ผู้ว่าฯ กทม.นำทีมผู้บริหารร่วมสัมผัสปัญหาการเดินทางในวัน Car Free Day

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – “ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กทม. นำทีมผู้บริหาร กทม. เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ สัมผัสปัญหาคนกรุงฯ เนื่องในวัน Car Free Day ย้ำหน้าที่ทำให้ประชาชนถึงบ้านปลอดภัย


“วันนี้เป็นวัน Car Free Day ที่ทั่วโลกลดการใช้รถยนต์ 1 วัน จริงๆ แล้วอยากให้เป็น Car Free Every Day คืออยากให้ทุกวันลดการใช้รถยนต์ให้น้อยลง ถามว่า กทม. เกี่ยวข้องอะไร เราก็มีส่วนเนื่องจากเราเป็นคนเตรียมเส้นทางการเดินทางให้ประชาชน แม้ว่าเส้นทางหลัก เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ไม่ใช่หน้าที่เรา แต่ระยะทางสุดท้าย เช่น ฟุตบาท ทางเดินเท้า ไฟฟ้าส่องสว่าง ทางม้าลาย ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะพาประชาชนกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกิจกรรม Bangkok Car Free 2023 ซึ่งกรุงเทพมหานครจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อุปสรรค โอกาส อนาคต” ระหว่าง 22-24 ก.ย.66 โดยในวันแรกนี้ผู้ว่าฯ กทม.นำคณะผู้บริหารของกรุงเทพมหานครร่วมกิจกรรมด้วยการลดใช้รถยนต์ส่วนตัว และเดินทางไปทำงานด้วยระบบขนส่งสาธารณะ


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นการรณรงค์ ซึ่งแนวคิดเราให้ผู้บริหารระดับ ผอ.เขต, รองผู้ว่าฯ กทม., ปลัดฯ กทม., รองปลัดฯ กทม. เดินทางมาทำงานโดยใช้รถสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ สิ่งสำคัญคือถ้าผู้บริหารเข้าใจว่าปัญหาอุปสรรคต่างๆ เป็นอย่างไรก็ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ได้ใช้รถสาธารณะหรือเดินเท้าบนฟุตบาทมากนัก วันนี้ก็จะเห็นปัญหาที่แท้จริงเลย เช่น น้ำขังตรงไหน ฟุตบาทเป็นหลุมเป็นบ่อที่ไหน ไฟดับตรงไหน ทางม้าลายข้ามยากอย่างไร การเชื่อมโยงรถเป็นอย่างไร ระยะเวลาการให้บริการรถมีปัญหาอย่างไร ใช้ตั๋วโดยสาร 2 ใบค่าโดยสารราคาแพง เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเราเข้าใจว่าปัญหาคืออะไรเราจะได้บริการประชาชนให้ดีขึ้น รวมทั้งจะมีการประมวลผล วันนี้จะประมวลปัญหาต่างๆ และจะพัฒนาเป็นนโยบายที่ไปปรับปรุงให้ดีขึ้น และได้ให้นโยบายว่าจริงๆ แล้วก็อยากให้เป็น Car Free Day บ่อยๆ ผู้บริหารต้องสัมผัสสภาพปัญหาที่แท้จริงจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุดขึ้น

การเดินทางของผู้บริหาร กทม.ในวันนี้ไม่ใช้รถยนต์แต่ใช้บริการขนส่งสาธารณะต่าง ๆ โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ ออกจากบ้านตั้งแต่ 05.00 น. เดินจากบ้าน เข้าซอยทองหล่อ ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีทองหล่อมาที่สถานีอโศก เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า MRT จากสถานีอโศก ถึงสถานีสามยอด และเดินเท้าต่อจนถึงศาลาว่าการ กทม. ใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 60 บาท นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. เริ่มออกจากบ้านตั้งแต่ 05.00 น. เดินจากบ้านพัก มานั่งรถเมล์ถึง ถ.ราชดำเนิน และเดินเข้า ถ.ดินสอ ถึงศาลาว่าการ กทม. ประมาณ 05.45 น. ใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 20 บาท ส่วนนายวิศณุ ทรัพย์สมพล เดินออกจากบ้านพัก 06.30 น. นั่งรถสองแถว ต่อด้วยนั่งเรือคลองแสนแสบมุ่งหน้าท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ เดินจากท่าเรือ มุ่งหน้า ถ.ราชดำเนิน เข้า ถ.ดินสอ ถึงศาลาว่าการ กทม. ประมาณ 08.00 น. ใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 40 บาท

ด้านนางทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ เริ่มต้นที่มอเตอร์ไซค์วิน (40 บาท) รถไฟฟ้าสายสีแดง (หลักสี่-กรุงเทพอภิวัฒน์) เที่ยว 06.26 น. (27 บาท) ต่อ MRT บางซื่อ > MRT สามยอด (43 บาท) และเดินเท้าจาก MRT สามยอด ไปยังศาลาว่าการเสาชิงช้า รวมค่าใช้จ่าย 110 บาท ส่วนนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้ 06.30 น. ปั่นจักรยานจากบ้านพักโดยใช้เส้นทาง ถ.ราชดำเนิน ถ.ดินสอ ถึงศาลาว่าการ กทม. ประมาณ 06.45 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย


เช่นเดียวกับทีมที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ ชัชชาติ นำโดยประธานที่ปรึกษาฯ ต่อศักดิ์ โชติมงคล ซึ่งวันนี้มีภารกิจ ณ สวนหนองจอกวนารมย์ เขตหนองจอก ออกจากที่พัก เวลาโดยประมาณ 06.30 น. ด้วยรถเมล์ ต่อด้วย BTS, Airport link รถสองแถว และเดินเท้าไปยังสวนหนองจอกวนารมย์ ที่ปรึกษาฯ ท่านอื่นๆ รวมทั้งเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. เลือกใช้บริการสาธารณะหลากหลายตามเส้นทาง มีทั้งรถเมล์ เรือ รถตุ๊กๆไฟฟ้า MRT และเดินเท้า

ส่วนท่านทูตลักเซมเบิร์ก H.E. Mr. Patrick Hemmer ใช้วิธีเดินทางด้วยจักรยานจากที่พักมายังสถานทูต ใช้ระยะทางประมาณ 750 เมตร เริ่มเวลา 08.00- 08.20 น.

ส่วนกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) เป็นวันเห็น “โอกาส” เข้าใจปัญหาและมองเห็นโอกาสร่วมกันในการแก้ไข โดยอาสาสมัครร่วมกับผู้อำนวยการเขตลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง พร้อมลงข้อมูลเส้นทางที่จะปรับปรุงในฐานข้อมูล Google my maps เมื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้วก็จะนำมาเผยแพร่ในกิจกรรมวันรุ่งขึ้น

24 ก.ย. 66 ซึ่งเป็นวันแห่ง “อนาคต” โดยจะร่วมกันประกาศเป้าหมายสู่ Bangkok Car Free ในอนาคต ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 700 คน โดยจะมีทูตจาก 31 ประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ใช้รูปแบบการเดินทาง อาทิ เดิน จักรยาน รถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง จากนั้นจะมีการพูดถึงนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดใช้รถรถยนต์ส่วนตัว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

จับชายมุดท่อระบายน้ำ ลอบข้ามแดนกลับไทย

สระแก้ว 10 ก.ค.- ทหารคุมเข้มแนวชายแดนอรัญประเทศ ล่าสุดจับชายมุดท่อระบายน้ำ ลอบข้ามแดนกลับไทย อ้างป่วยโรคปอด แม่ชวนไปเป็นบัญชีม้าฝั่งปอยเปต ด้าน 15 แรงงานกัมพูชา อดอยาก ยอมเสี่ยงเดินเท้าเข้าสระแก้ว ชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ ทหารพราน ร่วมกันลาดตระเวนพื้นที่ล่อแหลมชายแดนสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกโดยผิดกฎหมาย และการขนสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาจับกุมตัวนายอภิรักษ์ อายุ 40 ปี ขณะกำลังมุดท่อระบายน้ำข้างทางรถไฟ ห่างจากด่านพรมแดนบ้านคลองลึกประมาณ 200 เมตร เพื่อลักลอบข้ามพรมแดนกลับเข้าประเทศไทย โดยพบข้อมูลเบื้องหลังการจับกุม เผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อผู้ต้องหาอ้างว่าคนที่ชักชวนให้เขามาทำงานผิดกฎหมายนี้ คือ “แม่ของเขาเอง” นายอภิรักษ์ ให้การว่า ตนป่วยเป็นโรคปอด สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ต่อมาแม่ของตนซึ่งเคยทำงานลักษณะนี้มาก่อน ชักชวนให้ไป “รับจ้างเปิดบัญชีและสแกนใบหน้า” ที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ถูกนำตัวข้ามแดนไปพักในห้องสังกะสี และสั่งให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร 1 บัญชี พร้อมคอยสแกนใบหน้าเป็นเวลา 4-5 วัน เมื่องานเสร็จ นายจ้างชาวไทยให้คนนำทางพามาส่งทิ้งไว้ที่แนวชายแดนและชี้ทางให้มุดท่อระบายน้ำกลับมาไทย จนถูกจับ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย และจะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในข้อหาอื่น ๆ […]

ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม

10 ก.ค.- ลูกเจ้าของโรงเรียนคลั่งยา ชักปืนยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 2 คน โดยบริเวณข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 20 พบ 1 ศพ เป็นหญิง และบริเวณข้างวัดแห่งหนึ่ง แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พบอีก 1 ศพเป็นผู้ชาย เบื้องต้นจากการสอบถามเพื่อนบ้าน คาดผู้ก่อเหตุมีอาการคลั่งยา หลอนฝันว่าผู้ตายรายแรกที่เป็นหญิงทำคุณไสยใส่ จึงเดินไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กกหู ขณะที่กำลังซักผ้าเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นเดินออกมาหน้าวัด พบนายติ่ง จึงใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิตคาที่เป็นศพที่ 2 ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นลูกเจ้าของโรงเรียนใกล้เคียงกับวัดดังกล่าว ถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ภาษีเจริญ – สำนักข่าวไทย

หนึ่งเดียวในโลก! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์

สุรินทร์ 10 ก.ค.- สุรินทร์จัดยิ่งใหญ่! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2568 ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ประชาชนและนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ หลั่งไหลร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา ประจำปี 2568 บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพระสงฆ์ สามเณร 64 รูป นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้างแสนรู้ และช้างงายาว 64 เชือก โดยนำอัฒจันทร์เหล็กมาตั้งรอบอนุสาวรีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมายืนใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ช้างที่มีพระสงฆ์นั่งบนหลังจะเดินเข้าไปรับบาตร. – สำนักข่าวไทย

บุกจับแอดมินแอปฯ ดัง นำเด็กไลฟ์แสวงหาประโยชน์

ร้อยเอ็ด 10 ก.ค.- มท.1 ลุยต่อ สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำหมายศาลบุกจับแอดมินกลุ่มแอปฯ ดัง นำเด็กมาเปลือยไลฟ์ออนไลน์แสวงหาประโยชน์ พร้อมช่วย 2 เด็กสาวเหยื่อค้ามนุษย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “Discord disconnected” จับกุมหนุ่มนำเด็กสาวมาเปลือยไลฟ์สดออนไลน์หารายได้ โดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกับนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นายพุทธภูมิ นาชัยเริ่ม นายอำเภอธวัชบุรี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พ.ต.อ. ภาสกร หินเธาว์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรธวัชบุรี นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองร่วมเข้าแสดงหมายค้นหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด จับกุมหนุ่ม นำเด็กมาเปลือยไลฟ์สดออนไลน์หารายได้ พร้อมตรวจค้นบ้านเพื่อหาพยานหลักฐานในพื้นที่อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด สืบเนื่องจากกรมการปกครอง […]