fbpx

ปีใหม่นี้คึกคักยอดจองโรงแรม-ท่องเที่ยวยาวต่อเนื่องถึงปี66

กทม.19ธ.ค.-ภาคเอกชนธุรกิจท่องเที่ยว เผยช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ยอดจองจากต่างชาติดีเกินคาดพร้อมสนับสนุนนโยบาย ขยายเวลาปิดสถานบันเทิง ตี 4 เชื่อส่งผลดีต่อภาคท่องเที่ยวสร้างเม็ดเงินสะพัด เพราะบางประเทศ มีวัฒนธรรมการกินดื่มยามดึก


นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ยอดจองที่พักของนักท่องเที่ยวต่างชาติดีขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมาแล้ว  โดยเฉพาะโรงแรมระดับ4-5ดาว  นักท่องเที่ยว ยุโรป อเมริกา รัสเซีย เดินทางเข้ามามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึง เอเชียกลาง อย่าง คาซัคสถาน  ที่หนีหนาวเข้ามา  แต่มีโรงแรมเล็กๆยังต้องรอคอยนักท่องเที่ยวจีนอยู่  ขณะที่ยอดจองจากเอเชียตะวันออก เช่นเกาหลี ญี่ปุ่น ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันเพราะเริ่มมีการปลดล็อคมาตรการโควิด  ซึ่งสมาคมโรงแรมไทยได้สำรวจข้อมูลร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามียอดจองโรงแรมประมาณ 59%  แต่บางโรงแรม อาจจะสูง 80-90%   คาดว่า ยอดจองตลอดเดือนธันวาคมนี้ น่าจะแตะไปถึงเกือบ70%   ซึ่งอัตราการเข้าพักปกติก่อนโควิดทั้งปี ประมาณ 70%  แต่ว่าพอโควิดมาปี63เหลืออัตราการเข้าพักเพียง30% และมาปี2564 เหลืออัตราการเข้าพัก แค่ 9%  ถือว่า สถานการณ์ปีนี้กลับมาดีเกินคาด   ทั้งนี้อาจมีปัจจัยภายนอก อย่างเศรษฐกิจโลก และสงคราม ส่งผลกระทบให้ซบเซาบ้าง ในช่วงโลซีซั่นปีหน้า พ.ค.-ก.ค.66   แต่อย่างน้อยได้นักท่องเที่ยวอินเดีย และตลาดตะวันออกกลาง เดินทางเข้ามาทดแทน โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ที่มีประชากรกว่า 30ล้านคน ที่สำคัญคือมีไฟลท์บินตรงมาไทย 4เที่ยวบิน ต่ออาทิตย์ น่าจะเป็นตลาดใหญ่ในอนาคต  โดยขณะนี้โรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องกว่า 1.5 หมื่นแห่ง เริ่มทยอยเปิดเกือบ100% แล้ว แต่ปัญหาใหญ่คือขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ เพราะบางส่วนเปลี่ยนอาชีพไปแล้ว

นายกสมาคมโรงแรมไทยยังสนับสนุน นโยบายขยายเวลาปิดสถานบันเทิง ตี4 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากมาพักผ่อน เพราะพฤติกรรมของคนต่างกัน อย่างชาวอินเดียรับประทานอาหารดึก  /  สเปน รับประทานอาหาร 3-4 ทุ่ม  ดังนั้น หากมีการขยายเวลา หรือแบ่งโซน มองว่าเป็นสิ่งที่ดี  โดยเฉพาะโรงแรมที่มีสถานบันเทิง หากเสริมนโยบายขยายเวลา การดื่มแอลกอฮอล์ในโรงแรมได้ตั้งแต่ บ่าย2-5โมงเย็นได้ยิ่งดี โรงแรมจะได้ฟื้นตัวเร็ว เพราะหลายโรงแรมยังมีภาระหนี้สินจากสถานการณ์โควิด


ด้านสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า ที่รับตลาดหลักคือนักท่องเที่ยวจีน  นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมฯ  มองว่า ยอดจองในช่วงปีใหม่นี้คงไม่ได้หวือหวาอะไรหากเทียบกับปี62  ซึ่งยังรอความหวังจากตลาดจีนอยู่ เพราะเห็นสัญญาณการเที่ยวในประเทศมากขึ้น เชื่อว่า ปีหน้ารัฐบาลจีน จะเปิดให้คนออกมาเที่ยวนอกประเทศมากขึ้น  ตอนนี้ต้องหันมาทำตลาดเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ แทนที่ไปก่อน จนกว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวจะกลับมาเหมือนเดิม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “เศรษฐา 1/1”

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 แล้ว “พิชัย” รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง โยก “สมศักดิ์” นั่ง รมว.สธ. แทน “นพ.ชลน่าน”

อาลัย “ดาบต้าร์” ตร.ทางหลวง เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าเช้าวันหยุด ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ หรือ “ดาบต้าร์” เสียชีวิตแล้ว หลังบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเก๋งพุ่งชนขณะอำนวยการจราจรช่วงสงกรานต์

ไฟไหม้ “วิน โพรเสส” ยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด

กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจติดตามผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ล่าสุดยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ในปริมาณเล็กน้อย แต่บางจุดพบสารบางชนิดในระดับจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมแผนรับมือช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่