กทม.รื้อระบบฝึกซ้อมดับเพลิงใหม่เปลี่ยนเป็นซ้อมแห้ง

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย. – กทม.รื้อระบบฝึกซ้อมดับเพลิงใหม่เปลี่ยนเป็นซ้อมแห้ง ตรวจสอบถังแดงในชุมชนทุกจุดต้องได้มาตรการความปลอดภัย


(24 มิ.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุถังดับเพลิงระเบิดระหว่างซ้อมดับเพลิงที่โรงเรียนราชวินิต มัธยม​​ เขตดุสิต

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ทางตำรวจก็ได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ของเราทั้งหมดแล้ว ในส่วนการดำเนินการของ กทม. เมื่อเช้านี้ได้เรียกหน่วยงานทั้งหมดมา โดยให้ยุติการซ้อมทั้งหมด จนกว่าอุปกรณ์ทั้งหมดจะได้รับการตรวจเช็ก ขอชี้แจงว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการซ้อมเมื่อวานนี้ที่เป็นถังคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ใช่ถังที่อยู่ในชุมชนและสถานที่ราชการที่เราติดไว้ ถังคาร์บอนไดออกไซด์เป็นถังที่จะถูกเก็บไว้ที่สถานีดับเพลิงของเรา ซึ่งตอนนี้ถูกเรียกเก็บทั้งหมด และไม่ให้มีการซ้อมโดยใช้ถังคาร์บอนไดออกไซด์ และสัปดาห์หน้าจะเริ่มให้ทางสถานีดับเพลิงทุกสถานี และสำนักงานเขต ร่วมกับประธานชุมชน ลงตรวจพื้นที่ทั้งหมดที่มีถังดับเพลิงที่เป็นถังเคมีแห้งอยู่ หากเป็นถังเก่า ใช้ไม่ได้ หรือถังที่ประชาชนอาจไม่มั่นใจ จะให้ทำการเก็บทั้งหมด ส่วนถังที่ได้มาตรฐานและมีการทดสอบพร้อมการเติมสารเคมีให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้


สำหรับการซ้อมดับเพลิงให้หยุดทั้งหมด และออกขั้นตอนในการตรวจสอบที่เรียกว่า visual inspection คือ การตรวจสอบในเบื้องต้น โดยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ชุมชน ประชาชน และเจ้าหน้าที่ อาทิ การดูเกจ์วัดค่าความดัน สลัก ความกรอบของสายดับเพลิง ขนาด ความบวมของถัง สนิมที่ถัง เป็นต้น ถ้าพบสามารถแจ้งย้ายถังกับสำนักงานเขตพื้นที่ สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีความกังวลใจ พบถังดับเพลิงที่มีลักษณะไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งผ่านทาง Traffy Fondue

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวต่อไปว่า หากจะกลับมาฝึกซ้อม จะรื้อระบบการฝึกซ้อมทั้งหมด ต่อไปนี้เป็นการซ้อมแห้ง ที่ไม่มีการฉีดพ่น เป็นการใช้ถังเปล่าที่ไม่มีการอัดแรงดันใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าซ้อมกับโรงเรียนหรือนักเรียนที่ต้องการความปลอดภัยสูง ใช้เกณฑ์การเว้นระยะ ไม่อนุญาตให้มีการซ้อมในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม การใช้อุปกรณ์ในการซ้อมต้องได้มาตรฐานและผ่านการตรวจสอบทุกครั้ง ปรับการฝึกซ้อมให้เป็นการให้ความรู้โดยปลอดภัย และจะร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปรับมาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมด โดยการใช้มาตรฐานร่วมกัน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ถังที่ใช้ฝึกซ้อมมีแรงดันสูงมากกว่า 800 PSI ถังทั่วไปที่อยู่ในชุมชนจะเป็นถังเคมีแห้ง แรงดัน 190 PSI เรียกได้ว่าข้อแตกต่างคือ ถังแบบเคมีแห้งจะมีเกจ์ที่วัดความดันอยู่ แต่ถังที่ใช้ซ้อมไม่มีเกจ์ จะใช้วิธีวัดน้ำหนักเอา จะมีวาล์วที่ปล่อยเวลาเกิดความดันสูง ถังที่เราซื้อให้สำหรับการฝึกซ้อม อันนี้ก็คงต้องใช้ถังที่ได้มาตรฐาน เพราะถังนี้ต้องมีการตรวจสอบทุก 5 ปี มีการทดสอบด้วยแรงดันไฮโดรสแตติก ก็คืออัดแรงน้ำเข้าไปให้เกินค่ามาตรฐานกี่เท่า เพื่อให้มั่นใจว่าตัวนี้จะรองรับได้อยู่ ต้องปรับแล้วก็ได้สั่งการให้ทำบัญชีของถังทั้งหมด ต่อไปจะมีระบบ GPS ให้รู้เลยว่าชุมชนนี้มีถังอยู่ที่ไหนบ้าง แต่ละถังตรวจสอบเมื่อไหร่ คือเราใช้เป็นระบบที่ขึ้นพิกัด GPS ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ก็จะให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการชุมชน ร่วมกับอาสาสมัครเทคโนโลยี ในการเอาผังพวกนี้ขึ้น ซึ่งเริ่มทำแล้วบางที่ในเขตบางกอกใหญ่ พอเราได้ทั้งหมดทุกชุมชนแล้วขยายไปยังชุมชนอื่น เมื่อประกอบร่างกันหลายชุมชน ก็จะเห็นถังทั้งกรุงเทพฯ เลยว่า ถังแดงอยู่ตรงไหนบ้าง จะรู้ว่าถังนี้หมดอายุเมื่อไหร่ แล้วก็ตรวจสอบล่าสุดเมื่อไหร่ นำพวกเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น


รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวอีกว่า ถังดับเพลิงที่มีอยู่ ถ้าเป็นถังปฏิบัติการจะเป็นถังที่สั่งซื้อทั้งหมดอยู่แล้ว ส่วนถังที่ใช้ในการฝึกซ้อม มีทั้งถังที่เราสั่งซื้อ ส่วนอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเจ้าหน้าที่ไปเป็นวิทยากร แล้วได้รับการสนับสนุนมา หรือมีการซื้อถังเพื่อให้จำนวนมีมากพอกับความต้องการในการฝึกซ้อม จึงมีถังที่ถูกจัดซื้อในลักษณะนี้อยู่ ที่ไม่ใช่การจัดซื้อโดยตรงจากงบประมาณของ กทม. อย่างไรก็ตาม แม้เป็นถังที่ซื้อมาเพื่อฝึกซ้อม สาธิต ก็ต้องซื้อตามมาตรฐานที่กำหนด

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวด้วยว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ขณะนี้ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้สอดคล้องกับที่ทางตำรวจมีสำนวนมา อีกทั้งยังรอสำนวนของพิสูจน์หลักฐานอยู่ด้วย เพื่อระบุให้แน่ชัดว่าเป็นความผิดในลักษณะไหน เป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่แล้วทำตามมาตรฐานอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ทางพิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ส่งข้อมูลให้ แต่จะมีการเกาะติดเรื่องนี้และไม่ปล่อยแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดจากประมาทเลินเล่อ ไม่ว่าจะเกิดจากการที่ไม่ดำรงอยู่ในมาตรฐานการฝึก ทางคณะกรรมการสอบสวนจะทำการอย่างรัดกุมและเคร่งครัดที่สุด ไม่ลดหย่อน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการฝึกซ้อมที่โรงเรียนราชวินิต มีหนังสือขอความสนับสนุนมาจากโรงเรียนชัดเจน และมีการอนุมัติจาก ผอ.สปภ. ซึ่งการขอความสนับสนุนการฝึกซ้อมก็เคยมีมาอยู่แล้ว จากที่ได้คุยกับพนักงานดับเพลิงหลายคน ทุกคนบอกว่าไม่เคยมีกรณีถังคาร์บอนไดออกไซด์ระเบิดแบบนี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทาง กทม.ก็รับไม่ได้เช่นกัน เพราะเรามีหน้าที่ดูแลประชาชน แต่ประชาชนต้องมาบาดเจ็บเสียชีวิตจากการดำเนินการ หรืออุปกรณ์ที่เรานำไปสอน ต้องตรวจสอบให้ละเอียด และต้องเกิดขึ้นอีกไม่ได้เลยในอนาคต

เรื่องการเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต มีเงินเยียวยา แต่ไม่ใช่จำนวนมาก เพราะเป็นไปตามระเบียบราว 29,700 บาท สำหรับผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ประสบภัย 4,000 บาท ที่เรียกว่าค่าปลอบขวัญ ส่วนการรักษาพยาบาล โรงพยาบาลกรุงเทพมหานครออกให้ทั้งหมด แต่เงินเท่าไรก็ไม่มีทางคุ้มกับชีวิตของน้องที่เสียไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]