fbpx

กทม.จ่อหารือภาคีเครือข่ายแจ้งเตือนภัยผ่านมือถือ

กรุงเทพฯ 5 ต.ค. – เตรียมหารือภาคีเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนภัยผ่านมือถือ พร้อมเร่งป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตให้ประชาชน


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน ครั้งที่ 10/2566 โดยได้กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุที่พารากอนว่า มีเรื่องสำคัญ 3 เรื่อง คือ เรื่องแรกการเผชิญเหตุ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุให้ผู้อำนวยการเขตในพื้นที่เกิดเหตุเป็นอำนวยการเหตุ ถึงแม้จะเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตต้องรู้เรื่องและรายงานให้ผู้บริหารรับทราบ เรื่องที่สอง ระบบการเตือนภัย สิ่งที่จะทำเบื้องต้น คือ 1.LINE ALERT ได้ให้ที่ปรึกษาฯ ไปดูว่าจะเพิ่มฟีเจอร์อะไรได้บ้าง ปัจจุบันมีเพียงการเตือนเรื่องฝุ่น PM2.5 ซึ่งทำได้ค่อนข้างดี อาจจะเพิ่มเรื่องน้ำท่วมหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้หรือไม่ 2.Traffy Fondue จะให้มีการพัฒนาแอปฯ ภายใน 7 วัน ให้สามารถแจ้งไปยังผู้ที่สนใจรับแจ้งเหตุได้ 3.การตั้งระบบเตือน มี 2 ส่วน คือ ส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งการแจ้งเหตุมีเรื่องละเอียดอ่อนทั้งเรื่องความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งมีผลต่อการควบคุมเหตุ ต้องมีการหารือให้ดี

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมเรื่องระบบแจ้งเตือนภัยว่า เบื้องต้นทราบว่าทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มีงบประมาณในการจัดทำเรื่อง เซลล์ บรอดแคสต์ (Cell Broadcast) (ระบบส่งข้อมูลโดยตรงจากเสาสัญญาณไปสู่โทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในพื้นที่ให้บริการพร้อมกันในรวดเดียว เพื่อแจ้งเตือนภัยพิบัติ) ซึ่งจุดประสงค์หลักน่าจะเป็นเรื่องของสาธารณภัยที่เป็นเชิงธรรมชาติ คือภัยพิบัติ หากเป็นเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ ต้องประสานให้หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ หน่วยงานที่ดูแลหรือเจ้าของพื้นที่สำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่ในโปรโตคอลนี้ด้วย ซึ่งจะมีการหารือในรายละเอียดเพิ่มเติม ส่วนทาง กสทช. ได้มีการคุยกันก่อนหน้าตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ตุรกีและทางภาคเหนือของไทยว่า อยากดึงข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ แจ้งในกลุ่มเครือข่าย รวมถึง LINE ALERT และ LINE OA ของ กรุงเทพมหานครลิงก์แบบทูเวย์ได้ กรณีเกิดเหตุต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็แจ้งไป หากเกิดเหตุนอกพื้นที่ก็ดึงข้อมูลแจ้งกลับมาในส่วนของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีการหารือภายในสัปดาห์หน้าและคาดว่าจะทราบรายละเพิ่มเติมต่อไป


นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ 3 คือ การดูแลต้นเหตุของปัญหา ปัจจุบันมีประชาชนที่มีปัญหาสุขภาพจิตค่อนข้างมาก กรุงเทพมหานครมีแผนที่จะต้องปรับ 2 ส่วน คือ การให้บริการด้านสุขภาพจิตซึ่งกรุงเทพมหานครกำลังด้านนี้ค่อนข้างจำกัดและน้อย ขณะเดียวกันผู้ป่วยไม่ค่อยอยากเข้ามาอยู่โรงพยาบาล การให้คำแนะนำและความรู้ต่าง ๆ ต้องกระจายไปยังศูนย์บริการสาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขมากขึ้น และในส่วนของโรงเรียนด้วย

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีปัญหาด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ได้มีการใช้แอปพลิเคชัน BuddyThai ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร พบว่า เมื่อเป็นสิ่งที่ส่งจากครู ความเชื่อมั่นเชื่อใจจากครูจะน้อย ส่วนใหญ่เด็กจะเชื่อเพื่อนมากกว่า จะต้องมีการเชื่อมโยงเครือข่ายในการดูแลเรื่องนี้ ซึ่งในวันที่ 8 ต.ค. นี้ จะมี Forum ใหญ่เรื่องสุขภาพจิต มีเครือข่ายหลายภาคส่วนที่ร่วมงาน คงจะมีการหารือแนวทางแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีแซนด์บอ็อก 58 โรงเรียน ได้มีการปรับรูปแบบการประเมินการเรียนไม่ให้รู้สึกว่าเป็นการแข่งขัน โดยดูจากทักษะความสามารถของเด็กเพื่อให้เด็กรู้สึกว่ามีชัยชนะเป็นของตัวเองไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวตอนท้ายว่า เราต้องเข้าใจความรู้สึกของคนกลุ่มนี้ก่อนจึงจะแก้ปัญหาได้ถูก การเอาประชาสังคมมาร่วม ใช้สิ่งที่คุ้นเคย หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งในการลดความเครียด ต้องเน้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่เน้นแค่เรื่องแจ้งเหตุเวลาเกิดเหตุแล้ว ก็จะต้องร่วมมือแก้ปัญหานี้และทำเป็นแผนระยะยาวต่อไป


ทั้งนี้ สังคมปัจจุบันมีการแข่งขันสูง อีกทั้งความคาดหวังจากพ่อแม่ สภาพเศรษฐกิจ และเรื่องต่าง ๆ การหาคำแนะนำที่ถูกต้องปัจจุบันไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ จิตแพทย์ของกรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักการแพทย์มีอยู่ 23 คน สำนักอนามัย 1 คน แผนระยะยาวอาจต้องปรับให้มีความเหมาะสม รวมถึงนักจิตวิทยาหรือคนที่เข้าใจเรื่องนี้ให้คำแนะนำในโรงเรียนและกลุ่มประชาสังคมต่าง ๆ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้ “วิน โพรเสส” ยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด

กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจติดตามผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ล่าสุดยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ในปริมาณเล็กน้อย แต่บางจุดพบสารบางชนิดในระดับจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมแผนรับมือช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่

ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นอีก 20 สตางค์ แตะ 3.80 บาท

เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์ โดยเป็นการขยับราคาห่างจากรอบที่แล้วไม่ถึง 2 สัปดาห์ สาเหตุเพราะช่วงนี้อากาศร้อนยิ่งขึ้นอีก ปริมาณไข่ไก่ลดและขนาดฟองเล็กลง ประกอบกับสงครามในต่างประเทศ ทำให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ วอนผู้บริโภคเข้าใจและขออย่าตกใจ ปริมาณไข่ไก่แม้น้อยลง 5-10% แต่ยังเพียงพอบริโภค

ทั่วไทยยังร้อนถึงร้อนจัด แนะเลี่ยงอยู่ที่โล่งแจ้ง

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูง แนะดูแลสุขภาพ เลี่ยงอยู่ที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน

Made in Thailand แดนไทยเท่ : ภูเก็ตฟิตเนสมวยไทยซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปที่จังหวัดภูเก็ต ที่นั่นมวยไทยไม่ได้เป็นแค่ศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว แต่ภูเก็ตยังเป็นแหล่งรวบรวมฟิตเนสมวยไทย ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ไปต่อยมวยเพื่อออกกำลังกาย จนทำให้มวยไทยกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ส่งออกไปไกลทั่วโลก