้ำเสียแบบยั่งยืน
  7. โรงเรียนท่าเรือ “นิตยนุกูล” จังหวัดอยุธยา ชื่อโครงการ NK รักษ์น้ำ 2562
    รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จำนวน 1 รางวัล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท และเกียรติบัตรได้แก่ โรงเรียนเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ชื่อโครงการ ฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลนปากแม่น้ำกระบี่ เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลนปากแม่น้ำกระบี่ร่วมกับชุมชนคู่เมืองและสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 26 (เมืองกระบี่) เนื่องจากพบว่าป่าชายเลนถูกบุกรุกประมาณ 14 ไร่ แม้ชุมชนจะรวมกลุ่มดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มแข็ง ชุมชนจึงร่วมกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลนโดยบูรณาการกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียน

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จำนวน 2 รางวัล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท เกียรติบัตร และโล่รางวัลจากมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แก่


  1. มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร ชื่อโครงการ รักษ์น้ำลำประโดง คลองบางจาก จากการดำเนินงานโครงการชุมชนชีววิถี (Bio Community) รักษ์น้ำตามยุคลบาท และโครงการพี่นำน้องสร้างสิ่งประดิษฐ์พิชิตน้ำเสียที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง จนได้ร่วมกับชุมชนตั้งคณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำชุมนคลองบางจาก เพื่อดูแลฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชนคลองบางจากในพื้นที่ 3 ลำประโดงด้วยการบำบัดน้ำ ลดขยะในชุมชน สร้างเครือข่ายและพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจในชุมชนคลองบางจาก ชุมชนศรีประดู่ และชุมชนหลังมหาวิทยาลัยสยาม
  2. โรงเรียนทุ่งกว๋าววิทยาคม จังหวัดลำปาง ชื่อโครงการ ทุ่งกว๋าวร่วมใจ จัดการน้ำ ตามแนวพระราชดำริ ร่วมกันพัฒนาชุมชน พื้นที่ตำบลทุ่งกว๋าวมีลำห้วยป๋าวและลำห้วยสอดเป็นลำห้วยสายหลักที่ชาวบ้านใช้เป็นน้ำประปาภูเขา แต่เมื่อถึงฤดูฝนน้ำกลับมีตะกอนมาก ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถนำน้ำมาใช้ได้ เมื่อถึงฤดูแล้งน้ำก็แห้งและมีไฟป่าในบางครั้ง เยาวชนจึงรวมตัวกันเพื่อสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น ปลูกไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และสร้างแนวกันไฟ

รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท เกียรติบัตร และโล่รางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ เยาวชนพนาดร-กลุ่มบริหารจัดการน้ำชุมชนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชื่อโครงการ จากภูผาสู่มหานที พี่นำน้องรักษาป่าต้นน้ำ โดยดำเนินการในพื้นที่ตำบลถ้ำใหญ่และตำบลนาหลวงเสน ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำตรังที่ถูกบุกรุกพื้นที่เพื่อปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้ลำห้วยสาขาในป่าต้นน้ำเหือดแห้งในฤดูแล้ง แต่มีปัญหาน้ำหลากในฤดูฝน เนื่องจากโครงสร้างหน้าดินถูกทำลาย เยาวชนพนาดรจึงได้ร่วมกันฟื้นฟูป่าต้นน้ำ เพื่อลดปริมาณตะกอนในลำห้วยและร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์ไม้ท้องถิ่น
การดำเนินงานโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553-2562 ส่งผลให้เกิดกลุ่มเยาวชนที่ผ่านเข้ารอบการประเมินโครงการทั่วประเทศ 486 กลุ่ม

นอกจากนี้ ยังเกิดความร่วมมือในการดำเนินงานระหว่างเยาวชน ชุมชน และโครงการต่างๆ ที่กลุ่มเยาวชนร่วมมือกับหลายหน่วยงาน นับได้ว่าโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และน้อมนำแนวพระราชดำริ ไปปรับใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำของพื้นที่กลุ่มเยาวชนได้อย่างเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพอิสราเอลพบร่างตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา

เยรูซาเล็ม 7 มิ.ย. – นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันเสาร์ว่า กองทัพอิสราเอลได้พบร่างของตัวประกันชาวไทยชื่อ นายณัฐพงษ์ ปินตา ที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นายคัตซ์กล่าวว่า ร่างของณัฐพงษ์ อยู่กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ชื่อว่า กองพลน้อยมูจาฮีดีน และถูกนำกลับมาจากพื้นที่ราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในขณะที่ครอบครัวของเขาในประเทศไทยได้รับแจ้งแล้ว นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรกรรม ถูกลักพาตัวไปจาก คิบบุตซ์ นีร์ ออซ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้ชายแดน ซึ่งเป็นจุดดที่หนึ่งในสี่ของประชากรถูกสังหารหรือถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างการโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ถูกลักพาตัวไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกสังหารโดยผู้ที่จับตัวเขาไป ซึ่งได้ลงมือสังหารและนำร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันอีกสองคนกลับไปยังฉนวนกาซาด้วย โดยร่างของทั้งสองคนนั้นก็เพิ่งได้กลับคืนมาได้ในสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]