รัฐบาลเผยผลงานการยกระดับศักยภาพของแรงงาน

สำนักข่าวไทย ๙ ต.ค.- รัฐบาลเผยรายงานผลการดำเนินงาน ๑ ปี ในการยกระดับศักยภาพของแรงงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่องของรัฐบาล ตัวอย่างผลงานสำคัญของกระทรวงต่างๆ ดังนี้


  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ร่วมกับหนวยงานที่เกี่ยวของตรวจเรือประมงและแรงงานในภาคประมง ๑๐๑ ครั้ง และปรับปรุงขอมูลและจัดทำหนังสือคนประจำเรือสำหรับแรงงานต่างด้าว ๕๑,๑๘๑ ราย
  • กระทรวงกลาโหม  โครงการฝึกอบรมวิชาชีพทหารกองประจำการ เพื่อนำไปใช้ประกอบอาชีพหลังจากปลดประจำการเพื่อพัฒนาศักยภาพของแรงงานไทย จัดตลาดนัดแรงงาน      
  • กระทรวงศึกษาธิการ พัฒนามาตรฐานกำลังคนอาชีวศึกษาด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม (Innovative Technology) พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาอาชีวศึกษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการวิชาชีพใหม่ที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมศักยภาพ ไทยแลนด์ ๔.๐  สนับสนุนการจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี ให้แก่สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทุกแห่ง ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระในกลุ่มผู้เรียนอาชีวศึกษา ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ต่อยอดชิ้นงาน/ผลิตภัณฑ์ไปสู่เชิงพาณิชย์ได้ ส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยพัฒนาสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมในสถานศึกษาอาชีวศึกษา สนับสนุนการขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้ดิจิทัลชุมชน โดยการนำนักเรียนนักศึกษา และบุคลากร ลงพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนในพื้นที่บริการของแต่ละสถานศึกษา

กระทรวงแรงงาน ๑. การจัดทำข้อเสนอเพื่อกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ออกประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ ๑๐) ลงวันที่ ๖ ธันวาคม ๖๒ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๖๓

๒. การจัดทำข้อเสนอเพื่อกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ ๙) ฉบับล่าสุด จำนวน ๘๓ สาขาอาชีพ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๖๓ เป็นต้นไป

๓. การดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อยกระดับและพัฒนาแรงงาน 
๓.๑ โครงการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศไทย (Safety Thailand) เพื่อขับเคลื่อนงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ตามกรอบยุทธศาสตร์ของแผนแม่บทความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) เป้าหมาย ๑๑๗,๕๐๐ คน และอัตราการประสบอันตรายจากการทำงานลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕ เทียบกับปีที่ผ่านมา
๓.๒ โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านประกันสังคมถ้วนหน้า ครอบคลุม ๕๖๖ หมู่บ้าน โดยมีผู้สมัคร เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ จำนวน ๒๓,๒๒๖ ราย เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ รณรงค์ ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์การประกันสังคมมาตรา ๔๐ (ภาคสมัครใจ) ผ่านกลไกภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ โดยสำนักงานประกันสังคมพื้นที่/จังหวัด/สาขา ลงพื้นที่ในหมู่บ้าน เพื่อสร้างการรับรู้ถึงสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ เพื่อให้แรงงานอิสระเข้าสู่ระบบประกันสังคมมาตรา ๔๐ มีความมั่นคงในการดำรงชีวิต (ณ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓)

  • กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โครงการเมืองแห่งพลังงานโซลาร์เซลล์ โดยมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับฝีมือแรงงานไทยในลักษณะสองภาษา (ไทยและอังกฤษ) สนับสนุนมหาวิทยาลัยราชภัฎในด้านองค์ความรู้มาตรวิทยา
  • กระทรวงพาณิชย์ ยกระดับรายได้ ค่าแรงขั้นต่ำ ควบคู่พัฒนา “ทักษะฝีมือแรงงาน ผ่านคณะกรรมการไตรภาคี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด