เตือนไวรัสซิกาจากยุงลาย ส่งผลทารกศีรษะเล็กแต่กำเนิด

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมควบคุมโรค ย้ำรีบกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำและป้องกันยุงลายกัด ลดความเสี่ยงโรคไข้เลือดออก และป้องกันทารกในครรภ์ศีรษะเล็กแต่กำเนิด จากไวรัสซิกาที่มากับยุงลาย


วันนี้ (27 สิงหาคม 2566) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในระยะนี้เป็นฤดูฝน มีฝนตกเกือบทุกวัน ส่งผลให้น้ำฝนที่ตกลงมาไปตกค้างอยู่ตามภาชนะที่อาจมีไข่ยุงลายอยู่เดิม หรือยุงวางไข่ใหม่ในภาชนะน้ำขังที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เพิ่มจำนวนยุงลายที่เป็นพาหะนำโรค เช่น โรคไข้เลือดออก โรคปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งเคยมีการระบาดในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยอยู่ระยะหนึ่งแล้วเงียบหายไป แต่กลับมามีรายงานการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคนี้อีกครั้งในปีนี้ ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาแล้ว 266 ราย พื้นที่ที่มีการรายงานผู้ป่วย 24 จังหวัด โดยระยะ 4 สัปดาห์ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสูงที่จังหวัดจันทบุรี (37 ราย) และเพชรบูรณ์ (23 ราย) โดยหากผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นหญิงตั้งครรภ์ จะส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ ทำให้มีศีรษะเล็ก และมีความพิการแต่กำเนิด ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา แต่สามารถป้องกันและรับการตรวจวินิจฉัยได้

นายแพทย์ธเรศ กล่าวต่อว่า วิธีที่ดีที่สุดของการป้องกันโรคติดเชื้อจากยุงลายทั้ง 3 โรคนี้คือ ป้องกันอย่าให้ถูกยุงลายกัด แม้ทำได้ยาก ด้วยประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น มีพื้นที่และภูมิอากาศเหมาะสมกับการเจริญพันธุ์ของยุงลาย การลดประชากรยุงลายต้องมีความพร้อมเพรียงกันในระดับชุมชน โดยการจัดการสิ่งแวดล้อมไม่ให้ยุงลายมีที่วางไข่ ยุงลายชอบวางไข่ในน้ำใสนิ่งตามภาชนะกักเก็บน้ำชนิดต่างๆ รวมไปถึงขยะเศษภาชนะ กล่องโฟมที่ถูกทิ้ง จานรองกระถางต้นไม้ หรือกาบใบไม้ใหญ่ๆ ยุงลายไม่ชอบน้ำสกปรกเน่าเหม็น จึงเป็นยุงที่อยู่ใกล้ตัวเราในบริเวณบ้านมากที่สุด หากประชาชน พบเจอภาชนะขังน้ำดังกล่าว สังเกตว่ามีลูกน้ำอยู่ในนั้นด้วยหรือไม่ หากพบก็ให้รีบกำจัดเททิ้งบนดิน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อีกไม่เกิน 7-10 วัน ลูกน้ำเหล่านั้นจะกลายเป็นยุงตัวเต็มวัยมากัดผู้คนได้ นอกจากนี้ มีวิธีป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดอีกหลายวิธีซึ่งประชาชนเลือกได้ เช่น นอนในมุ้ง จุดหรือทายากันยุง ติดตั้งมุ้งลวดกันยุงเข้าบ้าน รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค คือ “3 เก็บป้องกัน 3 โรค” 1.เก็บบ้าน ให้ปลอดโปร่ง ไม่ให้ยุงลายเกาะพัก 2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และ 3.เก็บน้ำ ปิดภาชนะให้มิดชิดเพื่อไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ หรือปล่อยปลากินลูกน้ำก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง จะสามารถป้องกันได้ทั้ง 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา


นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มว่า โรคติดเชื้อไวรัสซิกา มีรายงานพบผู้ป่วยครั้งแรกที่ประเทศยูกันดา ในปี 2490 ที่ผ่านมาเคยมีการระบาดใหญ่ในหลายประเทศเมื่อปี 2559 ในครั้งนั้น พบหญิงตั้งครรภ์คลอดทารกพิการที่มีศีรษะเล็กแต่กำเนิด และพัฒนาการล่าช้า เช่น การระบาดที่ประเทศบราซิลพบทารกแรกเกิดศีรษะเล็กหลายพันคน ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาประปรายเมื่อประมาณสิบปีก่อน โดยผู้ป่วยจะเริ่ม มีไข้ ผื่นแดงตามผิวหนัง ปวดศีรษะ เยื่อบุตาแดงอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อและศีรษะ หลังจากถูกยุงลายที่มีเชื้อไวรัสซิกากัดประมาณ 3-14 วัน แม้ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงแต่อาจจะพบรายที่มีอาการรุนแรงภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท เช่น กลุ่มอาการอักเสบของเส้นประสาท GBS (Guillain-Barre Syndrome)

โรคนี้มีหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ เนื่องจากเชื้อไวรัสซิกาจากมารดาที่ป่วย สามารถส่งต่อไปยังทารกในครรภ์ และไวรัสยังทำให้ทารกมีศีรษะเล็ก (microcephaly) จากสมองไม่เติบโต เกิดความพิการแต่กำเนิด และพัฒนาการล่าช้า บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น แท้ง ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง ปวดข้อ ให้สงสัยว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกา และรีบพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจวินิจฉัยโรคทันที

ทั้งนี้ ขอสื่อสารให้ประชาชนช่วยกันลดความเสี่ยงของโรคนี้ด้วยการป้องกันยุงลายกัดร่วมกันกับการกำจัดยุงตัวแก่และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ขอให้ตระหนักถึงความเสี่ยงอยู่เสมอโดยเฉพาะคู่ครองที่วางแผนจะมีบุตรต้องไม่ละเลยการเตรียมตัวให้พร้อมในด้านเคหะสถานที่ถูกสุขลักษณะไม่ให้มียุงลาย ซึ่งหญิงที่เริ่มตั้งครรภ์ยิ่งต้องมีความตระหนักในการป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด โดยยุงลายสามารถพบได้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ กินเลือดเวลากลางวันมากกว่ากลางคืน หากใส่ใจป้องกันยุงกัดและหมั่นสังเกตกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ก็จะปลอดภัยมากขึ้น หากสงสัยสอบสามารถถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า