นิด้าโพล เปิดผลสำรวจประชาชนไม่หนุน “ปิดผับตี 4”

กทม. 22 ต.ค.-“นิด้าโพล” เปิดผลสำรวจประชาชน การขยายเวลาปิดสถานบันเทิง จากเวลา 02.00 น. ออกไปเป็นเวลา 04.00 น. พบว่าร้อยละ 41 เห็นว่า ปิดสถานบันเทิง เวลา 02.00 น. เหมาะสมอยู่แล้ว ไม่เป็นการรบกวนผู้ที่พักอาศัยใกล้กับสถานบันเทิง 


ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดผลสำรวจของประชาชน เกี่ยวกับแนวคิดการขยายเวลาปิดสถานบันเทิง จากเวลา 02.00 น. ออกไปเป็นเวลา 04.00 น. โดยผลสำรวจนิด้าโพลนี้ สำรวจจากประชาชนที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป ทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง  

เมื่อถามผู้ที่เคยไปเที่ยว (จำนวน 581 หน่วยตัวอย่าง) ถึงความถี่ในการเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืน ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 57.66 ระบุว่า ไม่เคยไปเลย รองลงมา ร้อยละ 33.22 ระบุว่า มีบ้างแล้วแต่โอกาส เทศกาล ร้อยละ 4.13 ระบุว่า เดือนละครั้ง ร้อยละ 2.58 ระบุว่า อาทิตย์ละวัน ร้อยละ 2.07 ระบุว่า เกือบทุกวัน (3-5 วัน/สัปดาห์) และร้อยละ 0.34 ระบุว่า ทุกวัน (7 วัน/สัปดาห์)


ผลสำรวจความเห็นของประชาชน ต่อแนวคิดที่จะขยายเวลาปิดสถานบันเทิง จากเวลา 02.00 น. ออกไปเป็นเวลา 04.00 น. ของนิด้าโพล ภาพรวม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 ระบุว่า ปิดสถานบันเทิง เวลา 02.00 น. เหมาะสมดีอยู่แล้ว เพราะ เป็นเวลาที่ไม่ดึกมากจนเกินไป ไม่เป็นการรบกวนเวลาพักผ่อนของผู้ที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับสถานบันเทิง รองลงมา ร้อยละ 23.66 ระบุว่า ควรอนุญาตปิดสถานบันเทิง เวลา 04.00 น. เฉพาะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ เพราะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประเทศ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ร้อยละ 17.56 ระบุว่า ควรจะอนุญาตปิดสถานบันเทิง เวลา 04.00 น. เหมือนกันทั่วประเทศ เพราะควรเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ เป็นการเพิ่มช่วงเวลาในการหารายได้ให้กับผู้ประกอบกิจการสถานบันเทิง และกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้อง ร้อยละ 8.32 ระบุว่าควรปิดสถานบันเทิง ก่อนเวลา 02.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างดึกแล้ว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและปัญหาอาชญากรรมได้ ร้อยละ 4.35 ระบุว่า ไม่ควรอนุญาตให้มีสถานบันเทิงยามค่ำคืนในประเทศไทย เพราะเป็นการส่งเสียงดังรบกวนการพักผ่อนของผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง ร้อยละ 4.27 ระบุว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ ไม่แน่ใจ และร้อยละ 0.08 ระบุว่า อื่นๆ ได้แก่ ควรปิดสถานบันเทิง เวลา 03.00 น.

เมื่อถามถึงความมั่นใจของประชาชนต่อการขยายเวลาปิดสถานบันเทิง จะช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ภาพรวมพบว่า ร้อยละ 27.71 ระบุว่า ค่อนข้างมั่นใจ และไม่ค่อยมั่นใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน รองลงมา ร้อยละ 26.72 ระบุว่า ไม่มั่นใจเลย ร้อยละ 16.56 ระบุว่า มั่นใจมาก และร้อยละ 1.30 ระบุว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ ไม่สนใจ

เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจเมาแล้วขับ ภาพรวมพบว่า ร้อยละ 46.41 ระบุว่า จำนวนด่านตรวจเมาแล้วขับปัจจุบันเหมาะสมดีแล้ว รองลงมาร้อยละ 38.02 ระบุว่า ควรเพิ่มจำนวนด่านตรวจเมาแล้วขับ ร้อยละ 8.17 ระบุว่า ควรยกเลิกด่านตรวจเมาแล้วขับทั้งหมด ร้อยละ 5.80 ระบุว่า ควรลดจำนวนด่านตรวจเมาแล้วขับ และร้อยละ 1.60 ระบุว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ ไม่สนใจ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง