กรุงเทพฯ 6 ธ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม.ประชุมผู้บริหาร เล็งแก้ พ.ร.บ.ปี 2528 ขยายช่องทางหารายได้เพิ่ม เช่น ภาษียาสูบ ภาษีโรงแรม พร้อมเพิ่มค่าอุปกรณ์การเรียนและอาหารกลางวันศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 26/2565 ว่า วันนี้ได้พูดคุยถึงเรื่องโพลเกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีทั้งจุดที่ดีและไม่ดี จุดที่ไม่ดีก็ต้องปรับปรุง โดยเรื่องหลัก ๆ คือ ค่าครองชีพ คนเร่ร่อน และปัญหาจราจร ซึ่งค่าครองชีพต้องดูเรื่องการให้บริการให้ดี เพราะไม่ได้ให้เงิน แต่ให้ในเรื่องของการบริการ เช่น อาหารกลางวันเด็กนักเรียน การรักษาพยาบาล เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย ต้องเพิ่มการให้บริการที่มีคุณภาพ ส่วนปัญหาคนเร่ร่อน กำลังผลักดัน อาจเห็นคนเร่ร่อนเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจภาพรวมด้วย ด้านปัญหาจราจร ได้เร่งรัดให้นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น
ต่อมาเป็นเรื่องแนวทางการเพิ่มรายได้ให้กรุงเทพมหานครที่พยายามไม่ให้กระทบกับประชาชนส่วนใหญ่ เช่น ภาษียาสูบ ภาษีจากโรงแรม ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครยังไม่มีอำนาจจัดเก็บต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.ของกรุงเทพมหานคร ที่ออกในปี 2528 ก่อน จากนั้นจะสรุปรายละเอียดและนำส่งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะมีการปรับ พ.ร.บ.หลายเรื่องที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องแล้วดำเนินการครั้งเดียวพร้อมกัน อีกแนวทางที่สำคัญในการเพิ่มรายได้ คือ การจัดทำระบบสารสนเทศภาษีท้องถิ่นให้ดี มี 7 ระบบย่อย ได้แก่ 1.ระบบจัดการภาษีท้องถิ่น 2.ระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3.ระบบบริหารงานด้านการสำรวจ 4. ระบบภาษีป้าย 5.ระบบให้บริการตรวจสอบข้อมูล 6.ระบบบริหารใบเสร็จรับเงิน และ 7.ระบบบริหารจัดการลูกหนี้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตรวจรับงานจากผู้รับจ้าง
นอกจากนี้ ปรับปรุงระเบียบเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเรื่องค่าครองชีพ ซึ่งได้มีการออกระเบียบเพิ่มเงินช่วยเหลือด้านอุปกรณ์การเรียนสำหรับเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนจากเดิม 100 บาท เป็น 600 บาทต่อปี และเพิ่มค่าอาหารจาก 20 บาท เป็น 32 บาทต่อวัน แบ่งเป็นค่าอาหาร 25 บาท และค่านม 7 บาท ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาภาระของผู้ปกครองได้บ้าง ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีเด็กก่อนวัยเรียนที่ต้องดูแลประมาณ 20,000 คน.-สำนักข่าวไทย