มาตรการดูแล ปชช.รับผลกระทบยกเลิก 64 คลินิก

ศูนย์ราชการฯ 22 ก.ย.-สปสช.ย้ำประชาชน “สิทธิบัตรทอง” ยังอยู่ เป็นการเพิกถอนคลินิก-รพ.ทำหลักฐานเบิกเท็จ ระบุกระทบเฉพาะพื้นที่ กทม. ส่วน 76 จังหวัดระบบบริการปกติ พร้อมเผยความคืบหน้าดูแลประชาชน 8 แสนคน รับผลกระทบมีเพียง 30% ที่เจ็บป่วย เตรียมประชุมหน่วยบริการพื้นที่ กทม. ชี้แจงมาตรการรองรับ


ในการแถลงข่าว “สปสช.แจงยกเลิกสัญญา 64 คลินิก-โรงพยาบาลเอกชน ด้วยเหตุทุจริต ย้ำสิทธิบัตรทองยังคงอยู่ มีมาตรการรองรับ-บรรเทาผลกระทบ”

นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง ประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขเกินจริง กล่าวว่า ก่อนอื่นชี้แจงว่าอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ มีความเป็นอิสระ ไม่มีเจ้าหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือถูกครอบงำจาก สปสช.ซึ่งการตรวจสอบมีความจำเป็นต้องทำโดยละเอียด เพราะเป็นการปกป้องประชาชนผู้มีสิทธิ์ รักษาผลประโยชน์ของรัฐและภาษีของประชาชน ทั้งไม่มีการเลือกปฏิบัติเพราะเป็นการดูจากหลักฐานที่ปรากฏ ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร


ซึ่งพบว่ามีความจงใจสร้างเอกสารเท็จเพื่อเบิกจ่าย เริ่มจากคลินิก 18 แห่ง ขยายผล 64 แห่ง และตรวจพบอีก 106 แห่ง ที่เป็นความผิดทางอาญา ทำให้ สปสช.ต้องร้องทุกข์ดำเนินคดีและต้องเพิกถอนสัญญา ซึ่งต้องย้ำว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาคลินิก ไม่กระทบสิทธิของประชาชนในการรักษา โดยประชาชนยังคงเป็นผู้มีสิทธิบัตรทองอยู่

จากการตรวจสอบครบ 189 แห่ง มีเพียงแห่งเดียวที่ดำเนินการถูกต้อง โดยคลินิกอีก 188 แห่ง พบความผิดปกติ ใช้ข้อมูลไม่ถูกต้องในการเบิกจ่าย สปสช.อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งการตรวจสอบนี้ยังเป็นเพียงหนึ่งในรายการบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 18 รายการ และเป็นข้อมูลเฉพาะในปีงบประมาณ 2562 เท่านั้น หากถูกต้องจะต้องขยายตรวจสอบย้อนหลังปีที่ผ่านมาด้วย ซึ่งจะทำให้ทราบว่ามีการทุจริตปีละเท่าไหร่ และ สปสช. ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ไม่ใช่ปล่อยให้มาสูบผลประโยชน์จากกองทุนบัตรทอง ซึ่งขอย้ำว่าการตรวจสอบจำเป็นต้องทำ เพราะประชาชนกำลังถูกแอบอ้างนำข้อมูลไปเบิกจ่าย

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ต้องขออภัยประชาชนที่ประสบปัญหาการเข้ารับบริการในระหว่างที่ สปสช. กำลังเร่งแก้ไขปัญหา ซึ่ง สปสช.ไม่ได้นิ่งนอนใจ นอกจากการดำเนินการทางกฎหมายกับหน่วยบริการที่ทำผิดจนถึงที่สุดแล้ว ในส่วนที่เกิดผลกระทบกับประชาชน สปสช.ได้เตรียมการรองรับไว้แล้ว แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มีมากอาจทำให้ระบบรองรับไม่เพียงพอ เบื้องต้นขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 1 ล้านคน ในจำนวนนี้ 2 แสนคน ในคลินิก 18 แห่งที่ถูกเพิกถอนสัญญา สปสช. ได้ลงทะเบียนหน่วยบริการใหม่แล้ว ส่วนอีก 8 แสนคน ในหน่วยบริการ 64 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 ส่วน ดังนี้ คือ


1.กลุ่มผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนัดผ่าตัด ผู้ป่วยล้างไต หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ สปสช.มีฐานข้อมูลที่ชัดเจนและได้มีการโทรประสานไปยังผู้ป่วยโดยตรงแล้ว เพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง แต่ด้วยในกรณีที่ขัดข้อง ไม่ได้รับการติดต่อจาก สปสช. ขอให้ส่งข้อความผ่าน Facebook สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย สปสช.จะติดต่อกลับโดยเร็ว

2.กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องรับการดูแลต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันสูง เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สปสช.ได้ประชุมร่วมกับสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ในระยะสั้นก่อนระหว่างรอหน่วยบริการใหม่ เบื้องต้นผู้ป่วยเรื้อรังที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 37 แห่ง ของกรุงเทพมหานครได้ โดย สปสช.ได้ส่งข้อมูลให้ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 19 แห่งแล้ว

3.กลุ่มผู้ป่วยทั่วไป ขณะนี้กำหนดสถานะเป็นสิทธิว่างที่เหมือนเป็นวีซ่าพิเศษ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้ารับบริการที่หน่วยบริการบัตรทองที่ใดก็ได้ เป็นการอำนวยความสะดวนในการรับบริการผู้ป่วยนอก หน่วยบริการจะเรียกเก็บค่าบริการมาที่ สปสช. โดยได้ทำการแจ้งยังหน่วยบริการเครือข่ายแล้ว

“ย้ำว่าเหตุที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการดำเนินการเฉพาะหน่วยบริการที่กระทำผิดเบิกเท็จเท่านั้น หน่วยบริการอื่นยังคงบริการตามปกติ ทั้งยังจำกัดเฉพาะพื้นที่ กทม. ไม่เกี่ยวข้องกับจังหวัดอื่น ซึ่งประชาชนอีกกว่า 76 จังหวัด ไม่ต้องกังวลและสามารถรับบริการปกติเช่นเดิม” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ประชาชน 8 แสนคนที่ได้รับผลกระทบจากการเพิกถอนสัญญาคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน 64 แห่ง ในจำนวนนี้มีเพียง 30% ที่เจ็บป่วยและต้องมีมาตรการรองรับโดยเร็ว โดย สปสช.อยู่ระหว่างประสานงานและเพิ่มหน่วยบริการรองรับโดยเร็ว โดย สปสช. เขต 13 กทม.ได้เชิญหน่วยบริการในพื้นที่ กทม. มาชี้แจงแนวทางเพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี อาทิ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กรมการแพทย์ กรมการแพทย์ทหารเรือ กรมการแพทย์ทหาร กรมการแพทย์ทหารอากาศ โรงเรียนแพทย์ เป็นต้น

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบและ สปสช. ได้วางมาตรการรองรับแล้ว มีดังนี้
1.ผู้ติดเชื้อเอชไอวี 2,166 ราย รับบริการต่อเนื่องที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 37 แห่ง รพ.สำนักการแพทย์ 8 แห่ง รพ.รัฐทุกแห่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ และ รพ.แพทย์ปัญญา
2.ผู้ป่วยไต 295 ราย ให้ รพ.ยกเลิกสัญญาส่งผู้ป่วยไปรับบริการต่อยังหน่วยบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. เป็นการชั่วคราว
3.ผู้ป่วยที่นัดผ่าตัด 132 ราย สปสช. ได้ประสานกับ รพ.ในระบบบัตรทอง และได้ประสานกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
4.หญิงตั้งครรภ์ 5,000 คน ประสานโรงพยาบาลเพื่อดูคิวบริการ และนัดวันทำคลอด
5.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ตามเขตพื้นที่

นายธนพลธ์ ดอกแก้ว นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังที่ต้องรับการล้างไต โทรสอบถามมายังสมาคมฯ ซึ่งมีบางส่วนที่เข้าใจข้อมูลผิดว่าบัตรทองถูกยกเลิก ไม่สามารถใช้สิทธิได้ จึงต้องยืนยันที่นี่ว่า การยกเลิกบริการเป็นการยกเลิกเฉพาะหน่วยบริการที่ สปสช.ยกเลิกสัญญาเพราะมีการทำหลักฐานเท็จเบิกจ่ายค่าบริการ แต่สิทธิบัตรทองยังอยู่ ไม่ได้ยกเลิก ดังนั้นประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถประสานกับ สปสช. เพื่อขอรับบริการต่อเนื่องได้ นอกจากนี้จากผลกระทบที่เคยเกิดขึ้นในกรณีคลินิก 18 แห่ง

ทางเครือข่ายผู้ป่วยจึงมีการจัดทำแนวทางรองรับเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแล เพราะเราเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องรักษาต่อเนื่อง โดยได้ประสานกับ สปสช. มาตลอด ยืนยันว่าการดำเนินการของ สปสช. ครั้งนี้เป็นการทำที่ถูกต้อง เพราะเป็นการดำเนินการกับคลินิกที่ให้บริการประชาชนไม่ตรงไปตรงมา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวร่วมรัฐบาล จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ทำไทยเสียเกียรติ

กทม. 18 มิ.ย.-“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีร่อนใบลาออก มีผล 19 มิ.ย. จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ ทำไทยเสียเกียรติ-ศักดิ์ศรี จากกรณีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน ​เซน​” พร้อมร่วมมือประชาชน-กองทัพ รักษาอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.39 น. วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์​ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2568​ ระบุถึงกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ​กองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่า กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

เปิดขุมทรัพย์ช่องจอม รังใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็น 1 ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ไม่เพียงตอบโต้กันในมิติทางเศรษฐกิจ แต่กระทบกระทั่งในมิติความมั่นคง ทั้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อน และแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติที่เมืองโอร์เสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ถูกจับตาว่าเป็นฐานใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ .-สำนักข่าวไทย

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย