fbpx

ผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่วันนี้ 6 ราย

ศบค.10 ต.ค..- ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 รายงานสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)วันที่ 10 ตุลาคม 2563
ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 6 รายจาก ญี่ปุ่น 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย
เยอรมนี 1 ราย คูเวต 1 ราย อินเดีย 2 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,634 ราย เสียชีวิต 59 คน


สถานการณ์ COVID-19 ประเทศในเอเชียพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เมียนมา

ฝรั่งเศส ขยายคำสั่งเตือนภัย โควิดขั้นสูงสุดสู่ อีก 4 เมือง โดยกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส แถลงยืนยันผู้ติดเชื้อใหม่ 18,129 คน เพิ่มจานวนผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 671,638 คน รักษาหายแล้ว 100,306 คน เพิ่มขึ้น 513 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 32,521 คน เพิ่มขึ้น 76 คน ขณะเดียวกัน อัตราอุบัติการณ์ของโรค หรือค่า “ไออาร์” เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 116 ต่อประชากร 100,000 คน ทำให้คำสั่งเตือนภัย โควิดขั้นสูงสุด มีผลตั้งแต่หลังเที่ยงคืน(9 ต.ค.)เข้าสู่วันเสาร์ที่ 10 ต.ค.นี้ คำสั่งเตือนภัยด้านสาธารณสุขจาก “สีแดงเข้ม” เป็น “สีเลือดหมู” ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด 15 วัน “เป็นอย่างน้อย” เมืองลีล เมืองลียง เมืองเกรโนเบลอ และเมืองแซ็งเตเตียน โดยต้องปฏิบัติตามกฎเดียวกับกรุงปารีส เมืองมาร์แซย์ และดินแดนโพ้นทะเลกัวเดอลุป ที่อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมขั้นสูงสุดแล้ว นั่นคือ บาร์และผับไม่สามารถเปิดให้บริการได้ การจัดงานเลี้ยงและกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภทไม่ได้รับอนุญาต แม้ร้านอาหารยัง สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ


ส่วนเยอรมนีกลับมาติดโควิดเพิ่มขึ้น “ในระดับน่ากังวล” ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในรอบวันที่ผ่านมาว่า สถิติผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 310,144 คน เพิ่มขึ้น 4,058 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่ 11 เม.ย. ซึ่งในวันนั้นเยอรมนียืนยันจานวนผู้ติดเชื้อใหม่ 3,281 คน
ขณะที่สถิติสะสมของผู้ที่หายป่วยมีอย่างน้อย 267,700 คน เพิ่มขึ้น 2,100 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 9,578 คน เพิ่มขึ้น 16 คน ทั้งนี้ รายงานระบุด้วยว่า เยอรมนีอาจพบผู้ป่วยรายวันสูงถึงวันละ 10,000 คน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากประชาชน ไม่ปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุขของรัฐบาล ทั้งการรักษาระยะห่าง ระหว่างบุคคล การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และการหมั่นทำความสะอาดมือ เนื่องจากเพียง 8% ของสถิติผู้ป่วยสะสมในเยอรมนี ที่เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ

ด้านญี่ปุ่นเล็งผ่อนปรน 12 ประเทศ เสี่ยงโควิดต่ำ รวม “ไทย” อนุญาตเดินทางเข้าประเทศ กระทรงการต่างประเทศญี่ปุ่น กำลังพิจารณาผ่อนปรนมาตรการห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแก่ 12 ประเทศและดินแดนที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในระดับต่างๆกัน หากได้รับความเห็นชอบ จะทำให้ 12 ประเทศและดินแดนนี้พ้นจากประเทศใน “ระดับ 3” ที่แนะนำให้ยกเลิกการเดินทาง มาอยู่ใน “ระดับ 2” 12 ประเทศและดินแดนดังกล่าว คือ เกาหลีใต้, จีน, ไต้หวัน, ไทย, นิวซีแลนด์, บรูไน, มาเก๊า, มาเลเซีย , เวียดนาม, สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และฮ่องกง หากประเทศใดอยู่ในระดับ 2 จะไม่ถูกพนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นปฏิเสธให้เข้า ประเทศเหมือนกับระดับ 3 ไม่ใช่แค่นั้นรัฐบาลญี่ปุ่นยังมีแผนการยกเว้นการตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัส (พีซีอาร์) เมื่อเดินทาง เข้าญี่ปุ่นให้กับผู้ที่มีสัญชาติของประเทศระดับ 2 ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME