แจ้งวัฒนะ 30 มิ.ย.-พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นำผู้เสียหายคดีหุ้น STARK กว่า 30 คน เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อดีเอสไอ หลังรับเป็นคดีพิเศษ คดีนี้มูลค่าความเสียหายของผู้ถือหุ้นกู้ 9,198 ล้านบาท
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นำผู้เสียหายในคดีหุ้น STARK กว่า 30 คน มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ที่มาวันนี้ เพราะจากที่มีกลุ่มผู้เสียหายมาร้องเรียนที่พรรคขอให้ติดตามคดีช่วยเหลือ โดยเรื่องการบริหารคดีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นคดีที่คาดว่ามีผู้เสียหายทั้งหมด มากกว่า 4,500 คน โดยอยากให้ผู้เสียหายทั้งหมดมายื่นคำร้องเป็นผู้เสียหายต่อดีเอสไอ เพื่อรวบรวมจำนวนความเสียหายของคดี และขอให้รีบดำเนินการทางคดีอาญา เพราะในช่วงนี้ เป็นช่วงเริ่มของการดำเนินการทางคดี ผู้ที่ฉ้อโกงอาจจะมีการยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สินได้ ส่วนทางแพ่ง ทางคณะทำงานด้านกฎหมายจะประสานความช่วยเหลือต่อไป
นายปริญ เกษะศิริ ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียหายส่วนหนึ่ง มาที่ดีเอสไอ เพื่อยื่นคำร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอ หลังรับเป็นคดีพิเศษ โดย ดีเอสไอจะดำเนินการทางอาญา กม.ดีเอสไอ และยึดอายัดทรัพย์ โดยกฎหมายของ ป.ป.ง.ด้วย ซึ่งหลังจากที่มีการอายัดทรัพย์มาได้ 100 ล้านบาท ก็พบว่าไม่เพียงพอที่จะจ่ายคืนผู้เสียหายทั้งหมด โดยทีมคณะทำงานด้านกฎหมายจะมาช่วยดูทางคดีแพ่ง ว่าใครที่มีส่วนเสียในการรับผิดอีก เพราะจากข้อเท็จจริงพบว่าคนที่ซื้อหุ้นกู้ ซื้อเพราะความเชื่อถือจากกลุ่มคน หรือมีบริษัทใดได้รับคำรอง จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อซื้อหุ้นกู้นี้จำนวนมากหรือไม่ ก็จะฟ้องคนเหล่านั้นด้วย
ด้าน นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ กล่าวว่า ทางผู้เสียหายหวังเพียงได้เงินที่ลงทุนไป กลับคืนมา เพราะผู้ลงทุนหลายคนมีอายุมากแล้ว นำเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุน บางคนลง 1 แสนบาท จนถึงหลัก 30 ล้านบาท ตอนนี้ทุกคนเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงอยากให้เรื่องนี้ดำเนินการโดยเร็ว ที่ห่วงคือหลายคดีเมื่อเข้าแผนฟื้นฟู เรื่องก็ยาวนานมากกว่าจะคืบหน้า โดยคดีนี้มีจำนวนมูลค่าความเสียหายของ ผู้ถือหุ้นกู้ 9,198 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุม กลุ่มผู้เสียหายหลายคน แสดงความกังวลเรื่องของการถ่ายโอนทรัพย์สิน หรือการหนีออกนอกประเทศของกลุ่มผู้ต้องหา ในระหว่างดำเนินการสอบสวนของดีเอสไอจึงอยากได้รับความมั่นใจว่าจะนำตัวผู้ทำผิดมาลงโทษให้ได้
ทั้งนี้หลังดีเอสไอรับกรณี STARK เป็นคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนได้มีการเชิญพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายรายเข้าให้ปากคำ และได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว และจะเร่งพยายามติดตามทรัพย์สินที่เหลืออีกจำนวนมาก ส่วนมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ เบื้องต้นเป็นจำนวนตัวเลข 35,000-50,000 ล้านบาท และคาดว่ามีโอกาสที่ความเสียหายจะแตะ 100,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย