“บิ๊กโจ๊ก” ประชุมกรมทางหลวง-กทม. ตั้งทีมตรวจไซต์งานทั่วกรุง

กรุงเทพฯ 10 พ.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” นัดประชุมกรมทางหลวง-กทม. ตั้งทีมทำงานออกตรวจร่วม ตามไซต์งานทั่วกรุง ห้ามบรรทุกเกิน เผยคดีรถบรรทุกตกบ่อที่ ถ.สุขุมวิท พบหลักฐานเอาผิดไปถึงเจ้าของรถได้


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเหตุการณ์รถบรรทุกตกหลุมบนถนนสุขุมวิท 64/1 เพื่อหารือความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา โดยกรมทางหลวงมีสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะที่เกี่ยวข้องในการดูแลปัญหาดังกล่าว

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ได้ข้อสรุปในที่ประชุมจะมีทีมทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย คือตำรวจ, กรุงเทพมหานคร และกรมทางหลวง โดย กทม. จะขอให้กรมทางหลวงส่งทีมเข้ามาเป็นผู้ช่วยฝึกอบรมวิธีการใช้เครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุกเกิน รวมทั้งให้ยืมอุปกรณ์มาใช้ก่อน ในช่วงแรกเป็นเวลา 1 เดือน และตั้งศูนย์กำกับดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งตำรวจจะเข้ามาร่วมด้วยเพราะการจะจับกุมเป็นคดีอาญามีหลาย พ.ร.บ. เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อคืนนี้ก็ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่ กทม. ร่วมกับกรมทางหลวง ส่งเจ้าหน้าที่จับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ก็เห็นใจคนขับรถเพราะปัจจุบันกฎหมายก็เอาผิดเฉพาะคนขับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่โทษมักจะไปไม่ถึงเจ้าของรถ บางครั้งคนจับก็อาจทำตามคำสั่ง


ส่วนเรื่องแก้ปัญหาวิ่งในเวลาห้ามวิ่ง ในอนาคตหากสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมขนส่งทางบกได้คาดว่าการตรวจจับจะมีประสิทธิภาพขึ้น เพราะรถบรรทุกส่วนใหญ่จะมีการบังคับให้ติด GPS เพราะจะแสดงข้อมูลเส้นทาง เวลาวิ่ง

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาที่มักมีการตั้งคำถามผู้กำกับตามโรงพักว่าทำไมไม่มีการจับรถบรรทุกน้ำหนักเกินต้องขอเรียนว่าเพราะไม่มีอุปกรณ์ วันนี้จึงมาขอความร่วมมือแบบบูรณาการให้ตำรวจมีเครื่องมือในเครื่องชั่งน้ำหนักรถ และจากวันนี้ไปจะออกแผนปฏิบัติการตรวจร่วม กทม. สุ่มตรวจรถวัดน้ำหนักตามไซต์งานทั่ว กทม. และจะออกแผนซีลกรุงเทพ เพื่อทำให้รถติดลดน้อยลง จากปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน มาวิ่งในเวลาห้ามวิ่ง

ส่วนความคืบหน้าคดีที่ สน.พระโขนง รถบรรทุกเกินตกหลุมในซอยสุขุมวิท 64/1 ชัดเจนแล้วว่ากระทำความผิดบรรทุกน้ำหนักถึง 37 ตัน และวันนี้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปสืบสวน จนพบความผิดในส่วนของเจ้าของรถบรรทุกแล้ว และพบว่าเจ้าของรถมีรถบรรทุกอยู่ทั้งหมด 8 คัน ยืนยันจะทำให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างที่มีการเอาผิดไปถึงเจ้าของรถบรรทุกได้ เชื่อว่าหลังจากนี้ปัญหาจะลดน้อยลงเพราะกลุ่มคนขับรถบรรทุก เจ้าของธุรกิจจะไม่เสี่ยง ถ้ารู้ว่าเมื่อไหร่ตำรวจเอาจริง และครั้งนี้เชื่อว่าปัญหาจะลดลงเพราะมีความร่วมมือกัน


ส่วนเรื่องส่วยสติกเกอร์ ย้ำว่าตนไม่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดูเรื่องนี้ แต่ขณะนี้ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือจะต้องการจัดการจราจรภาพรวมให้ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงรถบรรทุกทั้ง 8 คันที่เจอ จากเจ้าของรถดังกล่าว มีสติกเกอร์ทุกคันหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า จากการสอบถามก็พบว่าทุกคันมีสติกเกอร์ แต่อยู่ในรูปแบบอาจจะแตกต่างกันไป ซึ่งตรงนี้ตนไม่ได้ดูรายละเอียดเรื่องส่วยสติกเกอร์

ขณะที่นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมทางหลวง มีเครื่องชั่งแบบถาวรอยู่ 101 แห่ง และมีเครื่องชั่งแบบเคลื่อนที่ได้ แต่ก็ไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ถนนทางหลวงทั้งประเทศได้ ส่วนใหญ่จะอยู่บนเส้นทางหลัก ๆ ซึ่งรถบรรทุกเหล่านี้ก็จะรู้ว่ามีตรงไหนก็จะพยายามเลี่ยงไปในเส้นทางรอง ทางชนบท ทางเลี่ยง เมื่อเจ้าหน้าที่รู้ก็จะนำเครื่องชั่งเคลื่อนที่ออกไปปฏิบัติการ ซึ่งแต่ละปีก็จับรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ 3-4 พันคัน ซึ่งก็ยอมรับว่ายังพบปัญหารถบรรทุกเกินอยู่ โดยกรมฯ ก็พยายามนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจจับรถบรรทุกน้ำหนักที่มีอยู่หลายสิบจุด ซึ่งในอนาคตก็จะมีการขยายด่านถาวร รวมถึงการแก้ปัญหาไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องผลประโยชน์ ปัจจุบันก็ได้มีการหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ไปทำงานตามจุดต่าง ๆ ไม่ให้อยู่จุดใดจุดหนึ่งนานจนคุ้นเคย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]