กทม. 5 ต.ค.- โฆษก กทม. ย้ำแทนผู้ว่าฯ กทม. ขอโทษคนกรุง ทำเดือดร้อนน้ำท่วม ให้โทษผู้บริหาร อย่าโทษเจ้าหน้าที่ระบายน้ำ แจงทำทุกวิถีทางมาตลอด ทั้งขยายท่อระบายน้ำ ลอกท่อ และอุโมงค์ยักษ์ ส่วนการทำความเข้าใจกับประชาชน ใช้ 3 ช่องทางหลัก Facebook-Twitter-สื่อมวลชน ยังไม่มีแอปพลิเคชัน พร้อมย้ำระดมสรรพกำลังพร้อมตั้งรับฝนหนัก 7-9 ต.ค.นี้
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (โฆษก กทม.) เปิดเผยภายหลังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุม 50 เขต และสำนักต่างๆ รับมือน้ำท่วมและแก้ปัญหาที่คนกรุงเทพฯ ได้รับความเดือดร้อนในช่วงที่ผ่านมา ว่าเหนือสิ่งอื่นใด ผู้ว่าฯ กทม.ขอโทษประชาชนที่ทำให้ลำบาก ต้องเจอสภาพน้ำท่วมฝนตกรถติด โดย กทม.ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ขอรับผิดโดยดุษฎี แต่ทั้งนี้ให้โทษผู้บริหาร อย่าไปโทษเจ้าหน้าที่ เพราะเจ้าหน้าที่ระบายน้ำหน้างานทุกคนปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังแล้ว
โฆษก กทม.ชี้แจงประเด็นที่มีผู้ถามกันมากว่า กทม.ไม่ทำอะไรเลยหรือ โดยกล่าวว่า กทม.ได้ดำเนินการมาตลอดตั้งแต่ลอกท่อ ขยายท่อระบายน้ำ รุ่นเก่าที่มีขนาด 30-50 เซนติเมตร ให้ใหญ่ขึ้น แต่อาจไม่มีใครสังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้ทำให้ความสามารถในการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจาก 4-5 ปีก่อนที่ใช้เวลา 6 ชั่วโมง เพื่อจะระบายน้ำจุดท่วมขังได้ แต่ขณะนี้ใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวต่อว่า อุโมงค์ยักษ์ดึงน้ำที่ กทม.สร้างเสร็จแล้วที่สามารถดึงน้ำจากคลองเปรมประชากร มักกะสัน คลองแสนแสบ และบางซื่อได้ ก็มีส่วนช่วยทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายพื้นที่ ที่อุโมงค์ยักษ์ยังเข้าไปช่วยไม่ได้ ส่วนปัญหาอุปสรรค ในการระบายน้ำ ก็มีหลายประเด็น เช่น พื้นที่รอยต่อเอกชน หลายจุด กทม.ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการ บริหารจัดการน้ำได้เต็มที่ ทำให้มีปัญหาซ้ำซากมานานนับ 10 ปี เช่น ซอยทวีมิตร อสมท
อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่จะมีฝนตกหนัก ตั้งแต่วันที่ 7-9 ตุลาคมนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้แต่ละเขตระดมสรรพกำลังแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยนอกจากเร่งระบายน้ำแล้วยังเน้นให้บริการประชาชนในการเดินทางสัญจร ไม่ให้เกิดความลำบากเดือดร้อน
ส่วนประเด็นที่มีผู้สอบถามเข้ามามากว่าเมื่อเกิดฝนตกน้ำท่วม กทม. ขาดการชี้แจงกับประชาชนเท่าที่ควรนั้น โฆษก กทม.กล่าวว่า สิ่งที่ได้ทำการสื่อสารแล้วใน 3 ช่องทาง คือ Facebook Twitter และช่องทางผ่านสื่อมวลชน คือช่องทางที่พอสมควรแล้ว และมองว่า การมีแอปพลิเคชันต่างๆ ยังไม่เหมาะสมที่จะทำในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย