กทม. 12 ต.ค. – รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุพายุหลิ่นฟาอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว โดยภาคอีสานจะได้รับผลกระทบ ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง คาดการณ์เบื้องต้นสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่หน้าหนาว
คุณกรรวี สิทธิชีวภาค รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์ถึงพายุหลิ่นฟาระบุขณะนี้พายุลูกนี้อยู่แถว สปป ลาว อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว โดยภาคอีสานจะได้รับผลกระทบ ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ฝนที่ตกสะสมยังต้องเฝ้าระวังอยู่ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบคือ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา แต่ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ฝนค่อนข้างมากคือ ร่องมรสุม และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมยังมีกำลังแรง ดังนั้น พื้นที่ทางภาคใต้ยังมีฝนตกชุก
ผลกระทบจากพายุหลิ่นฟาจะเป็นฝนตกสะสม แต่ปริมาณการกระจายของฝนจะเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดฝนตกคือร่องมรสุมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ประกอบกับพายุเคลื่อนเข้ามาใกล้ ทำให้พายุมีพลังเพิ่มมากขึ้น พื้นที่ที่น่าห่วงอยู่ทางภาคใต้ตอนบน คือ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ฝนค่อนข้างมาก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก แถวกระบี่ ภูเก็ต พังงา สตูล ตรัง โดยปกติช่วงนี้ร่องมรสุมจะลงไปอยู่แถวภาคใต้แล้ว ถ้าประเทศไทยตอนบนเข้าหน้าหนาว ร่องมรสุมนี้จะพาดอยู่แถวทางภาคใต้ ฝนทางภาคใต้ก็จะชุก ใต้ฝั่งตะวันออก เป็นฤดูกาลของภาคใต้ โดยพายุหลิ่นฟาอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ตัวที่ต้องเฝ้าระวังคือดีเปรสชันในทะเลจีนใต้ยังก่อตัวอยู่ การเคลื่อนตัวเข้ามาทางตะวันตกมีแนวโน้มมีกำลังแรงขึ้น แต่คาดว่าทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุจะขึ้นเหนือ อาจจะเข้าเกาะไหหลำ ประมาณวันที่ 13-18 ต.ค.63 ถ้ามีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนแล้วก็จะมีชื่อว่าพายุ “นังกา”
โดยสัปดาห์หน้าคาดการณ์เบื้องต้นว่าจะเข้าสู่หน้าหนาว นอกจากนี้ยังมีพายุอีกลูกก่อตัว มีหย่อมความกดอากาศต่ำแถวฟิลิปปินส์ ความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเป็นพายุที่มีกำลังแรงขึ้น คือตอนนี้เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง แนวโน้มจะพัฒนาเป็นดีเปรสชัน หากมีกำลังแรงขึ้นอีกก็จะเป็นโซนร้อน การเคลื่อนตัวของตัวนี้คงเคลื่อนมาทางตะวันตก ผลกระทบกับไทยจะต้องเฝ้าระวังอีกครั้งหนึ่ง .-สำนักข่าวไทย