ผู้ว่าฯ กทม.นำทีมผู้บริหารร่วมสัมผัสปัญหาการเดินทางในวัน Car Free Day

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – “ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กทม. นำทีมผู้บริหาร กทม. เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ สัมผัสปัญหาคนกรุงฯ เนื่องในวัน Car Free Day ย้ำหน้าที่ทำให้ประชาชนถึงบ้านปลอดภัย


“วันนี้เป็นวัน Car Free Day ที่ทั่วโลกลดการใช้รถยนต์ 1 วัน จริงๆ แล้วอยากให้เป็น Car Free Every Day คืออยากให้ทุกวันลดการใช้รถยนต์ให้น้อยลง ถามว่า กทม. เกี่ยวข้องอะไร เราก็มีส่วนเนื่องจากเราเป็นคนเตรียมเส้นทางการเดินทางให้ประชาชน แม้ว่าเส้นทางหลัก เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ไม่ใช่หน้าที่เรา แต่ระยะทางสุดท้าย เช่น ฟุตบาท ทางเดินเท้า ไฟฟ้าส่องสว่าง ทางม้าลาย ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะพาประชาชนกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกิจกรรม Bangkok Car Free 2023 ซึ่งกรุงเทพมหานครจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อุปสรรค โอกาส อนาคต” ระหว่าง 22-24 ก.ย.66 โดยในวันแรกนี้ผู้ว่าฯ กทม.นำคณะผู้บริหารของกรุงเทพมหานครร่วมกิจกรรมด้วยการลดใช้รถยนต์ส่วนตัว และเดินทางไปทำงานด้วยระบบขนส่งสาธารณะ


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นการรณรงค์ ซึ่งแนวคิดเราให้ผู้บริหารระดับ ผอ.เขต, รองผู้ว่าฯ กทม., ปลัดฯ กทม., รองปลัดฯ กทม. เดินทางมาทำงานโดยใช้รถสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ สิ่งสำคัญคือถ้าผู้บริหารเข้าใจว่าปัญหาอุปสรรคต่างๆ เป็นอย่างไรก็ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ได้ใช้รถสาธารณะหรือเดินเท้าบนฟุตบาทมากนัก วันนี้ก็จะเห็นปัญหาที่แท้จริงเลย เช่น น้ำขังตรงไหน ฟุตบาทเป็นหลุมเป็นบ่อที่ไหน ไฟดับตรงไหน ทางม้าลายข้ามยากอย่างไร การเชื่อมโยงรถเป็นอย่างไร ระยะเวลาการให้บริการรถมีปัญหาอย่างไร ใช้ตั๋วโดยสาร 2 ใบค่าโดยสารราคาแพง เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเราเข้าใจว่าปัญหาคืออะไรเราจะได้บริการประชาชนให้ดีขึ้น รวมทั้งจะมีการประมวลผล วันนี้จะประมวลปัญหาต่างๆ และจะพัฒนาเป็นนโยบายที่ไปปรับปรุงให้ดีขึ้น และได้ให้นโยบายว่าจริงๆ แล้วก็อยากให้เป็น Car Free Day บ่อยๆ ผู้บริหารต้องสัมผัสสภาพปัญหาที่แท้จริงจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุดขึ้น

การเดินทางของผู้บริหาร กทม.ในวันนี้ไม่ใช้รถยนต์แต่ใช้บริการขนส่งสาธารณะต่าง ๆ โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ ออกจากบ้านตั้งแต่ 05.00 น. เดินจากบ้าน เข้าซอยทองหล่อ ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีทองหล่อมาที่สถานีอโศก เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า MRT จากสถานีอโศก ถึงสถานีสามยอด และเดินเท้าต่อจนถึงศาลาว่าการ กทม. ใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 60 บาท นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. เริ่มออกจากบ้านตั้งแต่ 05.00 น. เดินจากบ้านพัก มานั่งรถเมล์ถึง ถ.ราชดำเนิน และเดินเข้า ถ.ดินสอ ถึงศาลาว่าการ กทม. ประมาณ 05.45 น. ใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 20 บาท ส่วนนายวิศณุ ทรัพย์สมพล เดินออกจากบ้านพัก 06.30 น. นั่งรถสองแถว ต่อด้วยนั่งเรือคลองแสนแสบมุ่งหน้าท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ เดินจากท่าเรือ มุ่งหน้า ถ.ราชดำเนิน เข้า ถ.ดินสอ ถึงศาลาว่าการ กทม. ประมาณ 08.00 น. ใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 40 บาท

ด้านนางทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ เริ่มต้นที่มอเตอร์ไซค์วิน (40 บาท) รถไฟฟ้าสายสีแดง (หลักสี่-กรุงเทพอภิวัฒน์) เที่ยว 06.26 น. (27 บาท) ต่อ MRT บางซื่อ > MRT สามยอด (43 บาท) และเดินเท้าจาก MRT สามยอด ไปยังศาลาว่าการเสาชิงช้า รวมค่าใช้จ่าย 110 บาท ส่วนนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้ 06.30 น. ปั่นจักรยานจากบ้านพักโดยใช้เส้นทาง ถ.ราชดำเนิน ถ.ดินสอ ถึงศาลาว่าการ กทม. ประมาณ 06.45 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย


เช่นเดียวกับทีมที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ ชัชชาติ นำโดยประธานที่ปรึกษาฯ ต่อศักดิ์ โชติมงคล ซึ่งวันนี้มีภารกิจ ณ สวนหนองจอกวนารมย์ เขตหนองจอก ออกจากที่พัก เวลาโดยประมาณ 06.30 น. ด้วยรถเมล์ ต่อด้วย BTS, Airport link รถสองแถว และเดินเท้าไปยังสวนหนองจอกวนารมย์ ที่ปรึกษาฯ ท่านอื่นๆ รวมทั้งเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. เลือกใช้บริการสาธารณะหลากหลายตามเส้นทาง มีทั้งรถเมล์ เรือ รถตุ๊กๆไฟฟ้า MRT และเดินเท้า

ส่วนท่านทูตลักเซมเบิร์ก H.E. Mr. Patrick Hemmer ใช้วิธีเดินทางด้วยจักรยานจากที่พักมายังสถานทูต ใช้ระยะทางประมาณ 750 เมตร เริ่มเวลา 08.00- 08.20 น.

ส่วนกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) เป็นวันเห็น “โอกาส” เข้าใจปัญหาและมองเห็นโอกาสร่วมกันในการแก้ไข โดยอาสาสมัครร่วมกับผู้อำนวยการเขตลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง พร้อมลงข้อมูลเส้นทางที่จะปรับปรุงในฐานข้อมูล Google my maps เมื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้วก็จะนำมาเผยแพร่ในกิจกรรมวันรุ่งขึ้น

24 ก.ย. 66 ซึ่งเป็นวันแห่ง “อนาคต” โดยจะร่วมกันประกาศเป้าหมายสู่ Bangkok Car Free ในอนาคต ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 700 คน โดยจะมีทูตจาก 31 ประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ใช้รูปแบบการเดินทาง อาทิ เดิน จักรยาน รถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง จากนั้นจะมีการพูดถึงนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดใช้รถรถยนต์ส่วนตัว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

ลุ้นผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา

14 มิ.ย.- ประชาชน 2 ประเทศลุ้นผลการประชุม JBC ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว นายเปง สุเพีย ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานว่าก่อนการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ขณะนี้เป็นการประชุมกลุ่มเล็ก ผ่านไปกว่า 2 ชม. ยังไม่ออกมา ประชาชนสองประเทศลุ้นผลการประชุม ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว .-สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]