โครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ พ.ศ.2562

17 ต.ค. – วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2563 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จฯ มาทรงร่วมงานโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ณ อาคารภูมิสุวรรณ เขื่อนวชิราลงกรณ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีข้าราชการ คณะครู เยาวชน และผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เฝ้ารับเสด็จ


โครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ได้รับโครงการดังกล่าวมาดำเนินงานภายใต้มูลนิธิฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและให้ความรู้พื้นฐาน เพื่อให้เยาวชนร่วมกันอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรน้ำอย่างจริงจังและเกิดความยั่งยืน โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปปรับใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำของพื้นที่กลุ่มเยาวชน ในปี พ.ศ.2562 มีกลุ่มเยาวชนจากทั่วประเทศส่งโครงการเข้าร่วมการประกวดพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ จำนวน 38 กลุ่ม และผ่านการคัดเลือกจำนวน 27 กลุ่ม เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมค่ายรอบประเมิน จากนั้นคณะกรรมการตัดสินได้พิจารณาคัดเลือกกลุ่มเยาวชนผ่านการประเมินเข้าสู่รอบตัดสินจำนวน 11 กลุ่ม ได้แก่

• กลุ่มจิตอาสา ตั้งตามพ่อ จังหวัดเชียงราย
• โรงเรียนทุ่งกว๋าววิทยาคม จังหวัดลำปาง
• บ้านผึ้งร้อยรัง ชุมชนบ้านสายตรีพัฒนา-โรงเรียนบ้านกรวดวิทยาคาร จังหวัดบุรีรัมย์
• ชุมชนคลองบางจาก-มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร
• โรงเรียนท่าเรือ “นิตยนุกูล” จังหวัดอยุธยา
• โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดอยุธยา
• โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวัดเพชรบุรี
• กลุ่มจิตอาสาภูมิปัญญาซั้ง รักษาสายน้ำ ตำบลท่าข้าม จังหวัดสงขลา
• โรงเรียนเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
• วิทยาลัยชุมชนปัตตานี จังหวัดปัตตานี
• เยาวชนพนาดร-กลุ่มบริหารจัดการน้ำชุมชนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช


ทั้งนี้ คณะกรรมการตัดสินได้ลงพื้นที่เพื่อพิจารณาการดำเนินงานและให้ข้อเสนอแนะแก่กลุ่มเยาวชนทั้ง 11 แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้นำกลุ่มเยาวชนทั้ง 11 กลุ่ม และกลุ่มเยาวชนที่ได้รับรางวัลปีที่ผ่านมา 2 กลุ่ม มาเข้าร่วมค่ายรอบตัดสินและพิธีประกาศผล การจัดกิจกรรมค่ายรอบตัดสินในระหว่างวันที่ 14 -17 ตุลาคม 2563 ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน

ผลการตัดสิน มีดังนี้
รางวัลชมเชย จำนวน 7 รางวัล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 5,000 บาท และเกียรติบัตร ได้แก่

  1. วิทยาลัยชุมชนปัตตานี จังหวัดปัตตานี ชื่อโครงการ ซั้งปลาภูมิปัญญาเพื่อการอนุรักษ์ป่าและน้ำ
  2. กลุ่มจิตอาสาภูมิปัญญาซั้ง รักษาสายน้ำ ตำบลท่าข้าม จังหวัดสงขลา ชื่อโครงการเด็กและเยาวชนรักษ์น้ำ สืบสานภูมิปัญญา “ซั้ง”
  3. บ้านผึ้งร้อยรัง ชุมชนบ้านสายตรีพัฒนา-โรงเรียนบ้านกรวดวิทยาคาร จังหวัดบุรีรัมย์ ชื่อโครงการ ร้อยรักษ์ รักษ์แหล่งน้ำ เพื่อสร้างแหล่งอาหารผึ้งป่า บ้านผึ้งร้อยรัง
  4. กลุ่มจิตอาสา ตั้งตามพ่อ จังหวัดเชียงราย ชื่อโครงการ ทำตามพ่อ พี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ
  5. โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดอยุธยา ชื่อโครงการ โครงการถังดักไขมันเตือนให้ตักรักษ์น้ำ
  6. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวัดเพชรบุรี ชื่อโครงการ พัฒนาแหล่งบำบัดน้ำเสียแบบยั่งยืน
  7. โรงเรียนท่าเรือ “นิตยนุกูล” จังหวัดอยุธยา ชื่อโครงการ NK รักษ์น้ำ 2562
    รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จำนวน 1 รางวัล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท และเกียรติบัตรได้แก่ โรงเรียนเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ชื่อโครงการ ฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลนปากแม่น้ำกระบี่ เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลนปากแม่น้ำกระบี่ร่วมกับชุมชนคู่เมืองและสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 26 (เมืองกระบี่) เนื่องจากพบว่าป่าชายเลนถูกบุกรุกประมาณ 14 ไร่ แม้ชุมชนจะรวมกลุ่มดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มแข็ง ชุมชนจึงร่วมกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลนโดยบูรณาการกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียน

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จำนวน 2 รางวัล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท เกียรติบัตร และโล่รางวัลจากมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แก่


  1. มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร ชื่อโครงการ รักษ์น้ำลำประโดง คลองบางจาก จากการดำเนินงานโครงการชุมชนชีววิถี (Bio Community) รักษ์น้ำตามยุคลบาท และโครงการพี่นำน้องสร้างสิ่งประดิษฐ์พิชิตน้ำเสียที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง จนได้ร่วมกับชุมชนตั้งคณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำชุมนคลองบางจาก เพื่อดูแลฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชนคลองบางจากในพื้นที่ 3 ลำประโดงด้วยการบำบัดน้ำ ลดขยะในชุมชน สร้างเครือข่ายและพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจในชุมชนคลองบางจาก ชุมชนศรีประดู่ และชุมชนหลังมหาวิทยาลัยสยาม
  2. โรงเรียนทุ่งกว๋าววิทยาคม จังหวัดลำปาง ชื่อโครงการ ทุ่งกว๋าวร่วมใจ จัดการน้ำ ตามแนวพระราชดำริ ร่วมกันพัฒนาชุมชน พื้นที่ตำบลทุ่งกว๋าวมีลำห้วยป๋าวและลำห้วยสอดเป็นลำห้วยสายหลักที่ชาวบ้านใช้เป็นน้ำประปาภูเขา แต่เมื่อถึงฤดูฝนน้ำกลับมีตะกอนมาก ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถนำน้ำมาใช้ได้ เมื่อถึงฤดูแล้งน้ำก็แห้งและมีไฟป่าในบางครั้ง เยาวชนจึงรวมตัวกันเพื่อสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น ปลูกไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และสร้างแนวกันไฟ

รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท เกียรติบัตร และโล่รางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ เยาวชนพนาดร-กลุ่มบริหารจัดการน้ำชุมชนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชื่อโครงการ จากภูผาสู่มหานที พี่นำน้องรักษาป่าต้นน้ำ โดยดำเนินการในพื้นที่ตำบลถ้ำใหญ่และตำบลนาหลวงเสน ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำตรังที่ถูกบุกรุกพื้นที่เพื่อปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้ลำห้วยสาขาในป่าต้นน้ำเหือดแห้งในฤดูแล้ง แต่มีปัญหาน้ำหลากในฤดูฝน เนื่องจากโครงสร้างหน้าดินถูกทำลาย เยาวชนพนาดรจึงได้ร่วมกันฟื้นฟูป่าต้นน้ำ เพื่อลดปริมาณตะกอนในลำห้วยและร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์ไม้ท้องถิ่น
การดำเนินงานโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553-2562 ส่งผลให้เกิดกลุ่มเยาวชนที่ผ่านเข้ารอบการประเมินโครงการทั่วประเทศ 486 กลุ่ม

นอกจากนี้ ยังเกิดความร่วมมือในการดำเนินงานระหว่างเยาวชน ชุมชน และโครงการต่างๆ ที่กลุ่มเยาวชนร่วมมือกับหลายหน่วยงาน นับได้ว่าโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และน้อมนำแนวพระราชดำริ ไปปรับใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำของพื้นที่กลุ่มเยาวชนได้อย่างเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]