“นพ.ประกิต” ย้ำบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายกว่าบุหรี่ธรรมดา-ไม่ช่วยให้เลิกบุหรี่

สำนักข่าวไทย 13 ก.พ.- “นพ.ประกิต” ย้ำสถานะบุหรี่ไฟฟ้าก่ออันตรายยิ่งกว่าบุหรี่ธรรมดา นิโคตินที่ได้รับจากบุหรี่ไฟฟ้าติดง่ายกว่าเฮโรอีน และไม่ได้ช่วยให้เลิกบุหรี่ หนำซ้ำกลายเป็นติดทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา ด้าน สคบ.เตรียมดันใช้กฎหมายฟอกเงินร่วมแก้ปัญหาลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า


ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สสส. พร้อมด้วย นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผอ.ส่วนบังคับคดี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ สคบ. กล่าวในการเสวนาสื่อมวลชน เรื่อง “สางปม บุหรี่ไฟฟ้า …หลากปัญหารอวันแก้ ” ว่าสถานการณ์ความเข้าใจเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในทุกวันนี้ ยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินแน่นอน 99% และไม่ได้มีส่วนช่วยให้เกิดการเลิกบุหรี่ได้ โดยบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันมี 2 ชนิดได้แก่ 1.บุหรี่ไฟฟ้าแบบชนิดใช้น้ำยา ที่มีแบบเติมน้ำยา หรือกลิ่น หรือพอร์ต ที่เป็นที่นิยมในวัยรุ่น เนื่องจากมีราคาไม่แพง และสูบได้หลายครั้ง 2.บุหรี่ไฟฟ้าที่มีลักษณะเป็นผงแห้ง หรือ Heated tobacco products ใช้ความร้อนในการเผาไหม้ใบยาที่บด และเติมสารเคมี ซึ่งทุกประเภทของบุหรี่ไฟฟ้าล้วนแต่มีการเผาไหม้ใช้ความร้อนสูง ทำให้เกิดอันตรายต่อหลอดเลือดและระบบทางเดินหายใจ เพราะละอองลอยมีสารโลหะหนักหลายชนิด เช่น เหล็ก ทองแดง นิกเกิล สังกะสี โครเมียม และตะกั่ว กระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ นอกจากนี้ ยังพบสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของสมองเด็กและวัยรุ่น บุหรี่ไฟฟ้าหลายยี่ห้อมีสารนิโคตินเท่ากับสูบบุหรี่ 20 มวน และบางยี่ห้อมีสารนิโคตินเท่ากับการสูบบุหรี่ถึง 50 มวน

ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต กล่าวว่า สารนิโคตินช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารโดปามีน ทำให้กระปรี้กระเปร่า ซึ่งตามปกติสารโดปามีนจะเกิดขึ้นเมื่อมีการออกกำลังกาย แต่นิโคตินในบุหรี่ เมื่อมีการสูบเข้าไป แม้กระตุ้นให้เกิดโดปามีน แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเลิกสูบบุหรี่ เมื่อเกิดการติด สมองชินกับนิโคตินก็เป็นสาเหตุให้คนหงุดหงิดง่าย เมื่อไม่ได้รับนิโคติน


ทั้งนี้ พบว่าอันตรายของสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อเข้าสมองก่อให้เกิดการเสพติดได้ง่ายกว่าเฮโรอีน กัญชา หรือโคเคน เพียงรับนิโคตินแค่ 7 วินาที และปัจจุบันแม้แต่บริษัทเองก็ยังไม่มีงานวิจัยมาสนับสนุนว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ โดยในต่างประเทศพบว่ามี 32 ประเทศทั่วโลก ที่มีความตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ภัย และห้ามสูบอย่างเด็ดขาด และพบว่าเมื่อมีการเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว สุดท้ายก็หันไปสูบบุหรี่ และคนที่เคยสูบบุหรี่อยู่แล้วก็ยังมีโอกาสสูบบุหรี่ไฟฟ้าอีกด้วย ทั้งนี้ พิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าก็เหมือนกับบุหรี่ มีโอกาสเกิดได้ทั้งมะเร็ง หัวใจ และหลอดเลือด แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 20-30 ปี โดยสถิติคนที่สูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา พบว่า เกาหลีใต้มีการสูบ 85% เนเธอร์แลนด์สูบ 72% นิวซีแลนด์ 64% อังกฤษ 55% สหรัฐ ผู้ใหญ่ 41% วัยรุ่น 64 % และ ไทย 33%

นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า สถานะของบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน คือ ห้ามขายห้ามใช้บริการ และเป็นของต้องห้าม โดยใช้อำนาจตามกฎหมายของกรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์ ในปี 2557 บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสิค้าต้องห้ามนำเข้าและส่งออก, ส่วนปี 2559 ยังมีการออกกฎหมายกำชับซ้ำไปอีก ห้ามนำเข้า และห้ามนำผ่าน ก็หมายความว่าแม้บุหรี่ไฟฟ้าจะผ่านเข้ามาประเทศไทย เพื่อส่งต่อไปยังประเทศอื่นก็ทำไม่ได้ ทุกอย่างเท่ากับมีครอบครองคือการลักลอบ ทั้งนี้สคบ.พยายามจับและยึดของกลางบุฟรี่ไฟฟ้ามาโดยตลอด ซึ่งก็ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครอง และพบการใช้ในสถานศึกษา โดยการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้า ทำได้ง่ายผ่านระบบออนไลน์ ทำให้สารพิษเหล่านี้ถึงมือเยาวชน ทาง สคบ.จึงร่วมกับตำรวจ ในการตรวจตรา และสกัดกั้น ด้วยการวางระบบปิดกั้นการมองเห็นในช่องทางออนไลน์ ทำให้เมื่อค้นหาคำว่าบุหรี่ไฟฟ้าเข้าถึงยากขึ้น แต่ก็พบว่าปัจจุบันมีการเสิร์ชค้นหาบุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบของยี่ห้อ หรือบางสถานที่อย่างคลองถม มีการโชว์ภาพ แต่สินค้าอยู่อีกที่ ซึ่งก็มีความผิดข่ายข่ายโฆษณาชักชวน

นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการจับปรับบุหรี่ไฟฟ้า มีโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ความผิดตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าด้วย 3.มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ทั้งนี้ เตรียมเสนอเพิ่มการขยายผลหลังจากการจับกุมในส่วนเรื่องการฟอกเงิน โดยจะส่งเรื่องให้ ตำรวจ และ ปปง.ดำเนินการ เนื่องจากเป็นการขยายผลหลังมีการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้มูลค่า 84 ล้านบาท หากคิดว่าสามารถจับกุมได้อีก คาดว่ามูลค่าของบุหรี่ไฟฟ้าอาจสูงหลายพันล้านบาท โดยข้อมูลการลักลอบนำเข้ามาตามแนวชายแดน.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย