“ชวน” ชมระบบ iSEE 2.0 กสศ. ช่วยสภาเจาะลึกปัญหาเหลื่อมล้ำ

รัฐสภา 1 ก.ย..-“ปธ.ชวน หลีกภัย” เปิดนิทรรศการ ‘ระบบ iSEE 2.0 ของกสศ.’ ช่วยสภาเจาะลึกปัญหาเหลื่อมล้ำ ห่วงโควิด-19 ทำเด็กยากจนเพิ่มขึ้น เสี่ยงหลุดออกจากระบบ ระบุสภาจะช่วยขับเคลื่อนวาระสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา


นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวหลังเป็นประธานเปิดนิทรรศการ “ระบบ isee 2.0 : Edtech เพื่อพัฒนานโยบายสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา” ร่วมกับนายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และดร.ไกรยส ภัทรวาท รองผู้จัดการ กสศ. ว่า โอกาสทางการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด หนึ่งในภารกิจเร่งด่วนของทุกฝ่ายขณะนี้ คือการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเฉพาะในวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกับครอบครัวของเด็กและเยาวชนที่ยากจนด้อยโอกาสกว่า 1.8ล้านคน ในจำนวนนี้มีนักเรียนยากจนพิเศษมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง3 แสน คน ทำให้เด็กๆ เหล่านี้เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะหลุดออกนอกระบบการศึกษา

สำหรับ กสศ. ในฐานะหน่วยงานตามรัฐธรรมนูญที่มีภารกิจในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษาโดยตรง นอกเหนือจากให้เงินอุดหนุนแก่นักเรียนยากจนพิเศษแล้ว ได้พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาหรือระบบ iSEE นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เป็นแหล่งข้อมูลของเด็กและเยาวชนกว่า 4 ล้านคน ที่ช่วยให้ทุกฝ่ายมองเห็นข้อเท็จจริงของสถานการณ์ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งในมิติสถานศึกษาและมิติของเด็กและเยาวชนทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา


“แม้คุณภาพของการศึกษาปัจจุบันถือว่าดีขึ้นมาก แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ค่าครองชีพสูง รายได้ลดลง ระบบ iSEE 2.0 ของ กสศ. จะช่วยทำให้เรามีเครื่องมือล้วงลึกไปถึงเด็กในแต่ละครัวเรือนว่าสภาพเป็นอย่างไร เพื่อการช่วยเหลือจะได้เข้าไปถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด ผมภูมิใจมากที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบายให้เด็กได้ดื่มนมตามช่วงอายุ ทำให้เด็กไทยมีสัดส่วนความสูงขึ้น” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว

นายชวน ยังกล่าวขอสนับสนุนโครงการของ กสศ. ที่ลงไปดูแลกลุ่มเด็กที่เสียโอกาสทางการศึกษาให้เขาได้มีความสมบูรณ์ขึ้น เพื่อคนเหล่านั้นจะเป็นกำลังสำคัญของบ้านเมืองต่อไป ระบบ iSEE จะช่วยให้สภาผู้แทนราษฎร ขับเคลื่อนวาระการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาด้วยพลังของข้อมูล ลดช่องว่างระหว่างรัฐสภาและประชาชนในพื้นที่สนับสนุนการทำงานของสมาชิก การมองเห็นข้อมูลความยากจนพิเศษในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับจังหวัด และสามารถระบุมิติปัญหาต่างๆ เช่นความพิการ ทุพโภชนาการ ความเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา ข้อมูลเหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นเสียงสะท้อนวางแผนและผลักดันนโยบายที่ช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่มล้ำทางการศึกษาได้

นายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกสศ. กล่าวว่า สำหรับนิทรรศการครั้งนี้ ทางกสศ.จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. – 3 ก.ย. เพื่อเชิญชวนท่าน ส.ส. ส.ว. ได้เข้ามาเห็นวิธีการทำงานของกสศ.ซึ่งเราใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ในชื่อว่า “ระบบ iSEE 2.0” หรือ ระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่ใช้ค้นหาเด็กนักเรียนยากจนว่าอยู่ที่ใดบ้าง มีจำนวนมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือ โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์จำแนกข้อมูลภาพรวม ทั้งระดับชาติ จังหวัด อำเภอ ตำบล นอกจากนี้ ระบบ iSEE 2.0 ยังเป็นเครื่องมือที่จะตามดูงบประมาณที่กสศ. จัดส่งเข้าไปช่วยเหลือว่าถึงปลายทางจริงหรือไม่ และติดตามการมาเรียนของเด็กอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลการเรียน สุขภาพอนามัย ได้รับการพัฒนาหรือไม่ เช่น จังหวัดอุบลราชธานี มีนักเรียนยากจนที่ได้รับทุน จากกสศ. จำนวน 16 % ของนักเรียนทั้งหมดในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น ดังนั้นเมื่อทราบสถานะความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในมิตินักเรียนยากจนในพื้นที่ จะนำไปสู่การพัฒนาช่วยเหลือต่อไปในอนาคต


“ปัจจุบันมีฐานข้อมูลของเด็กทั้งประเทศ ประมาณ 2 ล้านคน เป็นกลุ่มที่มีความยากจนพิเศษครึ่งหนึ่ง หรือ 1ล้านคน คาดว่าเกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มีเด็กจำนวนมากหลุดออกจากระบบการศึกษา สาเหตุสำคัญคือ ปัญหาเศรษฐกิจ ยังมี ปัญหาสุขภาพ การไม่มีสัญชาติ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มนักเรียน 95% และกลุ่มนักเรียนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา 5% ซึ่งถ้าไม่มีการดูแลป้องกัน กลุ่ม 95% ก็อาจจะหลุดออกจากระบบการศึกษาได้ จึงต้องมีวิธีการในการค้นหากลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยง ได้ข้อมูลมาจากการที่ครูทั่วประเทศกว่า 4 แสนคน เยี่ยมบ้านเก็บข้อมูลสภาพบ้านของเด็ก รายได้ การมีพื้นที่เกษตร การมีไฟฟ้า-น้ำประปา พาหนะเดินทาง โดยครูจะทำการกรอกข้อมูลและรูปภาพเข้าสู่ระบบ iSEE” นายสุภกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถก สมช. ชี้รัฐบาล-กองทัพ ไร้ปัญหา ทำงานเป็นเอกภาพ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.-นายกฯ ถก สมช.แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลกับกองทัพ เคลียร์อำนาจหน้าที่แล้วไร้ปัญหา ย้ำ ทำงานเป็นเอกภาพ รักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ยึดสันติวิธี บอกมอบหน้างานประเมินหากต้องปะทะ ทุกอย่างยังโอเค ยืนยันรัฐบาลทำงานไม่ช้า กำชับ ก.ดีอี ดูเนื้อหาปลุกปั่นหวั่นขยายขัดแย้ง ด้าน ผบ.ทสส. ลั่น กองทัพพร้อมหนุนรัฐบาล แจงประชุมเหล่าทัพไม่เชิญสื่อ ขอทำงานมืออาชีพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ หลังจากเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปคุยกับทีมกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังโอเคอยู่ และยืนยันว่า ทุกหน่วย ทุกฝ่ายทั้งกองทัพและรัฐบาลมีการปรึกษากันตลอดก่อนที่จะดำเนินการใดใด อำนาจไหนที่เป็นของใคร และทุกคนทราบในอำนาจของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ได้คุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี […]

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย

โคราชพบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19

นครราชสีมา 6 มิ.ย. – จ.นครราชสีมา พบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19 เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 เผยตัวเลขเก็บศพโควิด เดือนนี้ 8 ราย ส่วนยอดติดเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน 68 วันเดียวเพิ่ม 2 หมื่นคน นายชัยสิทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 โพสต์ภาพลงในโซเชียล ขณะอาสากู้ภัย “ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หรือ ฮุก 31” กำลังช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากโรงพยาบาล ไปฌาปนกิจ พร้อมข้อความเตือน “ระวังกันนะครับ ให้ระวังกัน เพราะช่วงนี้ติดเชื้อกันเยอะ คนที่ไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว ไม่เกี่ยงอายุ วันนี้ มีตั้งแต่ไม่กี่ขวบ จนถึงสูงอายุ ทีมงานฮุก 31 บ้านหลังสุดท้าย ทุกๆ เขตรับผิดชอบ เริ่มมีภารกิจถี่ขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. […]

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]