คุมประพฤติเมาขับ 6 วัน 6,992 คดี เข้มแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด

4 ม.ค.- อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยคดีขับรถขณะเมาสุรา ยอดสะสม 6 วัน รวม 6,992 คดี ย้ำมาตรการเข้มแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด


วันนี้ (4 มกราคม 2566) นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึง สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ (3 มกราคม 2566) มีจำนวนทั้งสิ้น 2,453 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 2,379 คดี คดีขับรถประมาท 4 คดี และคดีขับเสพ 70 คดี สำหรับยอดรวมสะสม 6 วัน ที่มีการควบคุมเข้มตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 3 มกราคม 2566 มียอดสะสม จำนวน 7,277 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 6,992 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.08 คดีขับรถประมาท 15 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.21 และคดีขับเสพ 270 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.71 หากเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 6 ของการคุมเข้ม พ.ศ. 2565 กับ พ.ศ. 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี พ.ศ. 2565 จำนวน 317 คดี ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 2,379 คดี เพิ่มขึ้น 2,062 คดี จังหวัดที่มีสถิติคดีเมาแล้วขับสะสมสูงสุด 3 อันดับได้แก่ ร้อยเอ็ด 427 คดี นนทบุรี 318 และ สมุทรปราการ 252 คดี

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมคุมประพฤติให้ความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังควบคู่กับมาตรการแก้ไขฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ถูกคุมความประพฤติในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุรามีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน โดยให้ผู้กระทำผิดปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด ได้แก่ การรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ การพักใช้ใบอนุญาตขับรถซึ่งจะมีการกำหนดระยะเวลา การเข้าอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย/วินัยจราจร และใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกับการทำงานบริการสังคม เช่น การดูแลเหยื่ออุบัติเหตุ ผู้พิการ การช่วยเหลืองานในโรงพยาบาล เพื่อเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกแก่ผู้ถูกคุมความประพฤติไม่ให้หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก


ในส่วนของการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ พร้อมด้วยอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย และผู้ถูกคุมความประพฤติ จำนวน 3,088 คน ร่วมปฏิบัติงานประจำจุด จำนวน 175 จุด พร้อมกันนี้ยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย