สธ.20 ส.ค.-อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ ไขข้อสงสัยการติดเชื้อโควิด-19ในรายที่ 2 ย้ำต้องรอผลการตรวจ 3 อย่างประกอบกัน ทั้งแล็บ อาการป่วย และข้อมูลทางระบาด โดยต้องติดตามต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ ชี้ข้อมูลจาก CDC พบทั่วโลกป่วยโควิด ไม่แสดงอาการถึงร้อยละ 50 และเมื่อไม่มีอาการ โอกาสแพร่โรคเกิดน้อย ร้อยละ 0.6
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวอธิบายการตรวจเชื้อจากกรณีพบซากไวรัสโคโรนา (เชื้อโควิด-19)ในร่างกายผู้ติดเชื้อรายเดิมและผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิดรายใหม่ ว่า ขณะนี้ในส่วนของหญิงวัย 35 ปีที่สงสัยติดเชื้อเชื้อโควิดและรับการรักษาอยู่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์นั้น ยังต้องต้องติดตามผล ทั้งตรวจทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ควบคู่ไปกับการตรวจอาการของผู้ป่วย และข้อมูลทางระบาดวิทยา อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพื่อความชัดเจน การพบเชื้อไวรัสในปริมาณน้อย ก็เป็นไปได้ทั้งการ ตรวจเจอตั้งแต่เบื้องต้น หรือเป็นการติดเชื้อใหม่ ดังนั้นต้องรอการสอบสวนโรคประกอบกัน เพราะยังไม่มีความชัดเจน ความรู้เรื่องไวรัสโคโรนา ยังเป็นเรื่องใหม่ ทั่วโลกเพิ่งรู้จักกันแค่ 6-7 เดือน
นพ.โอกาส กล่าวว่าส่วนการระบุว่าพบเชื้อในร่างกายของผู้ต้องสงสัยรายนี้ น้อยก็เป็นได้ว่าcycle time หรือรอบของการเพาะเชื้อในหลอดทดลอง เพื่อดูว่าจำนวนเชื้อไวรัสในร่างกาย หากพบว่ามีมากกว่า 35 แสดงว่า จำนวนไวรัสมีน้อย ต้องมีการตรวจเพิ่มเพื่อให้แน่ใจ ว่าป่วยหรือไม่ แต่หากต่ำกว่า 30แสดงว่าป่วยและมีเชื้อไวรัสในร่างกายแน่นอน โดยปัจจุบันข้อมูลจาก US CDC พบว่าผู้ป่วยโควิดส่วนใหญ่ ร้อยละ 50 ไม่แสดงอาการและมีอาการน้อย ร้อยละ20-30 โดยการจะยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อไควิด-19 จะต้องตรวจเจอยีนส์ของเชื้อไวรัสดังกล่าวถึง 2 ตำแหน่งสำคัญและปริมาณของเชื้อที่มากสัมพันธ์กับอาการและการแพร่เชื้อ ดังนั้นหากมีปริมาณเชื้อน้อย โอกาสแพร่โรคก็น้อยต่ำ ซึ่งข้อมูลพบว่า คนที่ไม่มีอาการป่วยโควิด โอกาสการแพร่เชื้อมีแค่ร้อยละ 0.6 และพบว่า การที่ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันโควิดได้ ต้องผ่านการป่วยมากอย่างน้อย 2 สัปดาห์
นพ.โอภาส กล่าวว่า และข้อมูลจากUS CDC ยังพบว่า อายุของเชื้อไวรัสประมาณ 8 วันและเชื้อจะตาย ไม่สามารถก่อโรคกับผู้อื่นได้ ส่วนเรื่องเศษซากเชื้อไวรัสในผู้ป่วยรายเดิม ปกติ สามารถอยู่ได้นานถึง 3 เดือน ส่วนความน่ากลัวของเชื้อไวรัสนี้ ยังต้องอาศัยการติดตามความรู้จากทั่วโลก อาจไม่น่ากลัวเหมือนกับตอนแรกที่มีอัตราตาย ร้อยละ 5 ปัจจุบันด้วยข้อมูล ทราบว่าอัตราการตายทั่วโลกเหลือร้อยละ 3 และในส่วนของไทยเองอยู่ที่ร้อยละ1แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ ต้องสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม เพราะโรคนี้ยังคงมีอัตราการแพร่โรคที่เร็ว .-สำนักข่าวไทย