สธ.2ต.ค.-“อนุทิน” รับแนวคิดลดกักตัวให้ลดลงน้อยกว่า14 วัน หวังดึงนักท่องเที่ยว แต่ก็ต้องพิจารณาความปลอดภัยเป็นหลัก หลังAlternative Hospital Quarantine สร้างรายได้ 114 ล้านบาท พร้อมเปิด 4 สนามบิน เพิ่ม รองรับนักท่องเที่ยวเดินทางตรงมารักษาโรค ทั้ง ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ อู่ตะเภา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประชุมคณะอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ครั้งที่ 2/2563 ว่า ที่ประชุมได้มีการรายงานถึงตัวเลขรายได้จาก Alternative Hospital Quarantine สิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เดินทางเข้ามารวม 1,149 คน แบ่งเป็นผู้ป่วย 664 คน และผู้ติดตาม 485 คน ซึ่งสร้างรายได้กว่า114 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีผู้รอการอนุมัติเข้าไทยอีก 2,220 คน จะเห็นได้ว่าตัวเลขผู้สนใจเดินทางเข้าไทยจำนวนมาก จึงเป็นที่มาถึงแนวคิดการลดระยะเวลาการกักตัว เพราะหากกักตัวเชื่อว่าไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนสนใจเที่ยวไทย แต่การลดระยะเวลากักตัวนี้จะทำโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
ส่วนที่มีนักวิชาการเสนอลดการกักตัวให้ลดลงเหลือ10วันนั้น ในใจของตนอยากให้ลดมากที่สุด แต่ต้องปลอดภัย หรืออาจค่อยๆ ทยอยลดลง เพราะหากมีการกระตุ้นการท่องเที่ยว รายได้ทางเศรษฐกิจแต่กักตัวนานไปก็อาจไม่มีคนท่องเที่ยวได้
ขณะเดียวเพื่อให้การดำเนินการด้านการท่องเที่ยวหรือ เมดิคัลฮับคล่องตัว จึงเสนอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการงานร่วม 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวงคมนาคมให้มากำกับดูแล ประเมินการดำเนินกิจกรรมให้เป็นรูปธรรมากยิ่งขึ้นและนโยบายเป็น ไปในทิศทางเดียวกัน
ขณะเดียวกันในที่ประชุม ททท.ได้เสนอให้กระทรวงสาธารณสุข พิจารณา เรื่อง Sport State Quarantine นำสนามกอล์ฟแบบปิด ที่ไม่มีเมมเบอร์มาใช้เป็นสถานที่กักตัวคุณภาพสำหรับนักธุรกิจที่เข้ามาร่วมการประชุม เชื่อว่าจะสร้างรายได้ เช่นเดียวกันกับ ที่ประชุมชุด ศบค.ชุดเล็ก เห็นชอบในหลักการนำเอา Wellness State Quarantine คัดสรรสปาแบบลักซ์ชัวรี่ มาเป็นสถานที่กักตัวคุณภาพ ดูแลผู้ที่ต้องการเข้าสปาโดยเฉพาะ ซึ่งเตรียมประกาศคัดเลือกสปาคุณภาพเพื่อเข้าร่วมดำเนินการ
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า คณะกรรมการฯยังเห็นชอบแนวทางการเปิดสนามบินเพิ่มเติมอีก4 แห่งเพื่อรับผู้เดินทางจากต่างประเทศในลักษณะบินตรง ได้แก่ สนามบินสมุย ภูเก็ต เชียงใหม่ และอู่ตะเภา ไว้สำหรับรองรับผู้ป่วยที่ประสงค์จะบินตรงเพื่อเข้ารับการรักษาที่พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีความเชี่ยวชาญในบางโรค ทั้งนี้ แนวทางวิธีการดำเนินการเปิดรับผู้เข้ารับการรักษาจะมีขั้นตอนการอนุญาตให้เข้ามาเหมือนกับที่ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง.-สำนักข่าวไทย