“สาธิต” หารือร่วมฝ่ายยุติธรรม เข้มบังคับใช้ประกาศ “ช่อดอกกัญชา”

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค. – รมช.สาธารณสุข นำทีมกรมการแพทย์แผนไทยฯ อย. กรมอนามัย หารือร่วมกับกระบวนการยุติธรรม ทั้งตำรวจ อัยการ กรมการปกครอง ทำความเข้าใจประกาศสมุนไพรควบคุม “ช่อดอกกัญชา” และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ป้องกันการนำกัญชามาใช้ในทางที่ผิด ลดข้อกังวลผู้ปฏิบัติหน้างาน


วันนี้ (19 ธันวาคม 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมหารือนโยบายและแนวทางสร้างความเข้าใจการบังคับใช้กฎหมาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ร่วมกับ นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย นายณัฐพงศ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (รอง ผบช.ปส.) ผู้แทนจาก อย. และกรมวิชาการเกษตร

ดร.สาธิต กล่าวว่า ได้เชิญหน่วยงานกระบวนการยุติธรรมมาหารือเพื่อกระชับประกาศเกี่ยวกับ “กัญชา” โดยหลักคือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ที่กำหนดเฉพาะส่วนของช่อดอกกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ออกตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 โดยเฉพาะกรณีการศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปช่อดอกกัญชาเพื่อการค้า ต้องขอรับใบอนุญาต นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเงื่อนไขให้ต้องจัดทำข้อมูลแหล่งที่มา การนำไปใช้ ห้ามจำหน่ายให้เด็กอายุน้อยกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร นักเรียน นิสิต นักศึกษา ห้ามจำหน่ายเพื่อการสูบในสถานที่ประกอบการ ห้ามจำหน่ายผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติหรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ห้ามโฆษณาในทุกช่องทาง ห้ามจำหน่ายในศาสนสถาน หอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์และสวนสนุก หากไม่ปฏิบัติตาม ผู้อนุญาตมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาต ครั้งละไม่เกิน 90 วัน หากยังฝ่าฝืนประกอบกิจการต่อไป ถือเป็นการกระทำผิดร้ายแรง จะมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต หากไม่ขออนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


“ที่ผ่านมายังมีข้อกังวลและเป็นห่วงผู้ปฏิบัติหน้างาน ซึ่งได้หารือกับอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ แล้วว่าต้องดำเนินการให้เป็นตัวอย่าง จึงมีการร่วมมือกับ ผอ.เขตใน กทม. และ สน.ในพื้นที่ ตรวจสอบ จับกุมผู้ประกอบการ นำไปสู่การฟ้องศาลแขวงและมีคำพิพากษาแล้ว นอกจากนี้ยังหารือถึงกรณีผู้ต้องหาไม่รับสารภาพว่าเป็นช่อดอกหรือไม่ ซึ่งต้องหาทางออกเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมั่นใจว่าจะไม่ถูกฟ้องกลับ โดยรองอธิบดีอัยการแนะนำว่าต้องเข้ากระบวนการพิสูจน์ให้ทราบ หากตรวจสอบพบหลักฐานเพียงพอว่าเป็นช่อดอกกัญชา มีพยานหลักฐานแวดล้อม ฟ้องได้ อัยการจะดำเนินการฟ้องศาลต่อไป” ดร.สาธิต กล่าว

ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ปฏิบัติมีข้อเสนอให้ทำความชัดเจนข้อปฏิบัติในแง่ข้อกฎหมาย อัตราโทษ และวิธีปฏิบัติ ซึ่งจะมีการดำเนินการไปสู่ระดับจังหวัด เพื่อให้เข้าใจและปฏิบัติได้ชัดเจนมากขึ้น ส่วนต้องออกประกาศเพิ่มเติมหรือไม่ ได้มอบหมายรองอธิบดีกรมอนามัยพิจารณาเรื่องประกาศกลิ่นควันเป็นเหตุรำคาญ ว่าจะลดขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนได้หรือไม่ หากมีการสูบในที่สาธารณะ เพราะต้องมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ระงับเหตุก่อน หากฝ่าฝืน จึงจะมีการเปรียบเทียบปรับ อย่างไรก็ตาม ต้องดูฐานอำนาจของ พ.ร.บ.การสาธารณสุขด้วย

ทั้งนี้ จะเร่งใช้ทุกประกาศที่มีในการจัดการควบคุมให้การใช้ช่อดอกให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่แพร่หลายไปสู่กลุ่มคนและสถานที่ที่คิดว่าเสี่ยงจะมีผลกระทบในเชิงสังคม เพื่อควบคุมป้องกันการใช้กัญชาในทางที่ผิดในช่วงที่ยังไม่มีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกมา


ด้าน นพ.ธงชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สื่อสารกับสถานีตำรวจท้องที่ให้ทราบแนวทางการปฏิบัติ กรณีจับกุมและดำเนินคดีตามประกาศฯ ว่าการจับกุมต้องมีพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ เป็นผู้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุม ซึ่งจากการ
ลงพื้นที่ร่วมกับสถานีตำรวจชนะสงครามและทองหล่อ มีการจับกุมเอาผิด 10 ราย ดำเนินคดีส่งฟ้องศาลและตัดสินแล้วทั้ง 10 ราย แบ่งเป็น สน.ชนะสงคราม กรณีถนนข้าวสาร 4 ราย ศาลตัดสินสั่งปรับ 5,000 บาท และ สน.ทองหล่อ 6 ราย ศาลตัดสินจำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 2 ปี และปรับ 5,000 บาท

ส่วน 2 ราย ย่านถนนข้าวสาร เป็นเรื่องไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาต ข้อ 3(5) เนื่องจากจัดให้มีการสูบในสถานที่ประกอบการ ผู้อนุญาตอยู่ระหว่างดำเนินการออกคำสั่งทางปกครองพักใช้ใบอนุญาต ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบติดตามในพื้นที่ต่างจังหวัดอื่นๆ ต่อไป ที่ระหว่างนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ใบอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]