มอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2566

กทม. 22 ก.ย.- กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2566 (Human Rights Awards 2023) ให้กับองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม และภาคประชาสังคม ที่ยึดหลักสิทธิมนุษยชนเป็นพื้นฐานในการปฏิบัติงาน


วันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดงานประกาศรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ปี 2566 (Human Rights Awards 2023) โดยได้รับเกียรติจาก พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการมอบรางวัลฯ

สำหรับในปีนี้ มีผู้ได้รับรางวัลฯ ทั้งหมด 109 องค์กร แบ่งเป็น ประเภทภาครัฐ ประเภทราชการส่วนกลาง ระดับดีเด่น 2 องค์กร ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำ, กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ระดับดี 4 องค์กร ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ, สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ระดับชมเชย 1 องค์กร ได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประเภทภาครัฐ ประเภทราชการส่วนภูมิภาค ระดับดีเด่น 8 องค์กร ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดพิษณุโลก, ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 2 จังหวัดราชบุรี, ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 9 จังหวัดยะลา, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพิษณุโลก, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ระดับดี 28 องค์กร ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 5 จังหวัดอุบลราชธานี, ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต ๗ จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนพระนครศรีอยุธยา, ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ, ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนนทบุรี, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดปราจีนบุรี, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดพัทลุง, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดพิษณุโลก, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสตูล, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสระแก้ว, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสิงห์บุรี, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุโขทัย, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอ่างทอง, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอุดรธานี, สำนักงานคลังจังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานคลังจังหวัดตาก, สำนักงานคลังจังหวัดลำปาง, สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร, สำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น, สำนักงานสรรพากรพื้นที่มหาสารคาม, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตราด ระดับชมเชย 8 องค์กร ได้แก่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดแพร่, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอ่างทอง, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดกำแพงเพชร, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดน่าน, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดกระบี่, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดชุมพร, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครนายก ประเภทองค์กรรัฐวิสาหกิจ ระดับดีเด่น 5 องค์กร ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ระดับดี 2 องค์กร ได้แก่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ระดับดีเด่น 20 องค์กร ได้แก่ บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน), บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีพีแรม จำกัด, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีบีเคเค (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยยูเนี่ยน ซีฟู้ด จำกัด, บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท แพ็คฟู้ด จำกัด (มหาชน), บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ระดับดี 11 องค์กร ได้แก่ บริษัท จีเอสอี คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน), บริษัท พิษณุเวช จำกัด (โรงพยาบาลพิษณุเวช), บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท โอคินอสฟู้ด จำกัด ระดับชมเชย 3 องค์กร ได้แก่ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด, บริษัท ยูนิเวอแซล แอพพาเรล จำกัด, บริษัท เอ็ม เอส พี อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดกลาง ระดับดีเด่น 1 องค์กร ได้แก่ บริษัท โปรเฟสชั่นแนล ลาโบราทอรี่ แมเนจเม้นท์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ระดับดี 2 องค์กร ได้แก่ บริษัท ปราชญา สุขภาศรม จำกัด, บริษัท อันดารา รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า จำกัด ระดับชมเชย 3 องค์กร ได้แก่ บริษัท กุยลิ้มฮึ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท จี.เค. แอสเซ็มบลี้ จำกัด, บริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัด ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดย่อม ระดับดีเด่น 1 องค์กร ได้แก่ บริษัท เพ็ทสไมล์ บาย ด๊อกเตอร์ เพ็ท จำกัด ระดับชมเชย 5 องค์กร ได้แก่ บริษัท กุยลิ้มฮึ้ง จำกัด, บริษัท กุยลิ้มฮึ้ง ปราชญา จำกัด, บริษัท ปราชญา โฮเรก้า จำกัด, บริษัท มิตรใหม่ฟาร์ม จํากัด, บริษัท อโนนิมัศ รีพับบลิค จำกัด ประเภทองค์กรวิสาหกิจเพื่อสังคม ระดับดี 1 องค์กร ได้แก่ บริษัท สเตปส์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ระดับชมเชย 1 องค์กร ได้แก่ บริษัท สังคมดี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ประเภทองค์กรภาคประชาสังคม ระดับดีเด่น 1 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา ระดับดี 2 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิวัฒนเสรี, มูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์


ทั้งนี้ องค์กรที่ได้รับรางวัลจะเป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่น ๆ รวมถึงร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อยกระดับการดำเนินงานขององค์กรต่าง ๆ อย่างยั่งยืน ตลอดจนพัฒนาสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยในภาพรวมต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ประชุม 20 ผู้ว่าฯ อีสาน เข้มโดรน-จับตาสถานที่สำคัญ

3 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ประชุม 20 ผู้ว่าฯ จังหวัดอีสาน เข้มมาตรการกำจัดโดรน สั่งจับตาสถานที่สำคัญ ศาลากลางจังหวัด-คลังอาวุธ-สถานีขนส่ง บูรณาการตำรวจจับผู้ก่อเหตุ ดำเนินคดีข้อหาหนัก “ก่อการร้าย-ไส้ศึก” เมื่อวันที่ 3 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า วานนี้ (2 ส.ค.) ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน ผ่านระบบ VTC เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัด ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จังหวัด ให้แต่ละหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคเอกชน ประชาชน จัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะเพ่งเล็งในพื้นที่สำคัญ อาทิ ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน นอกจากนี้ให้มีการจัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากสามารถควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในทุกประเด็น เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โดยโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต คงต้องไปดูข้อกฎหมาย ทั้งนี้ได้กำชับห้ามปล่อยตัวง่ายๆ ต้องตรวจสอบไปถึงต้นตอ […]

พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน บินเหนือน่านฟ้าสุรินทร์

สุรินทร์ 3 ส.ค. – พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน บินเหนือน่านฟ้าเมืองสุรินทร์ ชาวบ้านกังวลเรื่องความปลอดภัย ขณะที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเป็นโดรนหรือเครื่องบินขนาดเล็ก เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีรายงานว่าพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายโดรน บินเหนือหลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์เป็นจำนวนมาก โดยยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการ ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นโดรนจริง หรือเป็นอากาศยานชนิดใดกันแน่ ชาวบ้านในพื้นที่ได้โพสต์และแชร์ภาพวัตถุปริศนา บินอยู่เหนือเขตเมืองและพื้นที่ชายแดน ซึ่งถือเป็นพื้นที่หวงห้ามตามคำสั่งของกองทัพ ห้ามอากาศยานไร้คนขับบินโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ทีมข่าวลงพื้นที่และสามารถบันทึกภาพวิดีโอไว้ได้ โดยพบวัตถุลักษณะคล้ายโดรนบินจากรอบนอกเมืองเข้าสู่เขตชั้นในของตัวเมืองสุรินทร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นโดรนหรือเครื่องบินขนาดเล็ก ล่าสุดเช้าวันนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ยังจุดที่ชาวบ้านแจ้งว่าพบเห็นวัตถุดังกล่าว โดยมีการนำภาพถ่ายที่บันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงเย็นขณะที่ท้องฟ้ายังสว่างให้ทีมข่าวดู ภาพปรากฏวัตถุคล้ายเครื่องบินขนาดเล็ก หรือโดรนที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด ชาวบ้านบางส่วนแสดงความวิตก ว่า วัตถุดังกล่าวอาจมีลักษณะคล้ายโดรนพลีชีพหรืออาจบรรทุกวัตถุระเบิด ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกและกังวลในชุมชน จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หรือหน่วยงานความมั่นคง ออกมาชี้แจงโดยเร็ว เพื่อความสบายใจของประชาชนในพื้นที่ . – 716 – สำนักข่าวไทย