สธ.ติวเข้มก่อนเริ่มใช้ระบบลงทะเบียน-เบิกจ่ายผู้มีปัญหาสถานะ-สิทธิ 1 ม.ค.นี้

28 ธ.ค. – ก.สาธารณสุข ประชุมชี้แจงระบบลงทะเบียนและเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ผ่านระบบศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน ให้หน่วยบริการทั้งในและนอกสังกัด ก่อนเปิดใช้งานพร้อมกันทั่วประเทศ 1 ม.ค.นี้ เผยจากการติดตามผลในหน่วยงานนำร่องที่จังหวัดเชียงราย พบใช้งานสะดวก ช่วยลดภาระหน่วยบริการ


นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงระบบประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ และบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย (Health Insurance for Non-Thai People System : HINT) ว่า การดำเนินงานดังกล่าวเป็นการพัฒนาระบบสาธารณสุขชายแดนและพื้นที่เฉพาะ ตามนโยบายยกระดับ 30 บาท และนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ปี 2567 ของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยช่วง Quick Win 100 วัน จะมุ่งขึ้นทะเบียนเบิกจ่ายแบบ Real Time สำหรับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ และการลงทะเบียนเพิ่มการเข้าถึงบริการในกลุ่มประชากรเฉพาะ ซึ่งระบบ HINT สามารถขึ้นทะเบียนและอนุมัติสิทธิได้ภายใน 5 นาที จากเดิมที่ใช้เวลา 1-2 สัปดาห์, พิจารณาผลการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์จากกองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน (Financial Data Hub : FDH) กระทรวงสาธารณสุข ภายใน 24 ชั่วโมง และโอนเงินให้หน่วยบริการได้ภายใน 15 วัน และสามารถลงทะเบียนยืนยันตัวตนสำหรับบุคคลที่ไม่มีเอกสารประจำตัวในประเทศไทย เพื่อให้เข้าใช้บริการและหน่วยบริการให้บริการด้านสาธารณสุขได้

“การขึ้นทะเบียนบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิและการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้กับหน่วยบริการ ในอดีตมีปัญหาเรื่องความล่าช้า กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) พัฒนาระบบ HINT โดยมีศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน (Financial Data Hub) กระทรวงสาธารณสุข เป็น Back Bone ในการส่งข้อมูล เพื่อลดภาระงาน เพิ่มความสะดวกให้ผู้มารับบริการ และหน่วยบริการได้รับเงินชดเชยค่าบริการทางการแพทย์รวดเร็วขึ้น” นพ.สุรโชค กล่าว


นพ.สุรโชค กล่าวต่อว่า ระบบดังกล่าวจะเปิดใช้งานทั่วประเทศในวันที่ 1 มกราคม 2567 นี้ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงมีการประชุมชี้แจงระบบลงทะเบียนและการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ผ่านระบบศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน (Financial Data Hub : FDH) กระทรวงสาธารณสุข เพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้กับหน่วยบริการทั้งในและนอกสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจากการทดลองใช้ระบบของหน่วยบริการนำร่องในจังหวัดเชียงราย คือ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และโรงพยาบาลแม่สาย พบว่าระบบใช้งานค่อนข้างสะดวก ลดภาระหน่วยบริการ มีการ Pre-audit และมีรายงาน Dashboard โดยมีข้อเสนอแนะจากการทดลองใช้จริง เช่น เรื่องการย้ายสิทธิ และการเรียกเก็บ ซึ่งได้นำไปปรับปรุงระบบให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมทั้งจะมีการจัดทำข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Sharing Agreement : DSA) เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2562 ต่อไป. -411-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้