4 หน่วยงานจับมือส่งเสริมหญิงตั้งครรภ์มีกิจกรรมทางกาย

สธ.26 ธ.ค. – สธ. จับมือ สสส., ราชวิทยาลัยสูตินรีฯ, สถาบันวิจัยประชากร ส่งเสริมหญิงตั้งครรภ์มีกิจกรรมทางกาย เดิน ปั่นจักรยานอยู่กับที่ ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ช่วยให้คลอดง่าย น้ำหนักลงเร็ว ทารกในครรภ์ตัวยาว ลดการเกิดเบาหวานในหญิงครรภ์


นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการลงนามความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงานได้แก่ กรมอนามัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และสถาบันวิจัยประชากรสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ขับเคลื่อนแนวปฏิบัติการส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับหญิงตั้งครรภ์ และหญิงหลังคลอดให้มีสุขภาพแข็งแรง โดยแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ มีการออกกำลังตามช่วงอายุครรภ์ ส่งผลให้ลดอาการไม่พึงประสงค์จากการตั้งครรภ์ ช่วยให้จิตใจแจ่มใส ร่างกายกระฉับกระเฉง ช่วยให้คลอดง่าย ช่วยให้รูปร่างหลังคลอดกระชับ น้ำหนักลงเร็ว เข้ารูปสวยงาม

ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากให้เปลี่ยนความเชื่อและความคิดที่ว่า คนท้องไม่ควรขยับร่างกายมาก เดี๋ยวจะเกิดอันตราย ทำให้คนตั้งครรภ์ส่วนใหญ่นั่งๆ นอน ๆ ไม่ได้ ขยับร่างกาย ทั้งที่ความจริงแล้ว การออกกำลังกายในหญิงครรภ์ ช่วยให้ระบบไหลเวียนของแม่ดี ส่งผลไปยังทารกในครรภ์ ช่วยให้การสูบฉีดโลหิตของทั้งแม่และลูกดี นอกจากนี้ ยังช่วยให้การเผาผลาญในหญิงตั้งครรภ์ดีขึ้น ลดการเกิดโรคในขณะตั้งครรภ์ อาทิ เบาหวานในคนท้อง ลดภาวะบวม และยังส่งเสริมพัฒนาการในเด็กให้ดี โดยน้ำหนักตัวของหญิงครรภ์ที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 4-7 กิโลกรัม ทารกแรกคลอดน้ำหนักไม่น้อย 2,500 กิโลกรัม


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์มีการออกกำลังกาย เพราะจะช่วยทารกในครรภ์ตัวยาวขึ้น โดยการออกกำลังกายให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ 30 นาทีต่อวัน ทั้งการเดิน ขี่จักรยานอยู่กับที่ หรือโยคะทางน้ำ ซึ่งผลของการออกกำลังกายจะทำให้หญิงครรภ์ คลอดบุตรง่าย มีสุขภาพแข็งแรงทั้งแม่และลูก โดยช่วงครรภ์ไตรมาสที่ 1 ซักผ้า กวาดบ้าน เดิน หรือ แอโรบิค เริ่มจากช้าไปเร็วเบาไปหนัก ส่วนไตรมาสที่ 2 ปั่นจักรยาน วิ่ง ยกของเบา เดิน ว่ายน้ำ โยคะ ส่วนการแอโรบิค ทำกิจกรรมได้เหมือนผู้ใหญ่ปกติ และไตรมาสที่ 3 เดิน ว่ายน้ำ โยคะ การแอโรคบิค ให้ระวังเรื่องการหกล้ม หรือการกระแทกที่ท้อง. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]