“วิตถวัลย์”แจง จัดซื้อกำไลEMทำตามระเบียบ

กทม.19 ก.ย.- “วิตถวัลย์”แจงยิบจัดซื้อกำไลEMทำตามระเบียบทุกอย่าง ชี้ของใหม่แพงกว่าเพราะรวมระบบต่างๆทั้งหมดแต่ของเดิมไม่ได้รวมไว้ เชื่อคงสับสนข้อมูลเอาของเก่ามาผสม ยันต้องเช่าเพราะเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยี ย้ำเป็นขรก.ต้องทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อปชช.


นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงกรณี ที่ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2564 ถึงความผิดปกติในโครงการกำไล EM ว่า ตนได้ดูการอภิปรายในการพิจารณางบประมาณของกระทรวงยุติธรรม และคิดเอาไว้แล้วว่าน่าจะมี ส.ส.ส่วนหนึ่งเข้าใจผิดในโครงการกำไล EM ที่เอาเอกสารโครงการเก่ากับเอกสารของโครงการใหม่มาปนกันทำให้เกิดความเข้าใจผิด ตนขออธิบายตามข้อเท็จจริงว่า บริษัท ฟอร์ท เสนอราคากำไล EM แพงกว่า แต่ชนะการประมูล เพราะการประกวดราคาปี 2563 มีผู้ยื่นข้อเสนอ 2 ราย แต่มีเพียงบริษัท ฟอร์ท ที่มีการนำอุปกรณ์มาทดสอบ และมีคุณสมบัติผ่านถูกต้องครบถ้วนตาม TOR จึงเป็นผู้ชนะการประกวดราคา ส่วนอีกบริษัท ไม่ได้นำอุปกรณ์มาทดสอบ จึงไม่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ ส่วนที่มี ส.ส.อภิปรายว่า ค่าเช่าแพงกว่าซื้อนั้น ที่ผ่านมากรมคุมประพฤติมีการนำอุปกรณ์ EM มาใช้ในลักษณะการเช่ามาโดยตลอด ยังไม่เคยใช้ในลักษณะซื้อ

นายวิตถวัลย์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่เราต้องเช่าซื้อ เพราะอุปกรณ์นี้เกี่ยวกับเทคโนโลยี ต้องอาศัยเรื่องระบบการสื่อสาร สัญญาณดาวเทียมและเครือข่ายโทรศัพท์ เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้พัฒนาตลอด ถ้าเราจัดซื้ออุปกรณ์เอง หากเทคโนโลยีเปลี่ยนอุปกรณ์นั้นจะกลายเป็นเศษเหล็ก แต่การเช่าเราได้กำหนดในสัญญาชัดเจนว่า บริษัทผู้จัดซื้อต้องพัฒนาอุปกรณ์ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะอัพเดทระบบ หรือจะเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่โดยบริษัทต้องออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ในการเช่าอุปกรณ์ EM ปี 2564 วงเงินสัญญา 849 ล้านบาทนั้นได้รวมค่าเช่าอุปกรณ์ เป็นเวลา 30 เดือน ประกอบด้วย 1.เครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว 30,000 เครื่อง 2.ค่าบริการเครือข่ายสื่อสาร สำหรับ tag 30,000 3.ค่าวงจรสื่อสาร 4.โปรแกรมควบคุมเครื่องมือติดตามตัว 5.ระบบแจ้งเตือนผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะ 6.ค่าจ้างบุคลากรปฏิบัติหน้าที่ควบคุม ไม่น้อยกว่า 62 คน และ7.ค่าฝึกอบรมบุคลากร ไม่น้อยกว่า 240 คน


อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า กำไล EM แพงขึ้น จากปี 61-63 เพราะการเช่าอุปกรณ์ ปี 2563 – 2565 เป็นราคาที่รวมครุภัณฑ์ คอมพิวเตอร์ การปรับปรุงศูนย์ EM และการใช้ระบบสัญญาณสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ส่วนของปี 2561-2563 แม้ว่าราคาต่ำกว่าเล็กน้อย แต่ยังไม่รวมครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์และการปรับปรุงศูนย์ EM นอกจากนี้ของเดิมยังเป็นระบบ 2G แต่ของใหม่เป็นเครื่องที่รองรับระบบ 4G ซึ่งอุปกรณ์การติดตามตัวแบบนี้ ต้องใช้เทคโนโลยีที่สูง และในสัญญาระบุชัดเจนไว้ว่า หากระบบการสื่อสารเปลี่ยนเป็น 5G ในอนาคต บริษัทต้องมาอัพเกรดให้เราด้วย ส่วนที่มีการอ้างว่ามีผู้ต้องหาเป็นผื่นที่ผิวหนังจากการใช้ อุปกรณ์ใหม่เราเริ่มใช้เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2563 ยังไม่พบการรายงานว่าผู้สวมใส่มีอาการผื่นที่ผิวหนัง และอุปกรณ์รุ่นนี้ได้รับใบรับรองจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ และมีการอ้างว่า กำไลอีเอ็มสามารถถอดออกเองได้นั้น อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้เป็นอุปกรณ์สวมข้อเท้ายังไม่พบว่าถอดออกได้ ส่วนอุปกรณ์ที่เคยเป็นข่าวว่าถอดได้เป็นการใช้งานในปี 2562 สวมใส่ที่ข้อมือและได้ยกเลิกสัญญาเช่าในครั้งนั้น ไปแล้ว

“การดำเนินการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ในครั้งนี้ได้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุ มีการประกาศให้สาธารณะรับทราบ และการประกวดราคาใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) ทำให้ได้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพภายใต้วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ซึ่งเราได้มีการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ทำให้เห็นว่ามีความทนทานและคุ้มค่ากับงบประมาณแน่นอน ขอบคุณ ส.ส.ทุกพรรคที่เป็นห่วงงบประมาณในส่วนของกรมคุมประพฤติ เราขอชี้แจงตามข้อมูลที่เรามี ซึ่งสุดท้ายคือความเข้าใจผิดระหว่างเอกสารเก่ากับเอกสารใหม่ ผมขอยืนยันว่าเราต้องดำเนินการด้วยสิ่งที่ถูกต้องที่สุด มุ่งเน้นผลประโยชน์ของราชการ และประชาชนเป็นสำคัญ สิ่งที่เราตั้งใจทำคือการทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น” นายวิตถวัลย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย