มหกรรมสื่อปลอดภัยฯ มอบรางวัลเด็กเยาวชน

วธ.20 ก.ย.-วธ.จัดงาน “มหกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” มอบรางวัล ประกวดแต่งเพลงปลูกจิตสำนึกความรักชาติ-คลิป “ทำดี…ไม่ต้องเดี๋ยว”เปิดพื้นที่เด็ก-เยาวชน เสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ “สื่อ กับ วัฒนธรรมไทย ในยุค 4.0”


นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” พร้อมทั้งมอบเงินรางวัลและโล่เชิดชูเกียรติแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดสื่อสร้างสรรค์“เพลงเพื่อปลูกจิตสำนึกความรักชาติ”และสื่อสร้างสรรค์ คลิปส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม ภายใต้หัวข้อ “ทำดี…ไม่ต้องเดี๋ยว” ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร คณะกรรมการฯ เด็ก และเยาวชน เข้าร่วม

นายอิทธิพล กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดและภาคีเครือข่ายวัฒนธรรมจัดงานฯขึ้น เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและเพื่อปลูกจิตสำนึกให้เด็ก เยาวชนและประชาชนเกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ร่วมอนุรักษ์ รักษา สืบสานวัฒนธรรมไทยและสนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมทั้งยกย่องเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญ กำลังใจ ให้ผู้ผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยจัดกิจกรรมการประกวดสื่อสร้างสรรค์ “เพลงเพื่อปลูกจิตสำนึก ความรักชาติ”เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายได้ร่วมผลิตและเผยแพร่สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ในรูปแบบบทเพลงปลูกจิตสำนึกความรักชาติ และสร้าง แรงบันดาลใจในการปลูกจิตสำนึกให้เกิดความจงรักภักดีต่อชาติและสถาบัน รวมถึงเป็นการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถในการขับร้องและแต่งเพลงจนนำไปสู่การประกวดสร้างรายได้ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม


โดยผู้ชนะเลิศการประกวดเพลงเนื้อหารักชาติดั้งเดิม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ เด็กหญิงกุลกานต์ สมบูรณ์ ในบทเพลง เอกลักษณ์ไทย รางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ เด็กหญิงสิรภัทร ทองดีน้อย ในบทเพลง คนดีไม่มีวันตาย เด็กหญิงณัฏฐธิดา รื่นนุสาน ในบทเพลง เอกลักษณ์ไทย และเด็กหญิงพิมพ์รพี พูลทวี ในบทเพลง ไร้รักไร้ผล รางวัลขวัญใจมหาชน ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ เด็กหญิงพิมพ์รพี พูลทวี ในบทเพลง ไร้รักไร้ผล

ผู้ชนะเลิศการประกวดเพลงเนื้อหารักชาติดั้งเดิม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ นางสาวประภาพรรณ เพชรบูรณ์ ในบทเพลง สยามพาเหรด รางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ นางสาวหัสญาณี ปกนาง ในบทเพลง พระเทพของชาวไทย นายณัฐพล ราศรี ในบทเพลง ผ้าห่มผืนสุดท้าย และนางสาวมนัสวี ปู่โน๊ะ ในบทเพลง รัชกาลที่10 ทรงพระเจริญ รางวัลขวัญใจมหาชน ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ นางสาวหัสญาณี ปกนาง ในบทเพลง พระเทพของชาวไทย

ผู้ชนะเลิศการประกวดเพลงเนื้อหารักชาติที่สร้างสรรค์ใหม่ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ เด็กหญิงปานชีวา มนต์สิริ ในบทเพลง ภูมิใจไทย รางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ เด็กหญิงทิพย์อัปสร ใขบุญสวัสดิ์ ในบทเพลง ร้อยดวงใจไทยทุกดวง และเด็กหญิงพอร์สภัสรา วัฒนาจิรวัฒน์ ในบทเพลง กว่าจะเป็นไทย รางวัลขวัญใจมหาชน ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ เด็กหญิงปานชีวา มนต์สิริ ในบทเพลง ภูมิใจไทย


ผู้ชนะเลิศการประกวดเพลงเนื้อหารักชาติที่สร้างสรรค์ใหม่ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ นางสาวพิมพ์วลัญช์ ดุษฎีปรีชา ในบทเพลง เก็บแผ่นดิน รางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ นายคฑาวุธ เถื่อนประยูร ในบทเพลง ตามรอยมหาราช นางสาวธัญญารัตน์ เนียมหอม ในบทเพลง ใต้ร่มไตรรงค์ และนายธรรมรัตน์ หรั่งเจริญ ในบทเพลง รักชาติไทย รางวัลขวัญใจมหาชน ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ นายคฑาวุธ เถื่อนประยูร ใบบทเพลง ตามรอยมหาราช

นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันมีการประกาศผลและมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดสื่อสร้างสรรค์ ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม ภายใต้หัวข้อ “ทำดี…ไม่ต้องเดี๋ยว” ซึ่งเป็นโครงการที่สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมขึ้น เพื่อให้เด็ก เยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการผลิต และเผยแพร่สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยส่งเสริมการใช้สื่อในการปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมอันดีงามของคนในชุมชนและสังคม ซึ่งมีผู้สมัครส่งคลิปเข้าประกวดถึง 1,525 คลิป

โดยผู้ชนะเลิศการประกวด ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ ทีมโรงเรียนบ้านตาลดำ รองชนะเลิศอันดับ1 ได้รับเงินรางวัล 8,000 บาทและโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ ทีม Nicotine รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ ทีมโรงเรียนบ้านคอนสา และรางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท และโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ ทีมลูกหมู ทีม Saohong film (โรงเรียนบ้านเสาหงส์) ทีมรวมพลังทำดี ทีมครูทำหนัง ทีม BT-School ทีม Check Check Film โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม

ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และการจัดกิจกรรมการเสวนา “สื่อ กับ วัฒนธรรมไทย ในยุค 4.0” โดยมี พระครูปลัดสัมพิพัฒนธีราจารย์ พระยุค 4.0 ผู้เผยแพร่ธรรมะในโลกออนไลน์ นายระวี ตะวันธรงค์ นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และผู้แทนจากสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้ความรู้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“กัญจนา” เชื่อ “วราวุธ’” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “หนูนา กัญจนา” ชี้พรรคชาติไทยพัฒนาแม้เป็นพรรคเล็ก แต่ศักดิ์ศรีรักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งใหญ่เสมอ เชื่อ “วราวุธ” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีคลิปเสียงสนทนาสองผู้นำไทย-กัมพูชา ว่า “ณ วันนี้ ดิฉันไม่ได้นิยามตัวเองเป็นนักการเมืองแล้ว ถอยออกมามานานแล้ว แต่ที่ดิฉันเป็นเสมอคือ เป็นคนไทยที่รักแผ่นดินเกิด “จุดยืนของดิฉันมั่นคงมาตลอดเหมือนพ่อ คือยึดมั่นต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเชื่อว่าน้องชายดิฉัน (นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ก็เช่นกัน” น.ส.กัญจนา ยังระบุอีกว่า “แม้ที่ผ่านมา เขาอาจจะพูดอะไรพลาดบ้าง นั่นก็เป็นบทเรียนในชีวิตให้เขาต้องจดจำ วันนี้ดิฉันแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แม้พรรคชาติไทยพัฒนาในวันนี้ จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่ศักดิ์ศรี และความรักบ้านเกิดเมืองนอนต้องยิ่งใหญ่เสมอ” “ดิฉันเชื่อว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ” -สำนักข่าวไทย

นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัว

19 มิ.ย.- นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี กลางดึก หลัง “ภูมิใจไทย” ประกาศถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ความเคลื่อนไหวช่วงกลางดึกในเวลา 21.08 น. ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะยื่นใบลาออกมีผลวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบทำประเทศเสียเกียรติภูมิ นั้น พบว่าสตอรี่อินสตราแกรมของ นายกรัฐมนตรี ยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านการรีโพสต์สตอรี่ ที่มีคนโพสต์และแท็ก โดยเป็นภาพระหว่างสื่อมวลชนตามสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นโพสต์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมใส่เพลง “ทำด้วยหัวใจ” โดยไม่มีการใส่แคปชั่น หรือระบุข้อความใดใดในภาพ รวมถึงคลิปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ด้วย -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย